นับเป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ดังภายใต้แฟรนไชส์ Tom Clancy’s ที่มีอายุยาวนานเกือบ 20 ปี ภาคแรก Tom Clancy’s Ghost Recon วางจำหน่ายในปี 2001 ตัวเกมเป็นแนว Tactical Shooter เกมแนวยิงที่ต้องอาศัยการวางแผน ใน 4 ภาคแรกของตัวเกมนั้นการเล่นจะเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 ก่อนจะปรับยกเครื่องใหม่ในภาค Tom Clancy’s Ghost Recon 2 (วางจำหน่ายปี 2004) ซึ่งเปลี่ยนมุมมองการเล่นเป็นบุคคลที่ 3 (แต่หลังจากนั้นก็ยังมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นแบบบุบคคลที่ 1 อยู่บ้างในภาคหลังเช่นกัน)
หน่วย Ghost คือหน่วยรบพิเศษของสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ โดยชำนาญการเข้าแทรกแซงภารกิจที่ไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผย อาทิ ในภาค Wildland หน่วย Ghost ได้ถูกส่งไปประเทศโบลิเวีย ซึ่งเป็นประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ เพื่อปราบปรามแหล่งค้าและผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ แก๊ง Santa Blanca ทว่าตัวแก๊งมีอำนาจ อิทธิพล และเงินมหาศาลจนหลายประเทศไม่กล้าเข้าไปตอแย นั่นคือเหตุผลที่ต้องส่งหน่วยรบแบบลับๆ เข้าไปจัดการ และในภาค BREAKPOINT ก็จะมีเนื้อเรื่องต่อจากภาค Wildland โดยเกิดขึ้น 4 ปีให้หลัง
เหตุการณ์เกิดขึ้นบนเกาะ Aurora ซึ่งเป็นเกาะที่สมมติขึ้นแต่อิงความเป็นจริงของสภาพแวดล้อมในแทบมหาสมุทรแปซิฟิก ตัวเกาะนั้นมีสภาพอากาศหลากหลายแบบ ไปตั้งแต่พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะ และภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ ไหนจะเขตป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยอันตราย เราจะได้รับบทเป็นตัวเอกจากภาคก่อน Nomad หัวหน้าหน่วย Ghost ที่กำลังจะได้รับการปลดเกษียณในเร็วๆ นี้ เกาะ Aurora ยังเป็นที่ตั้งของ Skell Technology ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตอาวุธไฮเทค และ Drone สุดล้ำสมัย หรือก็คืออาวุธที่หน่วย Ghost ใช้มาโดยตลอด คุณจะได้พบกับพันเอก Cole D. Walker เขาเคยปรากฏตัวในส่วนเสริมพิเศษภาค Wildland และในครั้งนี้เขากลับมาในฐานะหัวหน้าของหัวหน้าหน่วยใหม่นาม The Wolves โดยเป้าหมายของเขาคือการกำจัด Nomad นั่นเอง สำหรับเนื้อเรื่องสุดดราม่าต้องไปติดตามกันในเกมเวอร์ชั่นจริง
ส่วนตัว Beta นั้น ทาง Ubisoft ได้ปล่อยให้ทดลองเล่นแบบจัดเต็มถึง 5 วัน (5 – 9 กันยายน) ซึ่งคุณจะได้เข้าไปลองเล่นภารกิจหลักเนื้อเรื่อง 2 ภารกิจ และ ภารกิจรองอีกจำนวนมาก แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่น Highlight ของการเปิดตัวครั้งนี้ คงไม่พ้น “การแปลเป็นภาษาไทย” ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ สำหรับเกมยักษ์ใหญ่ AAA จากค่าย Ubisoft แต่ว่าจะแปลได้ดีแค่ไหน? แล้วตัวเกมภาค BREAKPOINT สนุกคุ้มค่าพอจะหามาเล่นสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นซีรี่ส์นี้มาก่อนหรือเปล่า? เรามาค้นหาคำตอบไปด้วยกัน
พันเอก Cole D. Walker อดีตหน่วย Ghost หรือหัวหน้ากองกำลัง Wolves ในภาค Breakpoint
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าผู้เขียนเคยมีประสบการณ์เล่นในภาค Wildland และในภาคเก่าบน PS3 อย่าง Future Soldier มาอยู่บ้าง และได้เคยเล่นซีรี่ส์ Division รวมไปจน Splinter Cell ที่ต้องนำมาอ้างอิงตรงนี้เพราะระบบเกมเพลย์หลายอย่างใน BREAKPOINT ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากการหยิบยืมข้อดีมาจากเกมซีรี่ส์อื่น ๆ ในเครือ Tom Clancy’s อันดับแรกคือ การเคลื่อนไหวที่ทำได้สมูธมากยิ่งขึ้น พัฒนาขึ้นจากภาค Wildland แบบเห็นได้ชัดเจน (การหมุนมุมกล้อง การเคลื่อนที่ตัวละคร) แต่จะไม่เร็วเท่าซีรี่ส์ Division ที่จะมีความบู๊เต็มตัวมากกว่า แต่ในเกมจะมีการ Loot ของทั่วทั้งฉากในหลายๆ Area และศัตรูยัง Drop ของเป็นสี (ขาว/เขีย/เหลือง) แบบใน Division อีกด้วย
การปรับแต่งทำได้อย่างอิสระ แถมจะปิดสิ่งที่ใส่กับสิ่งที่ใช้ซึ่งไม่เหมือนกันก็ได้!
เริ่มเกมมาคุณสามารถที่จะสร้างตัวละครในแบบฉบับของคุณเอง โดยจะเลือกเป็นชายหรือหญิงก็ได้ ซึ่งนี่คืออีกจุดหนึ่งที่พัฒนาขึ้น เพราะมีตัวเลือกการ Customization ให้เยอะ และพวกของตกแต่ง เสื้อผ้า หน้าผม หนวดเครา แว่นตา หมวก ผ้าพันคอ หูฟัง ของประกอบต่าง ๆ มีให้เลือกชนิดมหาศาล (เยอะกว่าภาคเก่ามาก) และมันใช้เงินภายในเกมซื้อได้เลย หวังว่ามันจะคงคอนเซ็ปต์ นี้ได้ในเกมตัวเต็มเช่นกัน โดยเมื่อเริ่มเสร็จตัวเกมจะมี Tutorial สอน Basic การเล่นให้เราทราบ
สิ่งใหม่ที่เพิ่มมาในภาค BREAKPOINT คือ เกมเพลย์ที่มีความเป็น Survival มากยิ่งขึ้นกว่าภาคไหน ๆ ด้วยความที่ศัตรูของเราเป็นอดีตหน่วย Ghost เช่นเดียวกัน พวกเขามีที่ได้รับการฝึกฝนและมีฝีมือที่ไม่ต่างจากเรา มันจึงเพิ่มความท้าทายในการเอาชีวิตรอดมากยิ่งขึ้น ไหนเลยจะฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง อาการบาดเจ็บ (ความรุนแรงเป็น 3 ระดับ) แทบ Stamina ที่จะส่งผลต่ออาการเหนื่อยล้าของคุณ ผนวกรวมกับการใช้สภาพพื้นผิวที่มีความซับซ้อน (โคลน, น้ำ, พื้นที่ลาดชัน) ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เกมเพลย์มีความสมจริง และท้าทายยิ่งขึ้น เพราะคุณไม่ใช่หน่วย Ghost ที่จะมาไล่ล่าโจรกระจอกหรือทหารรับจ้างปลายแถวอีกต่อไป
ภาคนี้อาการบาดเจ็บจะต้องใช้เวลารักษา ซึ่งเพื่อนร่วมทีมที่ดีคือทางรอดของคุณอันดับต้นๆ
ระบบคลาสที่มีให้เลือก 4 คลาสในครั้งแรกของซีรี่ส์ ประกอบไปด้วย Assault, Medic, Sharpshooter และ Panther ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยน Mix & Match ได้ตลอดทั้งเกม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเล่นเพียงคลาสเดียว คุณสามารถทำการเปลี่ยนคลาสได้ที่ Camp ซึ่งเป็นระบบใหม่อีกเช่นกันเรียกว่า Bivouac System ผู้เล่นจะสามารถตั้งแคมป์ ทำอาหาร, คราฟต์สิ่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียกยานพาหนะ และทำการพักผ่อนหรือกินอาหารเพื่อเพิ่มบัฟได้ในบริเวณนี้ แคมป์จะเป็นเสมือนจุด Fast Travel ที่จะปลดล็อคได้จากการทำภารกิจ พูดคุยกับชาวบ้านบนหมู่เกาะ Aurora ภารกิจที่มีตัวเลือกมากกว่า 1 อย่าง ในหลายๆ ครั้งเวลาทำภารกิจ ของรางวัลที่ได้จะมี่ตัวเลือกให้คุณมากว่า 1 หรือ 2 ทางเลือก เช่นคุณอาจจะอยากได้ความรู้ในเรื่องพื้นที่บนเกาะ Aurora ซึ่งสามารถปลดล็อค Fast Travel หรืออาจจะเลือก Blueprint อุปกรณ์ชั้นเทพแทนก็ได้
พลางตัวเพื่อหลบหนีโดรนตรวจค้นและเหล่าฝูงหมาป่า
คลาสในเกม 4 คลาสที่ถูกใส่มาเป็นครั้งแรก การเลื่อนคลาสจะต้องทำภารกิจแตกต่างกันไป
การทำงานเป็นทีมมีความสำคัญสูงมากในภาค BREAKPOINT ก่อนที่ผู้เล่นชาว Single-Player จะตกใจ เกมนี้สามารถเล่นแบบ Solo ได้นะคะ โดยจะมี Teammate หรือเพื่อนในทีมจะถูกบังคับโดย AI แทน ทว่าสำหรับใครที่อยากเล่นแบบ Multiplayer Co-op ก็ขอบอกว่าคุณจะ Happy มากในภาคนี้ เพราะการทำงานเป็นทีมมีความสำคัญสูงมาก ๆ อาทิ เวลาคุณบาดเจ็บ มันจะต้องใช้เวลาในการรักษาพอสมควร (แล้วแต่วาใช้อะไรในการรักษา ผ้าพันแผลก็นานหน่อย นาน-ช้า ขึ้นอยู่กับระดับอาการบาดเจ็บ) ในระหว่างนั้นเพื่อนร่วมทีมจะต้องคอย Cover หรือดูแลคุณ บางกรณีคุณอาจต้องหอบหิ้วแบกเพื่อนขึ้นบ่าเพื่อหนีจากระเบิด หรืออันตราย (สามารถแบกขึ้นรถแล้วหนีได้) ผู้เขียนชอบ Moment เหล่านี้ตอนเล่นกับเพื่อนมาก เพราะมันทำให้เราอินว่า เฮ้ย เพื่อนจะตายแล้ว หรือ การคุยกันแบบจริงจังว่าจะต้องเข้าทางไหน ใครยืนประจำตำแหน่งไหน แล้วยิงพร้อมกัน ทำให้คุณต้องวางแผนให้ดีก่อนจะทำภารกิจแต่ละภารกิจ ปรึกษากันก่อน แถมคลาสยังมีผลต่อเกมเพลย์ เช่น Medic จะสามารถชุบเพื่อนได้ไวทุกคลาส สามารถชุบตัวเองได้ทันที (ต้องคราฟต์อุปกรณ์ถึงจะใช้ได้) และสามารถแบกเพื่อนขึ้นบ่าหลบหนีได้ไวกว่าคลาสอื่น เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเป็นสาย Sniper คุณก็จะมีความสามารถที่คลาสอื่นไม่มีเช่นกัน อาทิ การกลั้นหายใจที่ดีกว่า (มีผลในการเล็งเป้าที่จะนิ่งกว่า) สิ่งเหล่านี้สามารถไปปลดล้อคใน Skill Point ได้ โดย Skill บางอย่างเป็นแบบ Active ที่ต้องเปิดใช้งานเอง แต่ Skill บางอย่างเป็น Passive ที่ส่งผลดีให้เพื่อนทั้งทีมเลยก็ได้เช่นกัน
มีลูกเล่นให้ปรับแต่งปืนมากมายมหาศาลตามใจนึก ทั้งแบบซื้อจากร้านค้าและค้นหาจากภารกิจ
เกมเพลย์ในตัว Beta นั้น ผู้เขียนชอบความผสมผสานด้านเกมเพลย์ ที่ไม่ได้เปิดมาแล้วบู๊สนั่นชนิดแจกกระสุน แต่คุณต้องเอาชีวิตรอดเสียก่อน ไปตั้งหลักแล้วค่อยๆ แฝงตัวไปสอยฆ่าศึกทีละตัว (หรือทีละกอง) คุณจะต้องทำการสืบว่ามันเกิดอะไรขึ้นบนเกาะ Aurora แห่งนี้ และศึกษาศัตรูของคุณเอง The Wolves ระหว่างทางก็จะมีภารกิจรอง-ย่อยให้ทำมากมาย หรือแค่เดินใน Map คุณอาจจะเจอเควสชาวบ้านถูกจับเป็นตัวประกันให้ช่วยเหลือก็ได้ คือมีอะไรให้ทำในเกมเยอะมาก ๆ บทจะลอบเร้นเข้าไปขโมยข้อมูลก็ทำได้สนุก บทจะบู๊ก็ให้ฟิลลิ่งที่ทำให้เราและเพื่อนร่วมทีมฮึกเหิมไม่แพ้กัน
เห็นครั้งแรกใจมันหวิวๆ น้ำตาก็จะปริ่มๆ ด้วยความดีใจ ในที่สุดเกมเมอร์ไทยก็มีวันนี้กันอีกครั้ง
สิ่งสุดท้ายที่ไม่พูดเห็นจะไม่ได้ก็คือ “ภาษาไทย” ผู้เขียนได้ทำการทดลองเล่นทั้งบน PS4 และบน PC สำหรับ PC นั้นการติดตั้งก็สามารถเลือกภาษาไทยได้ตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนบน PS4 ก็ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยน Setting การตั้งค่าระบบเครื่องอะไร แค่เลือกตอนเริ่มต้นเกม การแปลนั้นถือว่าทำได้ผ่าน เรียกว่าเกินมาตรฐานที่คาดหวังไว้ ภาษาที่ใช้กำลังดิบกำลังดี แต่ก็ค่อนข้างจะ Play Safe ไปหน่อย เช่น บทสนทนาบางอย่างภาษาอังกฤษจะหยาบคายกว่าถ้าเทียบกับไทย ปัญหาที่พบไม่ใช่สระลอย แต่เป็นสระจม พวก ไม้เอก ไม้โท มันทับกับตัวอักษร ไม่ถึงขนาดอ่านไม่ออก และไม่ได้เป็นในทุกบทสทนา แต่มีให้เห็นประปราย การแปลนั้นแปลชนิดว่าแทบจะทุกสิ่งอย่าง ทั้งแปลแบบเพื่อให้เข้าใจความหมาย และแปลแบบทับศัพท์ เช่น พื้นที่ในเกม อ่าวสมักเกลอร์, หุบเขาแช็คส์ ภารกิจทั้งหมด (รวมไปจนรายละเอียด) ชื่อ Item แม้กระทั่งการประกอบปืนก็ได้รับการแปลทั้งหมด บอกตรง ๆ ว่าประทับใจนะ แต่สำหรับคนที่เล่นเกมมานานมาก ๆ อาจมีมึนเพราะเราชินกับภาษาอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนคิดว่ามันคือก้าวแรกทียิ่งใหญ่มาก ๆ และรอคอยที่จะได้เห็นเกมซับไทยเกมต่อ ๆ ไปจาก Ubisoft สำหรบเกมตัวเต็มนั้นจะมาพร้อมภารกิจจำนวนมหาศาล และยังมีโหมด PvP Ghost War รอคอยคุณอยู่ กับประสบการณ์สู้ 4v4 สุดเข้มข้น ในวันวางจำหน่ายจะมีให้เล่น 2 โหมดคือ Team Death Match และ Sabotage หรือโหมดวางระเบิด ที่ต้องยับยั้งอีกฝ่ายและทำการวางระเบิดของทีมตัวเองให้สำเร็จให้ได้
จุดเด่น
– เกมเพลย์ที่ได้รับการปรับปรุงจากซีรี่ส์ Ghost Recon ภาคก่อนๆ แบบยกเครื่อง ความเป็นโลกเปิด Open World แบบเต็มสูบ หรือมุมกล้อง, การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขึ้น ระบบใหม่ๆ อาทิ การตั้งแคมป์, การเลือกคลาส หรือสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อเกมเพลย์ ทำให้ประสบการณ์การเล่นสนุกและสมจริงขึ้นมาก ๆ
– การ Co-op ที่สนุก มีความหมาย เป็น Tactical shooter ชั้นดีที่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยการสื่อสารกับเพื่อนที่ดี ถูกใจผู้เล่นแบบเป็นทีมแน่นอน
– ยังคงเล่น Solo คนเดียวได้ โดยมี AI เป็น Teammate ให้คุณแทน
– ซับภาษาไทย แปลทุกสิ่งอย่าง ตั้งแค่บทสนทนา, เมนู, ไอเทมในเกม ไปจนพื้นที่เรียกของ Area ต่างๆ เล่นเกมคราวนี้ไม่ต้อกลัวงงหรือไม่เข้าใจเนื้อเรื่องอีกต่อไป แม้คุณจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็จะสนุกไปกับเกมได้แบบ 100%
– การ Customization ที่เอาใจผู้เล่นทุกกลุ่ม ตั้งแต่ปรับแต่งซับ (เล็ก-ใหญ่ มีฉากหลังก็ได้) ไปจนการปรับแต่งตัวละคร หรือ ปิดการปรับแต่งตัวละคร (เลือกโชว์ในสิ่งที่คุณอยากให้คนอื่นเห็นเท่านั้น) คือต่อให้อาวุธบางอย่าง Stat เทพ แต่ภาพลักษณ์ห่วย ไม่ต้องกลัวคนอื่นจะเห็นอีกต่อไป 555+ เป็นอะไรที่ดีงามมากๆ
– Content มหาศาล ขนาดตัว Beta มีภารกิจหลักเนื้อเรื่องให้ทำเพียง 2 ภารกิจ และภารกิจย่อยจำนวนหนึ่ง แต่กลับมีสิ่งให้ทำเยอะแยะมาก ทั้งการค้นหาพื้นที่ใหม่ๆ การปลดล็อคจุด Fast Travel การปรับแต่งปืนที่จะกินเวลามหาศาล (ในการหาชิ้นส่วนชั้นดีต่าง ๆ) การเดินสำรวจหมู่เกาะ Aurora แล้วเจอพื้นพันธุ์ สัตว์ต่างๆ มากมาย ถ้าไม่ติดว่าเราต้องหนีตาย มันก็ไม่ต่างอะไรจากการมาพักตากอากาศเลย ตอนขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วมองลงไปนี่สวยงามมากๆ ค่ะ
จุดสังเกต
– บัค บัค และ บัค! เข้าใจว่าตัวเกมเป็น BETA แต่ผู้เขียนประสบพบเจอ “บัค” ของตัวเกมทั้งบน PS4 และ PC อาทิ ปืนหาย มือถือแบบลอยๆ เพื่อนร่วมทีมหายตัวได้ซะงั้น (ทั้งที่อยู่กับเรา ผีหลอกจริงๆ) หรือบัคแรงๆ หน่อยก็อย่างเช่น ติดในบางพื้นที่แล้วออกไม่ได้ ต้องรี Mission ใหม่ หวังว่าเกมตัวเต็มจะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปนะ
– ภาษาไทย แน่นอนล่ะว่าในฐานะเกมเมอร์ชาวไทย เราต้องดีใจอยู่แล้วที่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Ubisoft ใส่ซับไทยมาให้เกมให้พวกเราเข้าใจและสนุกกับเกมได้ดีขึ้น ทว่าการแปลในหลายๆ จุดก็เพี้ยนๆ อยู่บ้าง เช่น NPC เด็กเรียกเราซึ่งเป็นทหารอายุเกิน 40 ว่า “แก” มันก็จะตลกๆ ขำๆ ไปหน่อยนะคะ 555+ หรืออย่าง
– ยานพาหนะ ให้ความรู้สึก “เบา และ ลอย” คือพังง่ายเกินไป แตะนิดแตะหน่อยระเบิดแล้ว ไม่บาลานซ์เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับตัวเราที่โดนขนาดระเบิดแล้วยังไม่ตาย…
– NPC ชาวบ้าน หรือ นักวิจัยของ Skell Technology ยังไม่มีความเป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ คือ บางทีก็ยืนท่ามกลางห่ากระสุนแบบไม่หลบ… บางทีก็พูดอะไรแปลกๆ เช่น ฉันรำคาญหน้านายเสียจริง ออกไปจากตรงนี้ซะ (หืมมม!??)
สำหรับ Tom Clancy’s Ghost Recon BREAKPOINT จะวางจำหน่ายเกมตัวเต็มในวันที่ 4 ตุลาคมที่จะถึงนี้ สำหรับ PlayStation 4, Xbox One และ PC เพื่อนๆ สามารถเลือกเล่นได้ตามใจชอบ โดยทำการสั่งซื้อบน Ubisoft Store Thailand, PSN Store Thailand และ Microsoft Store
สามารถติดตามข่าวสารภาษาไทยของเกม Tom Clancy’s Ghost Recon BREAKPOINT และเกมอื่นๆ ของ Ubisoft ได้ทาง Faceook และ Youtube
