[รีวิว] Nintendo Switch 2 Camera กล้องเว็บแคมขนาดพกง่ายสบายกระเป๋า

Nintendo Switch 2 ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคแรงๆ เพื่อการเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเปิดโอกาสให้ทางค่ายใส่ไอเดียและฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ GameChat ที่ได้ต่อยอดมาจาก Wii U Chat ให้เซิร์ฟเวอร์ออนไลน์รองรับการพูดคุยแบบ Voice / Video Call ได้ง่ายๆ จากหน้าจอโฮมกันเลย โดยในส่วนของการคุยด้วยเสียงนั้นหลังจากทำการผูกเบอร์โทรศัพท์เข้าบัญชีก็พร้อมใช้งานทันทีด้วยไมโครโฟนติดเครื่องแบบไม่ต้องสืบ

แต่สำหรับการใช้ฟังก์ชัน Video Call นั้น ด้วยความที่คอนโทรลเลอร์ของ Switch 2 ไม่ได้มาพร้อมกับกล้อง ซึ่งถ้าจะใส่มาด้วยกันจริงก็ไม่รู้ว่าจะยัดไปตรงส่วนไหนของจอยเกมดี ดังนั้น Nintendo จึงมีทางเลือกให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อกล้องเว็บแคมเป็นเจ้าของได้ และเป็นกล้องที่ตนเองผลิตเองเลยด้วยนั่นคือ Nintendo Switch 2 Camera ในชื่อสุดเรียบง่าย และรูปโฉมเองก็เรียบง่ายตามสไตล์การออกแบบในแนวคิดของเครื่องเล่นนี้ด้วยเหมือนกัน วันนี้เอง ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดครับที่จะนำมารีวิวให้ทุกคนได้รู้จักกับอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้มากขึ้น

โฉมแรกของ Nintendo Switch 2 Camera

ตัวกล่อง Nintendo Switch 2 Camera นั้นออกแบบมาในโทนขาวและมีรูปของกล้องให้เราเห็นกันชัดๆ เลยว่าสินค้าข้างในเป็นอย่างไร และเมื่อแกะออกมา สิ่งที่เราจะได้รับก็เป็นตามนั้นจริงๆ ครับ นั่นคือกล้องเว็บแคมขนาดจิ๋ว ติดตั้งมากับฐานวาง และมีสาย USB-C to C สีดำเข้ากันมาให้หนึ่งเส้น โดยตัวพอร์ตนั้นจะซ่อนอยู่ใต้กล้องบริเวณด้านล่างใกล้กับก้าน วัสดุส่วนก้านเหมือนอลูมินัมจับแล้วเย็นๆ มั่นคงดีครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่สามารถยืดก้านขึ้นลงปรับตำแหน่งได้นะครับ แต่เราจะจับคอแพนขึ้นลงได้นิดหน่อยครับ

สเปคของตัวกล้องไม่ได้มีการให้รายละเอียดใดนอกจากกระดาษระบุว่า 1080p ซึ่งเป็นความละเอียดสูงที่เป็นมาตรฐานปัจจุบัน โดยเมื่อเสียบเข้ากับเครื่องแล้วจะเปิดใช้งานได้เลย จากการทดสอบพบว่าเมื่ออยู่ในห้องที่ปิดไฟและมีแสงจากหน้าต่างเล็กน้อย กล้องจะไม่สามารถจับภาพได้ ดังนั้นไม่เหมาะกับที่มืดแม้มีแสงจากโทรทัศน์เข้ามาบนหน้าของเรา แต่ถ้าห้องสว่างด้วยแสงธรรมชาติ จะให้ภาพที่สว่างมากที่สุด ส่วนห้องที่ปิดม่านและเปิดไฟที่หลายคนอาจจะใช้เป็นส่วนใหญ่ พบว่าจับภาพได้ระดับที่โอเคไม่แย่ครับ ความสดของสีไม่ต้องพูดถึง ชืดครับ

นอกจากนี้การใช้งาน Nintendo Switch 2 Camera ยังรองรับไปถึงการใช้ร่วมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วย แต่ก็ไม่ได้พัฒนามาเพื่อเล่นกับ PC โดยตรงดังนั้นจึงไม่ได้นำมาติดใจอะไร ทว่าก็อาจจะพอไหวสำหรับใครที่อยากนำมาเป็นประโยชน์ด้านอื่นครับ ซึ่งเราก็จะมาโฟกัสกันกับการใช้งานหลักๆ ที่เจ้ากล้องตัวนี้จะได้ใช้กันกับเครื่องเกม ว่าแล้วไปกันต่อในหัวข้อถัดไปเลยครับ

การใช้งานส่วนของ GameChat – Video Call

แน่นอนว่า GameChat นั้นเป็นพระเอกของรีวิวนี้ การที่มีกล้องเข้ามาเพิ่ม ก็ทำให้รูปแบบการติดต่อสื่อสารของเกมเมอร์สายนินเทนโดสนุกมากขึ้นเพราะเราจะได้เชื่อมต่อกับเพื่อนกันแบบแนบชิดมากขึ้นกว่าที่เคยนั่นเองครับ การใช้กล้องจะมีสองรูปแบบเป็นหลัก อย่างแรกคือ Video Call ซึ่งพอเราเสียบกล้องปุ๊บ ระหว่างที่อยู่ในเมนู GameChat เราจะเห็นไอคอนสำหรับเปิด – ปิดตัวกล้องให้ใช้งานนั่นเองครับ รูปแบบการใช้แบบนี้จะเหมือนกับเวลาเราทำการคอลกับเพื่อนๆ ในโซเชียลมีเดียอื่นเลยครับ

การใช้อีกรูปแบบคือเราสามารถใส่ฟังก์ชันคล้าย Chroma Key ได้ และจะปรากฏตัวอยู่ด้านขวาล่างของจอสตรีมภาพ (ยิงขึ้นอัตโนมัติเมื่อแชร์ขึ้นเกมเพลย์) โดยในเมนู GameChat จะมีเครื่องมือปรับแต่งอยู่ เราสามารถเลือกให้ตัดพื้นหลังได้เลย ซึ่งถ้าเกิดเราอยู่ในห้องมืดแบบกรณีข้างบน พบว่าตัดฉากได้ในระดับพอใช้ จุดนี้คิดว่าเป็นปัญหาที่ซอฟต์แวร์ของเครื่อง เพราะ MacBook Air (2022) ก็สามารถตัดฉากหลังได้ดีมากๆ แม้จะเป็นกล้อง 1080p ก็ตาม

จุดที่น่าสังเกตก็คือเวลาที่เราทำการสตรีมภาพการเล่นเกมระหว่างวิดีโอคอล GameChat สังเกตได้ว่า หากเพื่อนที่เป็นคู่สนทนาไม่ได้กดปุ่มเข้ามาดูสตรีมของเรา กล้องของเราจะลดเฟรมเรตลงไปด้วยเหมือนกับตัวเกม แต่เมื่อคู่สนทนาเข้ามาชมภาพของเราแล้วก็จะราบรื่นตามปกติครับ ท้ายที่สุด Field of View จะปรับไม่ได้นะครับ ระยะของกล้องเองก็กว้างมากๆ ด้วยครับ หากใช้เพื่อการวิดีโอคอลแบบไม่ใส่เอฟเฟกต์ตัดฉากหลังขอบอกว่าเหมือนกับภาพที่ซูมออกตลอดเวลา

Nintendo Switch 2 Camera กับวิดีโอเกม

ในส่วนของการใช้งานกับวิดีโอเกม ปัจจุบัน ณ เวลาที่เขียนรีวิวนี้ยังมีเกมจำนวนไม่ค่อยมากเท่าไร แต่ผมลองใช้งานกับเกมที่รองรับเกมหลักแล้วคือ Mario Kart World โดยลักษณะการใช้งานนั้นจะคล้ายกับเกมอาร์เคด Mario Kart GP เลยครับ นั่นคือกล้องจะจับใบหน้าของเราแล้วใส่มาเป็นไอคอนลอยอยู่ข้างๆ กับโมเดลตัวละคร และตอบสนองตามสถานการณ์ เช่นหากโดนเต่าก็จะหน้าหมุนติ้วๆ ซึ่งเราจะใช้กล้องได้แค่เพียงกับโหมดออนไลน์ร่วมกับเพื่อนอย่างเดียวครับ โหมดออนไลน์แบบสุ่มห้องใช้ไม่ได้นะ

เมื่อมีแค่เกมเดียวที่ใช้ฟีเจอร์หลักๆ ในตอนนี้ อนาคตพวกเราก็ต้องรอลุ้นกันว่าเกมใหม่ๆ อย่าง Super Mario Party Jamboree ชุดอัปเกรดนั้นจะใช้งานได้ดีหรือเปล่า เพราะจะเป็นการจับภาพเราใส่ Chroma Key ตัดพื้นหลังทั้งร่างกายเลย ให้เราได้มีโอกาสเป็นคนเล่นมินิเกมตรงๆ เช่นการทำท่ากระโดดโหม่งเป็นต้น ลูกเล่นเหล่านี้ไม่ใช่ของที่ Nintendo ไม่เคยทำ แต่กับ DSi และ 3DS เคยมีไอเดียฮาๆ กันมาแล้ว คาดหวังกันได้เลยว่าแจ่มแมวอย่าเพิ่งกังวล

ข้อตำหนิ

อย่างแรกก็คือความสดของกล้องที่แม้จะเป็น 1080p แต่ก็ไม่ถือว่าคมชัดเท่าไรนักครับ และลูกเล่นสำหรับ GameChat ก็มีเพียงแค่การตัดพื้นหลัง กล้องไม่ได้มีลูกเล่นอื่นนอกจากนี้เลย ข้อถัดมาก็คือการออกแบบของกล้องที่เหมือนให้ใช้งานเพื่อโหมดโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว แม้จะใช้กับโหมดตั้งโต๊ะได้ เพราะตัวกล้องมันติดมากับฐานวางเรียบร้อยที่ปรับหดยืดไม่ได้ครับ และท้ายที่สุดด้วยราคาที่ 319 ดอลลาร์ฮ่องกง (1,350 บาทโดยประมาณ) ผมคิดว่าเราอาจพิจารณาลองหากล้อง USB-C ใกล้ตัวมาใช้กล้อมแกล้มแทนก็ได้ ความคมชัด ความสด มันน่าผิดหวังไปนิด

บทสรุป รีวิวกล้อง Nintendo Switch 2

Nintendo Switch 2 Camera มาพร้อมกับการออกแบบที่ค่อนข้างเรียบหรู แต่การใช้งานจริงที่ยังจำกัดเพียงไม่กี่เกม และลูกเล่นที่อยู่ใน GameChat ที่มีเพียงอย่างเดียว ผมคิดว่าคงต้องรอดูกันไปก่อน ที่สำคัญหากไม่มีเพื่อนเล่นด้วย การเปิดกล้องคนเดียวมันทั้งเหงาทั้ง Awkward เลยครับ (ฮา) แต่ถ้าใครคิดว่าใช้งานได้คุ้มกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย อยากหามาเล่นก็ไม่ว่ากัน ทั้งนี้ขอให้พิจารณาจากราคาให้ดีว่ากล้องเว็บแคมตามท้องตลาด กับกล้องนี้ มันมีอะไรเหมือน มีอะไรเกิน หรือมีอะไรขาด ที่ทำให้เราต้องอยากได้หรือเปล่า

เกี่ยวกับเครื่องเล่นเกม

เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ววันนี้ เริ่มต้นราคาที่ 17,800 บาท

สำหรับใครที่สนใจรีวิว และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ อย่าลืมติดตามได้จาก ThisIsGame Thailand ข้างล่างนี้เลยครับ

[รีวิว] Nintendo Switch 2 อสูรกายร่างจิ๋ว อัปเกรดครั้งใหญ่ที่ทำดีขึ้น (เกือบ) ทุกด้าน