แน่นอนว่าแม้ Resident Evil 2 – 3 จะได้รับการรีเมคแล้ว แต่ภาครีเมคภาคแรกสุดนั้นยังถือว่าเป็นเกมที่ได้รับความนิยมและยกนิ้วให้ในเรื่องการพลิกโฉมจากเวอร์ชันต้นฉบับในเวลาเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น และตอนนี้เองเกมก็วางจำหน่ายให้ครบทั้งบนเครื่องเล่นฝั่ง Nintendo, PlayStation, Xbox เช่นเดียวกับ PC แล้ว วันนี้พวกเราก็ไม่พลาดที่จะนำความลับและสูตรต่างๆ ที่จะปลดล็อกฟีเจอร์น่าสนใจมาแบ่งปันเช่นกันครับ
สูตรปลดล็อกอาวุธ และสกินพิเศษ
สกินพิเศษของ Chris
- ชุดฮิปฮอป: ปลดล็อกโดยการเคลียร์เกมในเนื้อเรื่อง Chris Redfield ครั้งแรก
- เครื่องแบบ S.T.A.R.S. Prototype จากภาค CODE: Veronica: ปลดล็อกโดยการเคลียร์เกมในเนื้อเรื่อง Chris Redfield ด้วยเมนู “Once Again…”
สกินพิเศษของ Jill
- ชุดทหาร: ปลดล็อกโดยการเคลียร์เกมในเนื้อเรื่อง Jill Valentine ครั้งแรก
- ชุดเกาะอกสีฟ้า จากเกมภาคสาม: ปลดล็อกโดยการเคลียร์เกมในเนื้อเรื่อง Jill Valentine ด้วยเมนู “Once Again…”
หมายเหตุ: การใช้สกินในเวอร์ชัน GameCube / Wii จำเป็นต้องนำไอเทม Closet Key ออกมาจากตู้เก็บของเพื่อเข้าไปยังประตูลับที่อยู่ใน Exhibition Room ขณะเดียวกันเวอร์ชัน HD Remaster จะสามารถเลือกเปลี่ยนได้จากหน้าจอเลือกตัวละครเลย และตัวรีมาสเตอร์มาพร้อมกับสกินพิเศษ B.S.A.A. ที่เลือกได้ตั้งแต่ต้นด้วย
อาวุธลับภายในเกม
Rocket Launcher: ปืนยิงจรวดระเบิดที่มาพร้อมฟังก์ชันกระสุนไม่จำกัด โดยสามารถปลดล็อกได้จากการเคลียร์เกมด้วย Chris หรือ Jill ก็ได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ในความยากระดับ Normal ขึ้นไปเท่านั้น
Samurai Edge: ปืนพกที่มาพร้อมกับสแตทที่แรงและทำดาเมจกับความแม่นยำได้ดี โดยสามารถปลดล็อกได้จากการเคลียร์เกมด้วย Chris หรือ Jill ก็ได้ภายในเวลา 5 ชั่วโมง ในความยากระดับ Normal ขึ้นไปเท่านั้น
โหมดการเล่นพิเศษที่สามารถปลดล็อกได้
โหมด Once Again…
โหมดการเล่นรูปกึ่ง New Game Plus ซึ่งจะเป็นการบันทึกไฟล์เซฟว่าเป็นสถานะเล่นเกมจบแล้วขั้นต่ำหนึ่งครั้ง ผู้เล่นสามารถเล่นต่อได้ด้วยความยากระดับใดก็ได้ ทั้งนี้จะไม่ได้เป็นการยกไอเทมจากการเล่นรอบแรกมาแต่อย่างใด
ฟีเจอร์ One Dangerous Zombie
หลังจากเคลียร์เกมด้วย Jill และ Chris อย่างน้อยตัวละครละหนึ่งครั้ง ผู้เล่นจะพบว่ามีตัวละคร Forest ที่กลายเป็นซอมบี้ปรากฏขึ้นมาในเกม โดยจะมีความเร็วในการเคลื่อนไหวที่สูงมาก และเราไม่สามารถโจมตีหรือกระทั่งสัมผัสเขาได้เนื่องจากมีระเบิดติดตัวอยู่ หากพลาดโดนจะถือว่าเกมจบทันที ซึ่งการปรากฏตัวจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่เรารับไอเทม Book of Curses มาและจะหายไปเมื่อได้รับ Helmet Key
โหมดความยากระดับ Hard และ Real Survival Mode
ผู้เล่นสามารถปลดล็อกโหมดความยากระดับ Hard ได้จากการเคลียร์เกมด้วยตัวละครใดก็ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยจะมีความแตกต่างที่ศัตรูมีความอึดมากขึ้น และมีจำนวนกระสุนกับไอเทมสำหรับฟื้นฟูพลัง รวมไปถึงไอเทมป้องกันตัวน้อยลง ทั้งนี้ในส่วนของตำแหน่งวางไอเทมกับความยากของปริศนาจะมีความท้าทายเทียบเท่ากับโหมดปกติ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยปริมาณของกระสุนที่น้อยลงแต่ต้องใช้กำจัดศัตรูมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นต้องบริหารกระสุนให้ดี
ขณะเดียวกันโหมด Real Survivor ที่จะปลดล็อกพร้อมกัน จะเป็นรูปแบบการเล่นที่เหมือนกับระดับข้างต้น แต่กล่องไอเทมทั้งหมดจะไม่เชื่อมโยงเข้ากัน นั่นหมายความว่าหากเราเก็บไอเทมไว้ในหีบตำแหน่งใด จะจำเป็นต้องวิ่งกลับไปยังหีบเดิมเพื่อรับไอเทมนั้นคืน นอกจากนี้การเล็งเป้าจะไม่หันไปทางศัตรูอัตโนมัติแล้ว นอกจากนั้นจะมีความแตกต่างในส่วนของประตูบริเวณห้องฟากตะวันออกที่จะไม่จำกัดการใช้อีกต่อไป อีกทั้งจะไม่มี One Dangerous Zombie ปรากฏขึ้นด้วย
โหมด Invisible Enemy
สามารถปลดล็อกได้หลังจาก
- เคลียร์โหมด Real Survivor
- เคลียร์เกมด้วย Chris และ Jill ในโหมดความยากระดับ Hard
โหมดนี้มีความยากในระดับเทียบเท่ากับ Real Survivor นั่นคือจะไม่มี Auto Aim และไม่มี One Dangerous Zombie อย่างไรก็ตาม ศัตรูทั้งหมดจะอยู่ในสถานะล่องหน ซึ่งจะเห็นตัวได้แค่ตอนที่มันโจมตีเรา และสามารถสังเกตได้จากการยิงปืนใส่จนพบว่ามีเลือดสาดลงมา หรือในบางห้องที่มีภาพสะท้อนจากแอ่งน้ำและกระจก เนรียกได้ว่าเป็นโหมดที่ยากที่สุดของเกมเลยก็ว่าได้ หากใครเคลียร์สำเร็จก็ต้องซูฮก!
เกี่ยวกับ Resident Evil 1 Remake (2002/2014)
เกมเอาตัวรอดสยองขวัญบอกเล่าเรื่อราวของ Chris Redfield และ Jill Valentine ที่ต้องเดินทางไปสืบค้นข้อมูลการสูญหายของสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. ทีมบราโวที่ขาดการติดต่อไป ก่อนจะพบว่าพวกเขาถูกจู่โจมโดยภัยซอมบี้และต้องหนีตายไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่เบื้องหน้า ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่พวกเขาไม่อาจลืมชั่วชีวิต ปัจจุบันสามารถหาเล่นได้แล้วบน PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC
