[รีวิว] Days Gone Remastered การกลับมาของ Deacon ผจญภัยในโลกซอมบี้

Days Gone Remastered เกมแอ็กชั่นโอเพนเวิลด์รูปแบบโลกเปิดที่ให้เรารับบทเป็น Deacon หนุ่มบิ๊กไบค์ที่ต้องเอาตัวรอดในรัฐโอเรกอนที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เกมชูโรงด้วยระบบสภาพอากาศอันหลากหลายพร้อมการขับขี่รถจักรยานยนต์ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามและอันตรายในเวลาเดียวกัน

และล่าสุดทีมงานได้มีโอกาสเข้าติดตามเรื่องราวสุดเข้มข้น และเอาชีวิตรอดจากเหล่า Freaker กันอีกครั้ง และเราก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้

ออกผจญภัยในโลกของซอมบี้ที่คมชัด สวยงาม และลื่นไหลขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกม Remaster คือเกมที่จะยกระดับภาพของเกมให้มีกราฟิกที่สวยงามมากขึ้น ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเองก็ต้องบอกว่า “เกมนี้ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง” เลยทีเดียว แต่ผู้เขียนต้องบอกก่อนว่าเกม Days Gone เวอร์ชั่นต้นฉบับก็มีกราฟิกที่สวยงามอยู่แล้ว ทำให้กราฟิกในเกมเวอร์ชั่นนี้มุ่งเน้นไปที่การเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์แบบมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Draw Distance ที่สิ่งของในระยะไกลดูมีรายละเอียกมากขึ้น, การใช้แสงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ที่ต้องยกให้เลยก็คือรายละเอียดของน้ำไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว หรือการสะท้อนแสงดูชัดเจนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เกมนี้มีกราฟิกที่สมบูรณ์แบบขึ้นนั่นเอง

โหมดเอาชีวิตรอด ‘Horde Assault’ พิสูจน์ฝีมือ

เกม Days Gone ไม่ได้มีดีแค่เนื้อเรื่องเข้มข้นเท่านั้น แต่เกมในเวอร์ชั่น Remaster นี้ยังเพิ่มความท้าทายสุดขีดด้วยโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Horde Assault ที่จะมาพิสูจน์ฝีมือการเอาชีวิตรอดของผู้เล่นอย่างแท้จริง โดยในโหมดนี้ผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้ Freaker ที่มีจำนวนมาก และมันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผู้เล่นมีชีวิตอยู่ แต่ที่ผู้เขียนผู้เล่นตื่นเต้น และประทับใจจริง ๆ ก็คือเราจะมีโอกาสได้เจอกับศัตรูที่คาดไม่ถึงที่นอกเหนือจาก Freaker ปกติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตสุดโหด หรือเหล่า Freaker ที่พัฒนาไปอีกขั้น

ฟังดูเหมือนยาก แต่พอได้เล่นจริงบอกได้เลยว่า “ยากจริง!” 555 แต่ในความยากนั้นมาพร้อมกับความท้าทายแบบสุด ๆ เพราะเกมไม่ได้โหดร้ายว่าผู้เล่นจะไม่ได้ม๊โอกาสพัฒนาตัวเองเลย เพราะเมื่อเลเวลของผู้เล่นเพิ่มขึ้นก็จะสามารถปลดล็อกอาวุธและอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงรับรางวัลพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่ให้เลือกเล่น ไอเทมตกแต่งสุดเท่ และ Injector สุดพิเศษที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้เปรียบในการต่อสู้ ฉะนั้นผู้เขียนการันตีได้เลยว่าผู้เล่นคนใดที่ชื่นชอบความท้าทาย และกำลังหาบททดสอบที่แท้จริงสำหรับผู้ที่ต้องการพิสูจน์ว่าใครคือสุดยอดนักเอาชีวิตรอดในโลกของ Days Gone ก็ไม่ควรพลาดโหมดนี้เป็นอันขาด

โหมด Speed Run และ Permadeath ที่จะท้าทายคุณถึงขีดสุดในการ

ต้องบอกก่อนว่าหนึ่งในเทรนด์ในการเล่นเกมยุคปัจจุบันก็คือการเล่นเกมแบบ Speedrun ที่เน้นกันว่าใครเล่นจบได้เร็วที่สุด คือสุดยอดของเกมนั้น ๆ และเพื่อตอบสนองเทรนด์ของเกมเมอร์ในยุคปัจจุบัน เกม Days Gone Remaster ก็ได้เพิ่มโหมดการเล่นใหม่ที่เรียกว่าโหมด Speedrun ที่จะท้าทายความเร็วในการเคลียร์เนื้อเรื่องหลักอย่างเป็นทางการ โดยในโหมดนี้จะมีระบบบันทึกเวลาไว้ให้อวดคนอื่นด้วยว่าคุณเล่นจบในแต่ละความยากในเวลาเท่าไหร่

และสำหรับสายฮาร์ดคอร์ ต้องไม่พลาดโหมด Permadeath ที่จะมอบประสบการณ์สุดระทึก เมื่อความตายหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ทำให้โหมดนี้ผู้เล่นจะต้องติดตามเนื้อเรื่องอันเข้มข้นของการเดินทางของ Deacon St. John ให้จบโดยที่ไม่ตายแม้แต่ครั้งเดียว! ทำให้ใครที่ชอบความท้าทายขั้นสุดก็ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดโหมดนี้เป็นอันขาดครับ!

Enhanced Photo Mode ที่จะทำให้การถ่ายภาพสวยงามขึ้นไปอีกขั้น

ต่อมาก็คือ Enhanced Photo Mode ที่จะทำให้คุณได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพสวย ๆ ในโลกของ Days Gone ได้อย่างเต็มที่มากกว่าที่เคยเป็น เพราะในโหมดถ่ายรูปของเกมเวอร์ชั่นนี้มีด้วยตัวเลือกที่เพิ่มเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเวลา สภาพแสงแบบสามจุด และโลโก้ใหม่ ๆ ให้เลือกใช้ ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดนี้เองจะทำให้ผู้เล่นเก็บภาพความทรงจำอันน่าประทับใจจากการผจญภัยของคุณ แล้วแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันได้เต็มที่มากขึ้น

สรุปรีวิว

Days Gone Remastered เป็นเกมรีมาสเตอร์อีกเกมที่ทำออกมาได้ดี แต่ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าเกมนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ควรหยิบกลับมารีมาสเตอร์จริง ๆ เพราะด้วยพื้นฐานแล้วตัวเกมก็ดีในระดับหนึ่ง ส่วนโหมดที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นั้นก็สนุกใช้ได้ แต่จริง ๆ แล้วอาจจะทำเป็นอัปเดตพิเศษขึ้นมาในเกมตัวเก่าก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากไม่พาดพิงถึงเกมต้นฉบับ กราฟิกของเกมถือว่าสวยงาม และโหมดใหม่ก็ถือว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่กับราคา 1,700 บาท… ก็อาจจะต้องคิดหนักนิดนึงครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– เกมเพลย์ยังคงมันส์เช่นเคย และดีขึ้นไปอีกด้วยความคมชัดที่สูงขึ้น

– กราฟิกที่ถูกทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยการอัปเกรดรายละเอียดต่าง ๆ

– โหมดใหม่ ๆ ให้ได้เล่นกันแบบจัดเต็ม

– โหมดถ่ายภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น

ข้อสังเกต

– ราคาแอบแรงสำหรับเกม Remaster

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<