รีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก

ตะลุยโลกกว้างไปพร้อมกันกับลุงหนวดในฉากขนาดใหญ่สเกลยักษ์

เมื่อครั้งที่ Mario Kart 8 Deluxe ได้กลายเป็นเกมยอดฮิตอันดับหนึ่งของ Nintendo Switch รุ่นแรกด้วยยอดจำหน่ายทะลุ 60 ล้านชุด ไม่มีใครจะจินตนาการได้เลยครับว่าก้าวต่อไปของเกมนี้จะเป็นอย่างไร จนกลายคนอาจจะรู้สึกว่าพอร์ตเกมนี้มาอีกรอบแล้วใส่ DLC มันก็อาจจะยังขายได้ จนกระทั่งการเปิดตัวของ Mario Kart ภาคใหม่ในคลิปเผยโฉม Switch 2 ครั้งแรกตอนช่วงต้นปี ก็ทำให้ทุกคนตั้งคำถามมากมาย

และแล้วในที่สุด Mario Kart World บทใหม่ของซีรีส์รถแข่งปาร์ตี้สุดมันส์ก็มาถึง แถมยังเป็นครั้งแรกที่ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จท่วมท้นนี้เป็น Launch Title ให้กับคอนโซลของปู่นินด้วย ถือเป็นเกมที่เดิมพันสูงมากๆ ราวกับว่าค่ายจะนำมาเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ แต่เรื่องเศรษฐกิจนี่ก็คงยากเกินที่นักเขียนตัวเล็กๆ อย่างผมจะไปก้าวก่าย เพราะวันนี้พวกเราจะมาสนุกกันกับเกมนี้ที่ได้มาถึงมือของผมเป็นที่เรียบร้อยเพื่อนำความประทับใจมาฝากกันในรีวิว และจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นว่าแล้วอย่ารอช้าเชิญติดตามที่นี่เล้ย~

ยกเครื่องสนามใหม่จากการขับวนมาเป็นโร้ดทริป

สังเกตจากชื่อก็รู้ได้ทันทีว่า Mario Kart World คือการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ โหมดการเล่นรูปแบบ Grand Prix ที่เคยเป็นโหมดมาตรฐานเองก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่จากเดิมที่เราแข่งสนามละสามรอบมาเป็นการแข่งสนามแรกสนามเดียวแบบเต็มๆ จากนั้นที่เหลือเราจะต้องขับรถผ่านเส้นทางที่มีมากกว่า 100 แบบไปสู่อีกสนาม วนกันไปจนจบ ซึ่งก็กินเวลาเทียบเท่ากัน เพียงแค่สนามถัดไปนั้นจะมีเพียงแลปเดียว หลายคนอาจรู้สึกว่าแบบนี้จะมีโอกาสได้ศึกษารายละเอียดไหม คำตอบก็คือ มี!

ด้วยแผนที่ที่เป็นโลกใบใหญ่ใบหนึ่ง เราจึงสามารถเข้าเล่นโหมดที่เรียกว่า Free Roam ที่จะเป็นการขับรถไปทั่วทั้งฉากที่เป็นถนนเชื่อมต่อแต่ละสนามเข้าด้วยกัน ขนาดความกว้างหากให้พูดเป๊ะๆ คงยากแต่ผมใช้เวลาราว 10 นาทีในการเดินทางจากขอบฉากหนึ่งไปอีกฝั่ง ถือว่ามันก็ใหญ่ในระดับหนึ่งเลย เทียบกับ GTA V เวลาขับรถก็ประมาณนี้เหมือนกัน และระหว่างทางเราอาจจะเจอรายละเอียดน่ารักๆ เช่นชาว ‘เห็ดมุง’ (คล้ายๆ ไทยมุง) ยืนเชียร์ หรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่นเดินเที่ยว สำรวจ นั่งเล่นตามสวนสาธารณะในเขตเมืองเป็นต้น แถมยังมีเควสต์สนุกๆ ให้ทำ เช่นปุ่ม P. Switch ที่เราวิ่งชนแล้วทำภารกิจ หรือตามหาสติ๊กเกอร์มาแปะรถ อีกทั้งมีระบบเวลากับสภาพอากาศด้วย!

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก
แข่งกรังด์ปรีซ์ หรือออกตะลุยดลกกว้าง ก็สนุกเหมือนกัน~

กลับมาในส่วนของการขับรถในโหมดหลักอีกครั้ง แน่นอนว่า Grand Prix มีหัวใจหลักเป็นการแข่งขัน เราจะไม่ได้มาคอยสอดส่องดูรายละเอียดต่างๆ เพราะจะต้องเหยียบคันเร่งบรื้นๆ กันตลอดเวลา ซึ่งผมก็เคยคิดว่ามันจะดูน่าเบื่อหรือเปล่าเนื่องจากถนนที่ทอดยาวไปสู่สนามต่างๆ มันก็เป็นเส้นตรงนั่นแหละ แค่มีทัศนียภาพใหม่ๆ รายล้อม แต่เอาเข้าจริงมันไม่น่าเบื่อเลยครับ เราจะเจอรถที่สวนทางไปมาตลอดเวลา และเกมนี้มีอุปสรรคเป็นศัตรูหลายแบบด้วย อาทิคุริโบะที่ไม่เดินซ้ายขวาไปมา แต่มีพฤติกรรมเหมือนกับในเกมมาริโอ้ทั่วไป คือมันวิ่งเข้าชาร์จใส่เราเลย

ที่ขาดไม่ได้ก็คือพอสเกลของเกมมันใหญ่ขึ้น ถนนกว้างขึ้น สิ่งที่เราจะสังเกตได้ก็คือจำนวนผู้เข้าแข่งขันในแมตช์ที่มีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นั่นคือรองรับการเล่นถึง 24 คนพร้อมกัน นั่นจึงยิ่งทำให้ถนนที่กว้างใหญ่นั้นไม่ดูเงียบเหงาน่าเบื่อ บางทีเราอาจจะเจออะไรแปลกๆ เช่นไอเทมที่โยนมารัวๆ หรือแม้กระทั่งโอกาสที่เราอาจจะตกจากที่สามไปเป็นที่ 20 ในชั่วพริบตาก็ได้

Knockout Race คือพระเอกหลักของ Mario Kart World ที่อยากให้อยู่นานๆ!

ขณะที่หลายคนอาจจะนิยมชมชอบกับความกว้างของแผนที่ แต่สำหรับผม Knockout Race คือพระเอกของ Mario Kart World เลยครับ เพราะมันตรงกับคอนเซปต์เกมและแผนที่ขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งการแข่งขันของหมวดนี้จะแบ่งออกเป็น Cup เช่นเดียวกับ Grand Prix แต่แนวทางการเล่นจะไม่เหมือนกัน เพราะมันจะเป็นการกำหนดเส้นทางต่างๆ ที่เราต้องขับแบบ Cross-country แพ้คัดออกทีละสี่คนจนเหลือผู้ชนะหนึ่งเดียว

และพอเราต้องขับรถในถนนใหญ่ตลอดระยะเวลาในแมตช์ราว 15 นาทีนี้ มันทำให้เกิดความกดดันมากๆ เพราะทุกคนจะไม่มีเวลามาเล่นลูกเล่นอะไรตามฉากเลย สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามีเพียงเช็คพอยต์จำนวนหกจุด และรถของ CPU ตามฉาก, ศัตรู เช่นเดียวกับคู่แข่งอีก 23 คันที่เราจะต้องโค่นพวกเขา ซึ่งความสนุกที่บังเกิดสำหรับผมในโหมดนี้คือการทำความรู้จักและประยุกต์สภาพแวดล้อมรอบข้างให้กลายเป็นทางลัดพุ่งจากที่โหล่มาเป็นอันดับต้นๆ เพราะอย่างที่รู้กันว่าโหมดนี้เราจะใช้เวลาอยู่กับส่วนของถนนทางยาวอย่างเดียว การที่เราจะออกนอกเส้นทางไปหาจุดลัดจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก
[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก

และอย่าลืมว่าจำนวน 24 คนนี้ โดยเฉพาะเวลาเล่นออนไลน์ เราทุกคนก็ล้วนอยากจะชนะ มันจึงทำให้ผู้เล่นพยายามสรรหาวิธีกันตลอดเวลา นอกจากนี้เกือบลืมบอกไปว่าพวกความเอิงเอยเก่าๆ เช่นการลงใต้น้ำ หรือพื้นที่เหนือแรงโน้มถ่วงก็ไม่มีอีกต่อไป มีแต่การกระโดดไต่กำแพงที่เป็นเมคานิกใหม่ หรือกระโดดชาร์จ ทักษะเหล่านี้เราจะได้ใช้กันแบบจุกๆ เลย และรถของเราสามารถลอยเหนือน้ำได้แล้วด้วย ส่วนตัวผมชอบแบบนี้มากกว่าดำน้ำอย่างภาคที่แล้วนะ (ขณะเดียวกันพวก Half-pipe ก็ได้กลับมาเต็มๆ แล้ว)

เรียบง่ายได้ใจ แต่คอนเทนต์ก็ใส่มาจุกๆ ไม่ตกหล่น

จากเดิมที่ Mario Kart 7 – 8 ที่เป็นภาคหลังๆ เคยนำเสนอเรื่องนวัตกรรมที่ยุบยับซับซ้อน Mario Kart World ได้เปลี่ยนใหม่ให้มันเรียบง่ายเริ่มตั้งแต่การเลือกรถแข่งที่เปลี่ยนมาเป็นรถสำเร็จรูป ไม่ต้องเลือกเครื่องร่อนหรือล้ออีกต่อไป และการขับต้านแรงโน้มถ่วงกับดำน้ำก็นำออกไปเรียบร้อย (อยู่กันมาสิบปี) อย่างที่บอกไป ทำให้ภาคนี้มีความรู้สึกเหมือนเราเล่นเกมยุคแรกๆ เลยครับ นั่นคือเน้นม่วนจอย ปาเต่าปาเปลือกกล้วยร่วมกับผู้เล่นอีกยี่สิบกว่าคนไม่ต้องคิดอะไรเยอะ

นอกจากนี้ในเรื่องของเมนูก็ทำความเข้าใจง่ายมาก ตั้งแต่หน้าไตเติ้ลเราก็จะเห็นตัวละครที่เราใช้งานล่าสุดขับอยู่บนแผนที่แล้ว หากกดเริ่มเกมก็จะเป็นตัวเลือกโหมดต่างๆ ที่จะตัดเข้าไปตามหมวดหมู่ แต่ถ้าเกิดเราเลือก Free Roam ในตอนนั้น เกมจะให้เราขับรถสำรวจโลกได้ทันที เนี่ย! แค่นี้มันก็ดูแบบเข้าถึงได้ง่ายมาก บางทีเราอาจจะไม่ได้อยากขับแข่งอะไร แต่อยากจะขับรถสำรวจเพลินๆ ไปก่อนจนกว่าจะได้มู้ด ทั้งหมดนี้ไม่มีหน้าจอโหลดด้วย (ยกเว้นตอนเลือกเข้าโหมด)

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก
ขับหาไอเทมอาหารเพื่อปลดล็อกชุดใหม่ๆ ชุดของเจ้าหญิงแบบในวันสบายๆ ก็มีนะ!

และถ้าใครยังชอบโหมดขับรถแบบแบ่งสนามเหมือนเมื่อก่อน แน่นอนว่ายังทำได้เหมือนเดิมครับ ทั้งโหมดแข่งทำเวลา หรือเราจะจัดคัสตอมเกมเองก็ยังได้ ซึ่งการคัสตอมมันจะคล้ายๆ กับ Grand Prix เลย นั่นคือเลือกฉากที่ต้องการแล้วเกมจะสรรหาถนนให้เราขับไปตามทาง แต่ถ้าใครข้ามฉากไปไกลมันก็จะเป็นแข่งสามแลปเหมือนเดิม จุดนี้บางคนอาจจะชอบมากกว่าด้วยซ้ำเพราะให้ความคลาสสิกดี ฮ่าๆ แต่ถ้าใครใช้ระบบเลือกเส้นทางในบางครั้งเราอาจจะได้สนามที่เป็นเหมือนด่านลับ ดัดแปลงแบบพิเศษ เช่น Shy Guy Bazaar ที่เราอาจเลือกให้ขับเข้าสนามจากด้านหลัง มันก็จะเป็นรูทใหม่ที่เข้าไปในปราสาทได้ด้วย! เหมือนสนามใหม่เลยนะเอาเข้าจริง

พูดถึงการเป็น Mario Kart แล้ว ที่ขาดไม่ได้ก็คือโหมดแบทเทิล ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งสิ้นสองแบบมาตรฐานคือโหมดยิงลูกโป่งยอดฮิต และโหมดเก็บเหรียญ โดยสนามแข่งนั้นก็จะอยู่ในพื้นที่โลกของเกมนั่นแหละครับ ให้ความรู้สึกเหมือน Mario Kart 8 เวอร์ชันต้นฉบับบน Wii U ที่คัดเอาสนามแข่งมาตรฐานให้เราขับวนแล้วสู้กันเองไปด้วย แต่สำหรับ Mario Kart World นั้น พื้นที่ที่เกมจะจัดแข่งแบทเทิลมันได้รับการออกแบบเพื่อการนี้อยู่แล้ว เช่นหน้าปราสาทของคุปป้าที่มีบ่อลาวากลมๆ อยู่ ด่านนี้เป็นเรฟมาจาก Big Donut จากเกมภาค Nintendo 64 ครับ

สังเกตได้ว่าคอนเทนต์ในเกมค่อนข้างโดดเด่นแบบคุ้มค่าแน่นตลับสุดๆ นี่ยังไม่รวมเหล่าตัวละครที่รวมดาวขนทัพมามากถึง 50 คน/ตัว และเราสามารถปลดล็อกสกินได้ด้วย ซึ่งสกินก็ไม่ได้เพิ่มสถานะ แต่ว่าได้ความสวยงามและเพิ่มความคุ้มในการตามหา (ฮา) ที่ผมชอบอีกอย่างคือศัตรูบางตัวหรือตัวละครแปลกๆ มันก็ยังใส่มาในนี้ได้ เช่นเจ้าวัวที่เป็นมีม หรือสโนว์แมนก็มี น่ารักมากกก… ก. ไก่ล้านตัวเลย มั่นใจได้ว่าต้องมีใครเจอเมนกันแน่ๆ

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก
ไต่ราว ไต่กำแพง ท่าใหม่ไม่เคยมีมาก่อน

เพราะรู้ว่ายังใหม่ ยังไงก็มีข้อติบ้าง

ต้องยอมรับว่าผมคาดหวังกับเกมนี้มากเพราะชอบ Mario Kart อยู่แล้ว แต่เมื่อเกมนี้เป็นเกมใหม่ในรอบหลายปีพร้อมสาดไอเดียเข้ามาแบบเต็มที่ ดังนั้นหาก Mario Kart World จะยังคงมีข้อติผมก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องยอมรับ ส่วนตัวผมคิดว่าแผนที่นั้นถึงมันจะกว้างและมีรายละเอียดมากมาย แต่ก็คิดว่าสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ นอกจากนั้นแล้วโหมดแบทเทิลเองก็เหลือเพียงแค่สองประเภทเท่านั้นเลยอดเสียดายไม่ได้ อีกอย่างที่รู้สึกว่าแหม่งๆ คือระบบเวลากลางวันกลางคืน ไม่ได้ส่งผลต่อ AI, ศัตรู หรืออะไรทั้งสิ้น มีแค่ทัศนวิสัยที่เปลี่ยนไป ที่เอาจริงไม่ได้เปลี่ยนเยอะครับ เกมสว่างตลอด แต่พวกฝนตกอะไรแบบนี้ก็จะส่งผลกับเกมเพลย์จริง

กราฟิกและดนตรี

เริ่มจากเฟรมเรตก่อนเลย สบายใจได้ว่า 60FPS นิ่งๆ ไม่มีตกหรือ 59FPS กระโดดข้ามเฟรมแบบภาค 8 แล้ว และภาพสามารถให้การแสดงผลสูงสุดที่ 2K แท้ๆ อัปสเกลได้ที่ 4K เรื่องระบบแสงกับโมเดลตัวละคร รู้สึกว่าให้ความสดใสมากกว่าภาคที่แล้ว มีความไวแบรนต์มากกว่าตามโทนของเกมที่สดใหม่ สิ่งที่รู้สึกอยากชมอีกอย่างคือเรื่องฟิสิกส์น้ำของเกม จริงอยู่ที่เราไม่สามารถดำน้ำและต้องขับรถผ่านผืนน้ำไปเลย แต่การตอบสนองของน้ำกับรถเราดีมากๆ ครับ คือมันสัมผัสได้ว่าเป็นคลื่น ถ้าเกิดมีระเบิดอะไรก็ทำให้คลื่นดึ่๋งดั๋งตามไปด้วย

และเรื่องดนตรีของเกมก็น่าชื่นชมไม่แพ้กัน เกมนี้ว่ากันว่ามีเพลงประกอบมากกว่า 200 เพลง ทั้งเพลงประจำสนามใหม่ และเพลงรีมิกซ์จากภาคก่อนๆ ครอบคลุมไปจนถึงเพลงจากเกมซูเปอร์มาริโอ้ภาคหลักที่จะเล่นระหว่างการเดินทางในช่วงขับรถเส้นทางยาว การรีมิกซ์มีหลายรูปแบบ ทั้งเพลงจากสนามฮิตอย่าง Baby Park แบบ EDM หรือเพลงจากเกมหาเล่นยากอย่าง Super Mario Sunshine ไปจนถึงเกมนอกแฟรนไชส์อย่าง Donkey Kong Country (ที่ตลกคือเพลงจากเกมของ​ RARE แต่เกมนี้เป็นเกมแรกที่ยกเลิกดีไซน์ RARE ของเจ้าจ๋อ)

[รีวิว] Mario Kart World มาริโอ้รถแข่ง สังเวียนเดือดสุดขอบโลก

บทสรุป

Mario Kart World เต็มไปด้วยความสดใหม่ ความรู้สึกสนุกสนานที่สามารถเล่นได้ยาวๆ และด้วยแผนที่ขนาดใหญ่ที่เป็นโลกเปิดให้เราได้ลองผิดลองถูก ขับรถชมวิว ฝึกฝนใน Free Roam ได้ตลอดเวลาทั้งแบบออฟไลน์ – ออนไลน์ ก็ทำให้เราแทบคิดไม่ออกเลยว่า Mario Kart จะสามารถไปสุดได้ถึงไหนอีกเพราะแค่นี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ แม้จะมีบางจุดที่อาจจะไม่ถูกใจบ้างก็ตาม โดยเฉพาะราคาที่เปิดมาให้เราอ้าปากค้าง ทว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และพร้อมกรุยทางสู่อนาคตได้มากกว่าพวกฟีเจอร์เฉพาะกาลอย่างการดำน้ำ ไต่หน้าผาในภาคก่อนแน่นอน

สำหรับใครที่สนใจ Mario Kart World ในตอนนี้สามารถหาเล่นกันได้แล้วบน Nintendo Switch 2 เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเกมเปิดตัวที่สมการรอคอย เปลี่ยนความอิ่มตัวในการขับรถวนๆ ในสนามเดิมให้กลายเป็นนิมิตหมายใหม่ของการผจญภัยในโลกกว้าง ซึ่งโอกาสหน้า ThisIsGame Thaland จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกว่าแล้วอย่าลืมติดตามกันที่นี่เช่นเคยเพื่อไม่ให้พลาดความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ก่อนใครเช่นเคย

GantaroZX

ใครใครเขาก็รู้ ว่าหนูอ่ะเปิดเผย หนูสั้นของหนูอย่างเงี้ย หนูเน้นเซ็กซี่เฉยๆ
Back to top button