[รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ
การกลับมาในรอบ 14 ปีของเกมสปินออฟสุดน่ารัก
![[รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ 1 [รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/11/03-sims_FB.jpg)
The Sims นั้นไม่ได้มีเพียงแค่เกมภาคหลักที่เป็นรูปแบบจำลองชีวิตเท่านั้น ทว่ายังแตกไลน์เป็นเกมอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ในช่วงกลาง 2000s เป็นเวลาสั้นๆ ได้มีการนำเสนอประสบการณ์เกมในรูปแบบสปินออฟ ยกเครื่องใหม่ด้วยกราฟิกการ์ตูนและตัวซิมส์แบบ SD ร่างจิ๋วออกมาถึง 5 – 6 ภาค ก่อนจะหายไปยาวๆ ทิ้งให้แฟนเกมคิดถึง จนกระทั่งวันนี้ก็ได้กลับมาใหม่พร้อมสองภาคที่เป็นเหมือนกับรากฐานอันแข็งแกร่งในชุด MySims Cozy Bundle ที่วันนี้ได้เปิดให้เล่นกันแล้ว และพวกเราก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวให้ฟังด้วย
ทำความรู้จักกับ MySims
ภายในชุด Cozy Bundle นี้ถูกบรรจุมาด้วยเกมสองภาคคือ MySims ตัวต้นฉบับ และ MySims Kingdom ที่เป็นการอ้างอิงจากเวอร์ชัน Wii ทั้งคู่ โดยสองเกมนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยครับในการนำเสนอดังนั้นขอเชิญหยิบป๊อบคอร์นมากินรอกันได้เลยเนื่องจากต้องอธิบายกันยาวสักนิด เริ่มจากเกมแรกที่ถูกออกแบบมาให้เป็นเหมือนกับเกม The Sims ที่ลดสเกลลงมาเป็นโลกใบเล็กๆ สำหรับเด็กๆ ขณะเดียวกันก็จะมีโครงสร้างคล้ายกับเกมเวอร์ชันคอนโซลในยุค Bustin’ Out หรือภาค 2 – 3 ส่วนภาค Kingdom นั้นแม้จะยังมีการควบคุมคล้ายกัน ทว่าก็ผสมความเป็น RPG มีเนื้อเรื่องด้วย
My Sims พาผู้เล่นเดินทางสู่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง โดยเราสามารถสร้างตัวละคร SD ออกมาได้อย่างอิสระ และดูไม่เป็นชาวซิมส์เลยด้วยซ้ำ เป็นเหมือนมนุษย์ตัวเหลี่ยมไซส์จิ๋วลายเส้นคนละแบบกับซิมส์ทั่วไป แต่ยังใช้ภาษาซิมลิชสื่อสารเหมือนเดิม ผู้เล่นสามารถเดินไปมาได้เองแบบไม่ต้อง Point-and-click พร้อมทำภารกิจต่างๆ ที่ชาวเมืองมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งไอเดียโดยรวมจะให้ความรู้สึกเหมือนกับการสานสัมพันธ์ การเนรมิตเมืองขึ้นมาใหม่ รับเควสต์ที่โดยมากมักเป็นการตามหาไอเทมมาคราฟต์ หรือเป็นส่วนผสมสำหรับทำเท็กซ์เจอร์ต่างๆ ให้กับเฟอร์นิเจอร์ของเรา และถูกต้อง! เราสามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงออกแบบบ้าน ได้อย่างอิสระเลย
![[รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ 2 MySims Cozy Bundle รีวิว](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/11/00-sim_1-1024x578.jpg)
ถัดมาที่เกม MySims Kingdom จะให้ความสำคัญกับการดูแลอาณาจักรตามชื่อภาคเลย ซึ่งเราจะต้องให้ความช่วยเหลือพระราชา Roland และทำงานร่วมกับ NPC อีกสองคนที่ตามมาจากเกมภาคแรก อีกทั้งดินแดนที่เราจะได้ดูแลนั้นไม่ได้มีแห่งเดียว แต่ยังมีแห่งอื่นๆ ที่ล้วนมีคอนเซปต์ไม่เหมือนกัน อุปกรณ์ของเราที่มีคู่ใจก็คือคทาวิเศษช่วยเรียกเมนูสร้างสรรค์สิ่งของต่างๆ ขึ้นมาได้แบบไม่ต้องมีวัตถุดิบเหมือนเกมภาคที่แล้ว ทั้งนี้จะมีระบบ Mana เข้ามาใช้งานแทน และท้ายที่สุดก็อย่างที่บอกกันว่ามีเนื้อเรื่องให้ติตดามแล้วด้วย (ภาคหลักก็มีแต่เรื่องหลวมมากกก…)
หากจะเปรียบเทียบกันก็คงไม่ได้เพราะทั้งสองมีคอนเซปต์การออกแบบที่ไม่เหมือนกัน เพราะขณะที่ MySims มีความเอนเอียงไปในรูปแบบ Sandbox มีความอิสระในการให้เราได้ออกแบบสิ่งของต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ แต่สำหรับ MySims Kingdom จะเป็นเหมือนการหยิบระบบนั้นมาต่อยอดด้วยเนื้อเรื่อง และตัวเลือกการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ถ้าจะเล่นตามลำดับก็น่าจะเหมาะกว่า ทั้งนี้หากถามผม ผมชอบ Animal Crossing เป็นทุนเดิม จะรู้สึกรีเลตกับเกมภาคหลักมากกว่าเพราะไม่ต้องมีอะไรมากำหนดนั่นเองครับ คือมันก็มีความคืบหน้าในการเล่นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันขนาดนั้น ชิลกว่าเยอะ
การเปลี่ยนการควบคุมมาเป็นรูปแบบปุ่มกด
![[รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ 3 MySims Cozy Bundle รีวิว](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/11/00-sim_4-1024x575.jpg)
ความน่าสนใจก็คือ ในเมื่อทั้ง MySims และ MySims Kingdom เป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นบนเครื่องเล่น Wii โดยเฉพาะ (แม้ภาคแรกจะมี PC มาก่อน) ดังนั้นพอเปลี่ยนมาเป็นแนวเกมรูปแบบไฮบริดพร้อมคอนโซลแบบมีจอย การบังคับก็เลยต้องปรับปรุงให้เหมาะสม ซึ่งโดยรวมพบว่าราบรื่นดี ไม่ได้ขัดใจแต่อย่างใด จะมีความรู้สึกน่าเสียดายก็ตรงที่ระบบ Motion Control นั้นถูกตัดออกไปเลยทั้งหมดครับ
ในเกมเวอร์ชันต้นฉบับนั้น ผู้เล่นจะสามารถเล็งการจัดวางสิ่งต่างๆ ได้ด้วยมือของเราเองแบบเป๊ะๆ ผ่านตัวจับสัญญาณ Wiimote แต่พอเป็นการควบคุมด้วยปุ่มจากจอยเกม ดังนั้นการขยับสิ่งของต่างๆ จึงถูกกำหนดไว้ตามโหนด (ปุ่มข้อต่อ) ที่วางเอาไว้ คือมันก็ไม่ได้กำกับอะไรมาก แต่ในเมื่อ Nintendo Switch มาเป็นเครื่องเกมที่ก็มี Motion Control เหมือนกัน ทำไมกลับทำไม่ได้ไม่รู้ ผมก็เลยคิดว่าควรจะทำให้เกมมีความรู้สึกหรือนำเอาคอนเซปต์แบบที่เคยทำได้มาถ่ายทอดในเวอร์ชันนี้ให้ได้สำเร็จจะดีกว่า เพื่อที่จะได้เป็นเวอร์ชันสมบูรณ์แบบ
กราฟิก และประสบการณ์ที่ได้รับในเกมยุคปัจจุบัน
ในส่วนของกราฟิกนั้นเป็นการพอร์ตโดยอัปสเกลภาพความละเอียดขึ้นมาเป็นความละเอียดสูงจากเดิมที่ระดับ 480p โดยเฟรมเรตเองก็อยู่ที่ 60FPS เนียนตา ซึ่งต้องชมทีมงานเดิมที่ออกแบบงานภาพแบบการ์ตูนออกมาให้มันดูไม่เก่าเลยนะครับ กระนั้นแล้วต้องบอกว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรสักเท่าไรนะนอกจากความคมชัด ขณะเดียวกันเพลงประกอบเองก็เป็นฟีลน่ารักๆ เน้นจิงเกิ้ลแบบง่ายๆ ฮัมได้ติดหู
ฉันใดก็ฉันนั้นสิ่งสำคัญที่เราต้องให้การโฟกัสเป็นพิเศษคือเรื่องของคอนเทนต์ภายในเกม ขอยอมรับเลยว่าค่อนข้างเบสิกมากเพราะเป็นการมัดรวมเกมอยู่ในชุดเดียวกัน ไม่มีเบื้องหลัง ฟีเจอร์ใหม่อะไรทั้งนั้น ส่วนตัวผมคิดว่า ควรจะเป็นโอกาสดีที่จะได้นำเกมเก่ามาลองเชิงให้ทุกคนได้สัมผัสกันว่าจะชอบ MySims หรือเปล่า แต่กลายเป็นว่ามันคือเกมเดิมๆ เป๊ะๆ ไม่ได้เพิ่มเทคนิคการนำเสนอที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือบางทีผมอาจจะคาดหวังมากเกินไปเพราะการรวมคอลเลกชันเกมอื่นๆ ยังอุตส่าห์ใส่พวกตัวเล่นเพลง อาร์ตเวิร์ก หรือเบื้องหลังมาบ้าง แหะๆ
![[รีวิว] MySims Cozy Bundle รวมชุดซิมส์ตัวจิ๋วในโลกแฮปปี้ดีต่อใจ 4 MySims Cozy Bundle รีวิว](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/12/00-sim_4-913x1024.jpg)
บทสรุป
MySims Cozy Bundle คือการรวมเกมที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กของหลายๆ คน และยังคงเป็นเกมที่น่ารักชวนผ่อนคลาย หยิบมาเล่นได้ง่ายๆ ด้วยการออกแบบให้กับ Nintendo Switch แถมยังคัดเลือกเอาเวอร์ชันคอนโซลที่มาตรฐานมาด้วย อย่างไรก็ตามด้วยความที่เกมเป็นเหมือนกับการรวมชุดพอร์ตมาเฉยๆ ก็เลยอดเสียดายว่าน่าจะใส่ลูกเล่นอะไรมาเซอร์วิสสักหน่อยไม่ได้ ทั้งนี้อีกมุมหนึ่งด้วยราคาที่เป็นเจ้าของง่ายก็ถือว่าสมเหตุสมผลดีครับ
สำหรับใครที่สนใจขอบอกว่า MySims Cozy Bundle เปิดให้เล่นแล้ววันนี้บน Nintendo Switch โดยจะเป็นชุดรวมไม่มีการแยกจำหน่ายแต่อย่างใด ดังนั้นซื้อหนึ่งก็ได้ถึงสองในราคาเพียง $39.99 เท่านั้น ส่วนโอกาสหน้าจะมีอะไรมาแบ่งปันกันอีก ว่าแล้วขอเชิญติดตามกันที่นี่ ThisIsGame Thailand เช่นเคยเพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการเกมก่อนใครครับผม