[รีวิว] Neko Odyssey – สำรวจเกาะถ่ายภาพเหมียวน้อยสุดคาวาอี้

Neko Odyssey เป็นเกมผจญภัยสบาย ๆ ที่ให้คุณถ่ายภาพแมวในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง โดยกราฟิกภายในเกมนี้จะเป็นแบบพิกเซลในฉาก 3 มิติสร้างบรรยากาศที่น่ารักชวนให้นึกถึงอนิเมชั่นญี่ปุ่น คุณจะต้องค้นหาแมวในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองและถ่ายภาพเพื่ออัปโหลดไปยังโซเชียลมีเดียในเกม แต่ละรูปที่คุณอัปโหลดจะได้รับไลก์จากชาวเน็ต เมื่อคุณได้รับไลก์มากขึ้น คุณก็จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น

และในวันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสออกเดินทางไปสำรวจเกาะแมวกับมิกิมาแล้ว และเราก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC และตัวเกมเป็นเวอร์ชั่น 1.0.12 และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้

กราฟิกพิกเซลที่โดดเด่น เล่นได้ลื่นไหลไร้กังวล

กราฟิกภายในเกมนี้ใช้เป็นกราฟิกพิกเซล ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่ากราฟิกของตัวละครต่าง ๆ เช่นตัวละครหลัก แมว รวมไปถึง NPC ที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้จะเป็นกราฟิกแบบพิกเซลแบบชัดเจน ในขณะที่กราฟิกพื้นหลัง พวกอาคารบ้านเรือน หรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จะถูกทำออกมาให้เป็นพิกเซลที่มีความละเอียดกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน ทำให้โดยรวมแล้วกราฟิกในเกมนี้เค่อนข้างละมุนตาและมีเอกลักษณ์อยู่พอสมควร และในส่วนของความลื่นไหลในการเล่นเกมนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะว่ากราฟิกเกมนี้ไม่ต้องใช้สเปคคอมแรงมากนัก ทำให้การเล่นเกมนี้ลื่นไหล ไม่มีสะดุดแน่นอน

เกมเพลย์ถ่ายรูปสุดชิลล์ ที่คุณจะต้องมีความละเอียดในการสำรวจ

เกมเพลย์หลักของเกมนี้ก็คือ การออกสำรวจเมืองเพื่อถ่ายภาพแมวที่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยแมวเหล่านั้นก็จะมีทั้งแมวทั่ว ๆ ไปที่หาได้ตามท้องถนน ไปจนถึงภายในอาคารต่าง ๆ นอกจากนี้แมวบางตัวก็จะเป็นแมวพิเศษที่จะออกมาแค่บางช่วงเวลาเท่านั้น เช่นแมวอ่านหนังสือที่จะปรากฎตัวในร้านหนังสือตามเวลาที่กำหนด หรือแมวปั้นไหที่จะปรากฎแค่บางเวลาเท่านั้น โดยระยะเวลาในการปรากฎตัวของแมวก็จะแตกต่างกันออกไปทำให้เราจะได้เห็นว่ามีทั้งแมวที่เจอตัวได้ง่ายระดับ Common และเจอตัวยากระดับ Rare เพราะอาจจะปรากฎแค่สัปดาห์ละ 1 วัน วันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้นก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามแมวทั่ว ๆ ไประดับ Common นั้นก็ไม่ได้มีแค่แบบเดียวให้เราได้ตามหา เพราะเท่าที่ผู้เขียนสังเกตก็พบว่าแมว 1 ตัวจะมีลีลาท่าทางในการถ่ายภาพแตกต่างกันออกไปอย่างน้อย 2-3 แบบด้วยกัน ทำให้บางครั้งเราอาจจะเจอแมวตัวเดิม แต่ปรากฎตัวในสถานที่ใหม่ หรือมาในท่าใหม่ ๆ ทำให้เราได้ภาพที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดนี้เองทำให้การสำรวจเมืองนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าเราจะเจอเหมียวน้อยที่ยังไม่เคยเจอหรือไม่

อย่างไรก็ตามหากใครไม่ใช่เกมเมอร์สายสำรวจจริง ๆ อาจจะรู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากว่าเกมนี้ไม่มีมาร์คเกอร์บอกว่าเควสต้องไปที่ไหน ไม่มีมินิแมป ไม่มีสัญลักษณ์บอกว่าเราถ่ายแมวตัวนี้ (รวมไปถึงท่านี้) ไปหรือยัง รวมไปถึงคำใบ้บางอย่างที่อาจจะไม่ชัดเจนแบบ 100% ทุกครั้ง เพราะตัวเกมมุ่งเน้นให้เราได้สำรวจเป็นหลัก ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการสำรวจและความจำล้วน ๆ ซึ่งหากใครเคยเล่นเกม Shin chan: Me and the Professor on Summer Vacation มาก่อนก็คงจะคุ้นชินกับเกมแนว ๆ นี้ หรือถ้าคุณเป็นเกมเมอร์วัยเก๋าหน่อยเรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ยุคใหม่ที่เคยชินกับการที่ทุกอย่างมีมาร์คเกอร์บอกชัดเจน อาจจะรู้สึกขัดใจอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งก็ถือว่าเป็นประเด็นที่เข้าใจได้ครับ

เนื้อเรื่องที่สอดแทรกความเข้มข้น แต่ไม่หนักจนเกินไป

ในส่วนของเรื่องราวภายในเกมนี้ก็จั่วหัวมาชัดเจนว่า “เกาะแมวเคยมีศึกระหว่างแมวเทพกับปีศาจ” ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะมองว่า “เดาทางง่าย” ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกสนใจไม่น้อยก็คือเรื่องราวปลีกย่อยที่สอดแทรกอยู่ในเกมนี้ เพราะผู้เขียนรู้สึกว่าทางผู้พัฒนาเกมได้พยายามสอดแทรกประเด็นที่น่าสนใจเข้ามาในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเควสตามหาฉมวกของชาวประมงที่มีประเด็นให้ได้คิด ประเด็นฝันร้ายของตัวละคร (ขออนุญาตไม่พูดถึงในเชิงลึกเพราะจะเป็นการสปอยล์) ที่ถ้าหากเราอ่านดี ๆ ก็จะพบว่าทางผู้พัฒนาเกมต้องการสอดแทรกประเด็นสังคมในปัจจุบันเข้ามาให้เราได้ติดตามพอเป็นน้ำจิ้ม แม้ว่าจะน่าเสียดายที่บางประเด็นอาจจะไม่ได้เจาะลึก แต่ในทางกลับกันการไม่เจาะลึกมากก็ยังทำให้โทนของเกมไม่ดาร์กจนเกินไป ซึ่งก็เป็นจุดที่เข้าใจได้ครับ

เควสย่อยในเกมยังน้อยจนกลายเป็นจุดที่น่าเสียดาย

แต่สิ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างเสียดายในตอนนี้ก็คือผู้เขียนรู้สึกว่า NPC หลาย ๆ ตัวยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เช่นลูกคนรวยกับบอดี้การ์ดที่มาเต๊าะสาวร้านเสริมสวยที่ผู้เขียนรู้สึกว่าน่าจะมีการใส่เควสย่อย หรือใส่เรื่องราวให้เราได้ติดตามกันบ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าเราจะได้เห็นแค่ตัวละครนี้มาเต๊าะเฉย ๆ ซึ่ง NPC ตัวอื่น ๆ ในเกมนี้เท่าที่ผู้เขียนดูก็ยังอยากรู้จักพวกเขาเหล่านี้ให้มากขึ้น

อีกทั้งช่วงสำคัญที่เราจะต้องตามหาแมวพิเศษตามเนื้อเรื่องซึ่งผู้เขียนแอบลุ้นว่าจะมีอะไรให้ทำ หรือเราจะได้คุยอะไรกับพวกเขา กลับกลายเป็นเราวิ่งไปเจอ แล้วก็ถ่ายรูป แล้วก็เสร็จ… แค่นั้นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่แอบเสียดายไม่น้อย รวมไปถึงร้านขายอาหารที่น่าจะมีอะไรให้เราได้ซื้อมากินจริง ๆ ที่ในตอนนี้ยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ซึ่งเราก็ต้องมาลุ้นกันว่าทางผู้พัฒนาเกมจะใส่เควสเรื่องราวหรือรายละเอียดของ NPC เหล่านี้มาให้เราได้ติดตามกันหรือไม่ในอนาคต

มัดรวมมินิเกมแก้เบื่อหลากหลายแนวที่เข้าธีม น่าเสียดายที่บางเกมเล่นได้รอบเดียว

นอกเหนือจากการถ่ายรูปแมวแล้ว เกมนี้ยังมาพร้อมกับมินิเกมที่สอดแทรกมาให้เราได้เล่นกันบางส่วน เช่นมินิเกมขโมยขนมจากแมว, มินิเกมย่องจับแมว, มินิเกมย่างเนื้อ, การต่อสู้ Turn-Based ที่คุ้นตา และอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมินิเกมเหล่านี้ก็เป็นการปรุงแต่งรสของเกมให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะผู้เล่นจะได้รู้สึกว่ามีอะไรให้ได้ทำมากกว่าการวิ่งตามหาแมวเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามจุดที่ผู้เขียนรู้สึกเสียดายมาก ๆ ก็คือมินิเกมเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วเราจะได้มีโอกาสเล่นเพียงรอบเดียวเท่านั้น (เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเควสย่อยที่ปรากฎ) ซึ่งมันคงจะดีไม่น้อยถ้ามินิเกมเหล่านี้สามารถเล่นซ้ำได้ครับ

สรุปรีวิว

Neko Odyssey เป็นเกมลำดับที่ 3 ของทาง SECRET CHARACTER และต้องบอกว่าเป็นเกมแรกของค่ายที่ทำเกมแนวสำรวจกึ่งโลกเปิด ซึ่งผลงานของพวกเขาในครั้งนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจด้วยเกมเพลย์เบาสมอง แมวน้อยน่ารักเพียบ รวมไปถึงเรื่องราวที่เข้มข้นในระดับพอดี ๆ แต่เกมจะสมบูรณ์มากกว่านี้ถ้ามีการเพิ่มคอนเทนต์เข้าไปอีกหน่อยเพื่อให้เกมไม่รู้สึกโล่งจนเกินไป

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกละมุนตา สวยงาม เล่นได้ลื่นไหล

– เกมเพลย์สุดชิลล์ สำรวจเมืองแบบไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย

– แมวให้ถ่ายภาพเยอะ แต่ละตัวก็มีท่าหลากหลาย รวม ๆ แล้วมีภาพให้เก็บมากกว่า 150 ภาพ

– เนื้อเรื่องสอดแทรกความเข้มข้นมาในระดับที่กำลังดี ไม่เยอะจนทำลายโทนความชิลล์ของเกม แต่ก็ไม่น้อยจนไม่รู้สึกอะไร

ข้อสังเกต

– ไซด์เควสยังน้อยไปนิด ทำให้เหมือนเกมมีคอนเทนต์น้อยไปหน่อย ทำให้กลายเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะมี NPC ที่น่าติดตามอีกหลายตัว

– มินิเกมส่วนใหญ่เล่นได้ครั้งเดียว ซึ่งก็น่าเสียดายเช่นกัน

– ไม่ค่อยมีตัวช่วยในการสำรวจมากนัก อาจจะทำให้ผู้เล่นบางคนหงุดหงิดได้

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<