10 ทริคที่ทำให้เล่น Ragnarok: Rebirth ได้ง่ายขึ้น

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Ragnarok: Rebirth ทุกคนทุกท่าน หลายคนคงจะกำลังเล่นเกมนี้อยู่เพราะว่าเกมเพิ่งจะเปิดเซิร์ฟใหม่ และพอเป็น RO คนไทยอย่างเรา ๆ หรือจะอดใจไหว เกมคู่บุญบ้านเมืองขนาดนี้เป็นใครก็ต้องเล่นใช่ไหมครับ และถ้าคุณเล่นเกมนี้อยู่แล้วอยากจะทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ผมมี 10 ทริคดี ๆ แต่ทำได้ง่าย ๆ มาให้คุณได้ลองใช้เล่นดู แล้วจะรู้สึกว่าอะไร ๆ มันจะสะดวกขึ้นครับ ไปชมกันเลย

1. เล่นอาชีพนักธนู ยิงไกล คุมพื้นที่

อันนี้ขอตัดเรื่องความชอบออกไปก่อนนะ ถ้าคุณมีอาชีพที่ชอบเล่นอยู่แล้วก็เลือกอาชีพนั้น แต่ถ้าคุณอยากเดินสะดวกใน Ragnarok: Rebirth ผมบอกเลยว่า First Job ที่แนะนำยังไงก็เป็นนักธนู เพราะเกมนี้จะมีเควสต์ประเภทล่ามอนสเตอร์ให้ครบตามจำนวน และบอกเลยว่าอาชีพที่วิ่งไปฟาดมอนสเตอร์แบบ Melee นั้นสุดแสนจะลำบาก เพราะพวกอาชีพสายตีไกลมันยิงดักเราไว้หมดแล้ว แถมนักธนูยังเป็นอาชีพที่มีสกิลโจมตีหมู่ เหมาะสำหรับการเคลียร์มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนปาร์ตี้ เป็นใครใครก็รับ หาตี้ง่ายกว่าพ่อค้าหรือโจรเยอะ ถ้าอยากมีชีวิตดี ๆ แนะนำนักธนูครับ

2. ตีบวกของเฉลี่ยบวกให้ครบทุกชิ้น

การตีบวกในเกม Ragnarok: Rebirth นั้นช่วงแรกเราจะใช้ไอเทมที่ชื่อว่า Natural Silver Ore ซึ่งหาได้จากการส่งสัตว์เลี้ยงออกไปฟาร์มตามด่านเป็นเวลา ซึ่งเราไม่สามารถเร่งฟาร์มมันได้นอกจากการรอหรือจ่ายเงินซื้อที่ตลาดกลาง และเจ้า Natural Silver Ore นี้ก็ใช้ตีบวกทั้งอาวุธ ชุดเกราะและเครื่องประดับ บอกเลยว่ามีขาดแคลนกันแน่นอน ถ้าเพื่อน ๆ ตีบวกให้สูงขึ้นจำนวนของ Natural Silver Ore ที่ต้องใช้ก็สูงขึ้นตาม บอกเลยว่าอย่าพลาดแบบผมที่เอาทุกอย่างไปลงที่อาวุธตั้งแต่แรกเริ่มเพราะคิดว่าตีแรงแล้วจะดี แต่พอเจอเหตุการณ์ที่โดนมอนสเตอร์รุมหรือบอสตีแล้วยารีเลือดมันปั้มไม่ทัน บอกเลยว่าคุณจะหวนคิดถึงการตีบวกเกราะอย่างทั่วถึงทีหลังแน่นอนครับ

3. ตีบวกแล้วอย่าลืมเปิดออฟชั่นรองด้วย

นอกจากจะตีบวกแล้ว Ragnarok: Rebirth ยังมีระบบ Enchant ที่เป็นเหมือนระบบสุ่ม Option รองของไอเทมสวมใส่ โดยไอเทมแต่ละชนิดนั้นจะมี Slot ในการ Enchant Option อยู่ทั้งหมด 3 ช่อง ซึ่งเราจะต้องใช้ไอเทมในการ Enchant แต่ละครั้งค่อนข้างมาก และยิ่ง Option มีเลเวลสูงขึ้นก็จะต้องยิ่งใช้ไอเทมที่แรร์ขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ก็แลกมากับสเตตัสที่สูงขึ้นเช่นกัน แต่สำหรับจุดเริ่มต้น แนะนำว่าให้ใช้ปลาปลดล็อค Option ให้ครบ 3 ช่องไว้ทุกชิ้นก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ แล้วค่อยไปฟาร์มของมารีใหม่ทีหลังก็ได้

4. ตั้งค่ายาปั้ม HP ไว้ประมาณ 70% กำลังดี

ในเมื่อ Ragnarok: Rebirth เป็นเกม Auto Quest การมีระบบ Auto ปั้มยาก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น โดยระบบปั้มยาของเกมนี้ไม่จำเป็นจะต้องซื้อยามาเข้ากระเป๋า แต่จะเป็นการจ่ายเงินเพื่อสะสมแต้ม Potion แล้วเอาแต้มนั้นมาเพิ่มเลือดตรง ๆ เลย และหลายคนอาจจะมองข้ามไปว่าการปั้มยาของระบบนี้จะมีคูลดาวน์ 15 วินาที นั่นหมายความว่าถ้าโดนมอนสเตอร์รุมเยอะ หรือบอสตีแรงมาก ๆ การปั้มยาก็จะไม่ทัน ดังนั้นส่วนตัวแล้วผมจะแนะนำให้คุณตั้งค่าปั้ม HP ไว้ที่ 70% และ SP ไว้ที่ 50% ในกรณีที่คุณไม่ใช่สายใช้สกิล แต่ถ้าใช้ SP เยอะสามารถเพิ่ม SP ได้เป็น 70% ก็ได้เช่นกัน แล้วชีวิตอาจจะฟาร์มสะดวกขึ้น

5. เควสต์ล่ามอนสเตอร์ หาปาร์ตี้จะเร็วกว่า

แม้ว่า Ragnarok: Rebirth จะเป็นเกมที่มีปาร์ตี้ดันเจี้ยนให้ลงกัน แต่คุณอาจจะลืมนึกไปว่านอกดันเจี้ยนผู้เล่นก็สามารถปาร์ตี้กันได้เหมือนกัน และในเควสต์ล่ามอนสเตอร์ที่จะต้องตีมอนเป็นร้อย ๆ ตัว การมีปาร์ตี้ช่วยกันตีมันเร็วกว่า และถ้าอยากเร็วยิ่งขึ้นแนะนำว่าให้หานักธนูมาเข้าตี้ครับ ชีวิตมันจะหอมหวานมาก ให้ตีมอนสเตอร์ 500 ตัว ถ้านักธนู 4 คนในตี้คือเร็วมาก

6. สำรวจอัตโนมัติอย่าลืมเปลี่ยนเป็นด่านล่าสุดเสมอ

สำรวจอัตโนมัติ เป็นระบบ Idle ภายในเกม Ragnarok: Rebirth ที่ช่วยผู้เล่นที่ไม่มีเวลาสามารถเลเวลอัปได้แม้จะปิดเกมไปแล้ว และแน่นอนว่าเกมนี้มันช่วยผู้เล่นอย่างมาก เพราะการปล่อยบอทเก็บเลเวลนั้น EXP มันไม่ขึ้น ยกเว้นจะเล่นคอนเทนต์อื่น ๆ เช่น ลงดัน ทำเควสต์ป้าย เป็นต้น คอนเทนต์ Idle เลยเป็นขุม EXP หลักที่คุณจะได้รับ และมันเปลี่ยนแมพฟาร์มเวลได้ แต่คุณต้องไปกดเปลี่ยนมันเองเมื่อเลเวลถึง ไม่เช่นนั้นมันจะฟาร์มดันเจี้ยนเก่าจนค่าตอบแทนของคุณน้อยลงนั่นเอง

7. ส่งสัตว์เลี้ยงไปฟาร์มไอเทมอย่างสม่ำเสมอ

การส่งสัตว์เลี้ยงไปฟาร์มในระบบ “จัดส่งและสร้าง” ในเกม Ragnarok: Rebirth นั้นค่อนข้างมีประโยชน์ต่อผู้เล่นอย่างมาก เพราะทรัพยากรที่ได้รับกลับมามันค่อนข้างคุ้ม และได้ใช้งานจริงแทบจะทุกชิ้น อย่างน้อยก็ได้หินตีบวกและวัตถุดับ Enchant ถ้าเลเวลถึง 30 ก็ได้ฟาร์มหาวัตถุดิบมาเล่นคอนเทนต์ Chamber of Commerce อีกด้วย แต่ระบบส่งฟาร์มสัตว์เลี้ยงมันกำหนดเป็นระยะเวลา และคุณควรจะเข้าไปส่งเรื่อย ๆ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของไอดี ถ้าคุณคิดจะเล่นจริงจังน่ะนะ

8. ถ้าคนเยอะก็ย้าย Channel ดีกว่า

อย่างที่ผมบอกคุณไปครับ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรใน Open World ทำเควสต์หรือล่ามอนสเตอร์ อาชีพที่ได้เปรียบที่สุดใน Ragnarok: Rebirth คือนักธนูเสมอ และถ้าเกิดว่าคุณไม่ได้เล่นนักธนูแล้วประชากรในเซิร์ฟเวอร์มันเยอะเกินไป ผมแนะนำว่าให้เปลี่ยน Channel ไปเลยครับเสียเวลาวิ่งแข่งกับลูกธนูเปล่า ๆ โดยคุณสามารถย้าย Channel ได้ด้วยปุ่มบริเวณใต้แผนที่ขวาบน ลองหาพื้นที่ที่คนน้อย ๆ ดู แล้วอะไร ๆ จะง่ายขึ้นครับ

9. กลับเมืองอย่าลืมซื้อของใช้ประจำอาชีพ

ข้อนี้อาจจะไม่ได้จำเป็นกับทุกคน แต่สำหรับ Ragnarok: Rebirth นั้นมีอยู่บางอาชีพที่จะต้องใช้ไอเทมช่วยเหลือ เพื่อให้ประสิทธิภาพของการต่อสู้ของเราสูงมากยิ่งขึ้น หลัก ๆ แล้วผมเห็นอยู่ 3 อาชีพเบื้องต้น คือ โจร นักธนูและนักเวทย์ ซึ่งถ้าไม่มี ยาพิษ กับดักหรือเจมสโตน อาชีพเหล่านี้ก็ไม่สามารถเฉิดฉายได้ ดังนั้นถ้าคุณเล่น 3 อาชีพที่กล่าวไปและอยากจะใช้สกิลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผมแนะนำให้แวะซื้อของใช้พวกนี้ทุกครั้งที่กลับเมือง หรือเปิดดูกระเป๋าอยู่เรื่อย ๆ ว่าคุณขาดเหลือสิ่งเหล่านี้หรือไม่ เพราะบอกเลยว่าการฟาร์มเลเวลด้วยการโจมตีปกติอย่างเดียวมันไม่พอกินแน่ ๆ ครับ

10. อะไรที่ไม่ได้ใช้ โยนขายตลาดกลางได้เลย

หลายคนอาจจะคิดไม่ตกว่าของขยะ หรือไอเทมที่เราไม่ได้ใช้ใน Ragnarok: Rebirth นั้นเราจะจัดการกับมันยังไงดี ผมแนะนำว่าให้โยนลงตลาดกลางขายไปเลยครับ เผื่อว่าโชคดีมีคนซื้อไป คุณก็จะได้เงินไปหมุนเพื่อซื้อไอเทมที่คุณอยากได้ต่อ อัปเกรดอุปกรณ์ดี ๆ หาการ์ดที่ตรงกับสายอาชีพมาใส่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เงินจะช่วยแก้ปัญหาได้ แถมการค้าขายในตลาดกลางยังเป็นหนึ่งใน Daily Quest อีกด้วย ทำมาหากินเยอะ ๆ แล้วชีวิตคุณจะสุขสันต์ครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ “10 ทริคที่ทำให้เล่น Ragnarok: Rebirth ง่ายขึ้น” หวังว่าจะช่วยเพื่อน ๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมเองก็ยังรู้สึกตัน ๆ อยู่เหมือนกันเพราะเลเวลของเกมนี้มันเร่งไม่ได้ ยังไงก็ต้องรอเวลาอัป ทำคอนเทนต์จนหมดแต่มันก็ต้องรออยู่ดี ไม่ต้องใจร้อนไปนะครับ เกมเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วัน เดี๋ยวเราก็จะพัฒนาและเก่งขึ้นได้เอง 🙂