[รีวิว] Animal Crossing: Pocket Camp Complete เข้าค่ายสุขสันต์กับเจ้าสัตว์ตัวจิ๋ว
เกมเวอร์ชันสมบูรณ์ เล่นได้แบบไม่มีกาชา เปิดบนสโตร์ไทยแล้ว
เมื่อเกมใดสักเกมที่เป็นรูปแบบออนไลน์ต้องถึงคราวปิดบริการ คงเป็นเหมือนฝันร้ายของผู้เล่นที่ติดตามมาเป็นเวลานานอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ Animal Crossing: Pocket Camp ที่ให้บริการมาถึง 7 ปี แต่ Nintendo ก็ใจดีพอที่จะเซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการเปิดตัวเวอร์ชันออฟไลน์ให้ได้เป็นเจ้าของกัน ซึ่งวันนี้เองพวกเรา ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดขอเข้าไปสัมผัสความสนุกเพื่อมาแบ่งปันความประทับใจในรีวิวนี้แล้วครับ
การจำลองชีวิตคนทำค่ายแคมปิ้ง
เกมภาคนี้เป็นรูปแบบสปินออฟแต่ก็ยังมาพร้อมกับลักษณะการเล่นที่เปิดกว้างเหมือนเดิมเลยครับนั่นคือเราจะได้เดินทางมาใช้ชีวิตร่วมกันกับเหล่าสัตว์ตัวจิ๋วจำนวนมากกว่า 400 ตัว ในฐานะผู้ดูแลค่ายแคมปิ้ง ผู้เล่นสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทั้งไปตกปลา จับแมลง หรือสะสมสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงหาเงิน แต่ว่าจะไม่ได้เป็นการเก็บไอเทมขายตามสไตล์เดิม เพราะจะต้องทำภารกิจเพื่อแลกเงินรวมไปถึงแต้ม Leaf Token ที่เป็นสกุลเงินใหม่มาใช้งานนั่นเอง (คุกกี้เสี่ยงทายที่ใช้กินแล้วได้ของรางวัลก็มีเหมือนกัน)
เมื่อพูดถึงภารกิจแล้ว ด้วยความที่เกมมีต้นกำเนิดจากการเป็นเกมรูปแบบออนไลน์เล่นฟรี ก็จะต้องมีการฟาร์มเลเวลซึ่งก็เป็นส่วนใหญ่ของสิ่งที่เราจะใช้เวลาในเกมนี้ครับ และมันพ่วงกับการผูกสัมพันธไมตรีกับเหล่าสัตว์ด้วย โดยในจุดต่างๆ ของแผนที่ ที่ไม่ได้เป็นแผนที่ใหญ่เหมือนภาคหลัก แต่ซอยแบ่งๆ เป็นแอเรีย จะมีสัตว์ตัวจิ๋วยืนอยู่พร้อมขอร้องให้เราไปตามหาไอ้นู่นบ้างไอ้นี่บ้าง เพื่อแลกกับค่าความสนิทสนม และไอเทมสำหรับการคราฟต์นั่นเอง และถ้าสนิทกันในระดับหนึ่งก็จะสามารถพามาที่พื้นที่แคมป์หลักของเราได้
แผนที่ของเกมนี้จะมีทั้งแอเรียหลักคือพื้นที่แคมป์ของเราที่ตกแต่งได้อย่างอิสระ, ป่า, ทะเล หรือลานตลาดเปิดท้ายขายของ โดยจุดที่เราจะต้องแวะไปบ่อยคือพวกป่าที่จะมีต้นไม้ มีแม่น้ำสำหรับหาของ และการทำกิจกรรมจะมี Time Gate หรือการเว้นคูลดาวน์ตามเวลาบนโลก เอาจริงก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันบีบบังคับให้เราต้องเล่นเยอะๆ แต่อย่างใดตั้งแต่เวอร์ชันต้นฉบับที่เน้นการเติมเงินอยู่แล้วครับ นอกเสียจากว่าเราอยากจะรีบฟาร์มของที่ต้องเก็บเร็วๆ เท่านั้นแหละ สังเกตได้ว่าช่วงอินโทรจะค่อนข้างสั้นเลย แปบเดียวก็เข้าสู่ลูปแห่งการตามหาไอเทมตกแต่งบ้านแล้วครับ และนี่คือความสนุกเพราะ Pocket Camp มันมีไอเดียใหม่ๆ ที่เราไม่เห็นในภาคหลักเพียบ
ไอเทมให้ปลดล็อกมากมาย รวมไปถึงคอนเทนต์จัดเต็ม
ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่เกมภาคออนไลน์ได้ให้บริการมานั้นต้องยอมรับเลยว่า Nintendo ใส่ความสร้างสรรค์ลงในเฟอร์นิเจอร์และไอเทมต่างๆ มาแบบจัดเต็มรวมแล้วมากกว่า 10,000 ชิ้น ถือว่ามากที่สุดในแฟรนไชส์เลยก็ว่าได้ มีครบทุกธีมทั้งแนวคาวบอย แนวอวกาศ แนวเกมเรโทร ใครอยากจะทำฟาร์มของตัวเองให้เป็นอะไรก็ได้หมด และพื้นที่สำหรับการวางของตกแต่งไม่ได้มีแค่ลานแคมป์ของเรา แต่เราสามารถเข้าไปในรถบ้านเพื่อตกแต่งภายในรถได้เหมือนกันครับ และที่บอกก่อนหน้านี้ว่าสัตว์ตัวจิ๋วจะมาอยู่ในแคมป์ของเรานั้น ก็จะเห็นว่าพวกเขามายืนพูดคุยกัน เล่นกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงหาตัวเพื่อทำเควสต์ได้ง่ายขึ้นเพราะจะล็อคมาไว้กับที่ได้เลย (หรือตั้งค่าให้สุ่มวนมาก็ได้)
ตวามหลากหลายนั้นยังรวมไปถึงเรื่องของตกแต่งที่ไม่ได้นับเป็นเฟอร์นิเจอร์ด้วย โดยปกติของเหล่านี้จะสามารถจัดวางได้ตามใจชอบ แต่สำหรับส่วนนี้จะเป็นเท็มเพลตให้เราเลือกใช้ เช่นลวดลายพื้น, แบ็กกราวน์ด้านหลัง หรือจะเป็นธีมของฉากทั้งหมด โดยของที่เคยเป็นอีเวนต์พิเศษหรือที่ต้องเติมเงินแพงๆ ก็จะเป็นรูปแบบปลดล็อกจากการเล่นได้เองแล้ว (แม้จะต้องฟาร์ม) สังเกตว่าของพวกนี้ไม่มีในภาคคอนโซลด้วย เช่นฉากตลาดน้ำไทยที่เปลี่ยนให้พื้นที่แคมป์เราเป็นแอ่งน้ำ ด้านหลังมีเจดีย์กับร้านค้าผลไม้ และอีกประเภทที่ผมชอบก็คือแลนด์มาร์กจุดใหญ่ที่เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์แต่ว่ามีได้สูงสุดสองชิ้นเท่านั้นและจะวางได้บริเวณด้านหลังฉาก
สิ่งของเหล่านี้เองก็ยังสัมพันธ์กับลักษณะนิสัย ความชื่นชอบของตัวละครสัตว์ตัวจิ๋วที่จะเข้ามาด้วย โดยหลายครั้งเราจะต้องคราฟต์ไอเทม และเสื้อผ้าให้พวกเขาเพื่อซื้อใจให้มาปรากฏตัวและเล่น บางตัวก็จะชอบฟีลน่ารักๆ มาปีนบ้านต้นไม้ เล่นชิงช้า อีกทั้งจะมีเฟอร์นิเจอร์อีกประเภทที่อยู่ในหมวดสิ่งของจัดวางทั่วไปแต่จะมีสิทธิ์เรียกตัวละครพิเศษ เช่นเก้าอี้ของ K.K. Slider ที่ทำให้เขามาเล่นคอนเสิร์ตถึงบ้านเราได้เลยตลอดเวลา ท้ายที่สุดก็จะเป็นไอเทมเครื่องแต่งกายที่มีหลากหลายอย่างเห็นได้ชัด เช่นชุดบาริสต้าที่จะเป็นกางเกงยาวพร้อมผ้ากันเปื้อน หรือจะเป็นชุดมิโกะพร้อมหางจิ้งจอก อย่างไรเสียทั้งหมดทั้งปวงของที่เป็นไอเทมอีเวนต์รูปแบบครอสโอเวอร์จะไม่มีให้แต่อย่างใดนะครับ
Animal Crossing: Pocket Camp Complete เพิ่มฟีเจอร์สนุกๆ ในราคาสุดคุ้ม
นอกเหนือจากไอเทมที่สามารถปลดล็อกได้แบบไม่ต้องเติมแล้ว ตัวเกมเวอร์ชัน Complete ได้เปิดให้ทุกคนสามารถใช้ฟีเจอร์จากตัวบริการเสริมรายเดือน Pocket Camp Club ทั้งหมดได้แล้ว เช่นฟีเจอร์สมุดบันทึกสำหรับการจดความเคลื่อนไหวอีเวนต์ต่างๆ แต่ที่ชอบก็คือระบบผู้ช่วยที่จะทำให้สัตว์ตัวจิ๋วที่เราตั้งค่าเป็นตัวโปรด คอยเก็บของคราฟต์ ทำกิจกรรมให้เราแทนแบบไม่ต้องจิ้มเอง (ฮา) แถมพวกเขายังวิ่งตามเราไปไหนมาไหนได้ และจะมีไดอะล็อกเพิ่มเติม รวมไปถึงยังใช้ Custom Pattern หรือลายเสื้อผ้าพิเศษจากคอนโซลได้ด้วย
ฉันใดก็ฉันนั้น ใครที่คาดหวังว่าเกมจะมีความเป็นเวอร์ชันคอนโซลมากขึ้นเช่นระบบความสัมพันธ์หรือบทพูดสนิทสนม อันนี้บอกเลยว่าเป็นเหมือนเวอร์ชันเดิม คือเราก็สามารถพูดคุยได้ แต่ก็จะไม่ได้มีไดอะล็อกอะไรที่ลงรายละเอียดลึกๆ ได้เหมือนเพื่อนบ้านในภาคคอนโซลนะครับ กระนั้นในวันเวลาต่างๆ รวมไปถึงโอกาสพิเศษเช่นอีเวนต์คริสต์มาส (Toy Day) หรือในอนาคตถ้ามีวันเกิด พวกเขาก็จะมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์และทำกิจกรรมกับเราด้วยแน่นอน
เปลี่ยนผ่านจากเกม Free-to-play Live Service สู่เกมพรีเมียม
ความสำคัญของเวอร์ชันนี้คือโจทย์ยากที่ Nintendo พยายามตีให้แตกนั่นคือจะทำอย่างไรให้เกมที่เคยเป็นเกมเน้นกาชามากลายเป็นเกมพรีเมียมที่ปลดล็อกทุกอย่างได้จากการเล่นเอง ซึ่งผมคิดว่าวิธีการใช้ Leaf Token นั้นก็ไม่ค่อยเวิร์ก เพราะกว่าเราจะได้ Token มาเพื่อปลดล็อกของหายากมันก็ฟาร์มมม… กันหนักเลยทีเดียวครับ กระนั้นแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็คุ้มค่ากับความพยายามและมูลค่าของเกมที่ถูกกว่าที่เราจะต้องเติมเองในสมัยก่อนครับ
ในส่วนของรายชื่อเพื่อนที่ปกติเราจะสามารถขายของให้กันและกัน หรือแลกเปลี่ยนของขวัญได้ถูกเปลี่ยนใหม่ โดยจะกลายมาเป็นระบบการ์ดเฟรนด์ชิปแทนครับ ซึ่งแม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ อีก ทว่าพวกเขาเหล่านี้จะมาปรากฏตัวในสถานที่แห่งใหม่… ใช่ครับ! เกมมีจุดใหม่ที่เดินทางไปได้คือ Whisper Pass ที่เป็นริมหน้าผาที่ K.K. Slider จะมาเล่นคอนเสิร์ตทุกวันเวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป พอให้รู้สึกหายเหงาได้บ้างครับ
กราฟิกและเพลงประกอบ
เรื่องกราฟิกนั้นไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไร เช่นเดียวกับเพลงที่ใครที่เคยเล่นเวอร์ชันออนไลน์มาแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่เหมือนกัน กระนั้นก็ขอให้ความเห็นหน่อยแล้วกันครับ ตัวเกมสังเกตได้ว่ามีการ based on จากภาค 3DS ดังนั้นเรื่องสเกลตัวละครก็จะตัวเล็กกว่าที่เราเห็นในภาค New Horizons รวมไปถึงทิศทางการออกแบบกราฟิกที่เป็นการ์ตูนและสีสันสดใสมากกว่าพื้นผิวที่เป็นแนวละมุนๆ ขนฟูๆ แบบภาค Switch ส่วนตัวผมชอบอันนี้มากกว่า ทั้งนี้เพลงไม่ค่อยมีอะไรปลุกเร้า ให้ความรู้สึกนิ่งๆ เงียบๆ ทั้งหมดทุกเพลง ก็เกมมันเป็นแนวเข้ามาเล่นแปบๆ แล้วกดออกนี่เนอะ และอย่าลืมว่าเกมรันที่ 30FPS เท่านั้น เช่นเดียวกับหน้าจอโหลดที่นานเหมือนเดิม
บทสรุป
แม้จะเป็นภาคสมบูรณ์ที่ดูขัดใจเรื่องจังหวะการเล่น (และไม่มีโหมดหน้าจอ Landscape – แนวนอน) แต่ผมยอมรับว่าเวอร์ชันนี้ทำหน้าที่ของมันได้ดีเลย และด้วยปริมาณไอเทมที่ปลดล็อกได้ฟรีไม่มีต้องเติมก็ทำให้เราตัดสินใจซื้อเกมนี้ได้อย่างง่ายดายรวดเร็วเลยครับ นอกจากนี้การสนับสนุนคอนเทนต์ใหม่จะยังมีต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นขั้นต่ำ และด้วยความที่เกมใช้ปฏิทินวันเวลาจริง ดังนั้นทุกๆ วันแม้จะมีการฟาร์มแต่มั่นใจได้ว่าเราจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ปลดล็อกกันยาว
ใครที่สนใจเล่น Animal Crossing: Pocket Camp Complete ก็บอกเลยว่าตอนนี้มีวางจำหน่ายแล้วทั้งบน iOS และ Android โดยสามารถถ่ายโอนไฟล์เซฟจากเวอร์ชันออนไลน์ได้ถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า และมีกิจกรรมลดราคา 50% เหลือ 249 บาทถึงเดือนมกราคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าที่อยากสานสัมพันธ์กับเพื่อนสัตว์ตัวจิ๋วต่อ หรือใครที่อยากเริ่มต้นตั้งแต่ต้น ก็คุ้มค่าไม่ต้องสืบ ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย