อย่างซวย! ตลับ Switch มือสองในตลาดอาจทำให้ผู้เล่นโดนแบนได้

การเล่นเกมมือสองนั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการสะสมตลับเกมเพราะนอกจากจะได้ราคาที่ถูกกว่า แต่ในทางเดียวกันแม้จะไม่เพิ่มรายได้ให้ค่าย ทว่าก็ช่วยให้เข้าถึงได้โดยไม่ทำร้ายผู้พัฒนาจนเกินไป อย่างไรเสียดูเหมือนว่าเจตนาดีเหล่านี้อาจกลายเป็นดาบสองคมเมื่อในตลาดกลับมีตลับเกมที่เป็นอันตรายกับผู้เล่นจนถึงขั้นถูกแบนชั่วคราวก็เป็นได้ ว่าแล้วมาฟังอุทาหรณ์จากผู้เล่นคนหนึ่งบน Reddit เลย

นายคนนี้ชื่อว่า dmanthey ที่มาแบ่งปันให้ฟังว่าตัวเองได้ซื้อตลับเกมมือสองมา แต่พบว่าหลังจากเสียบตลับเล่นเกม พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและดาวน์โหลดแพตช์ ก็ถูกค่ายเกมอารมณ์ดีสีแดงของเราแบนไปเสียอย่างนั้น ทั้งนี้โชคดีที่ตนได้ยื่นอุทธรณ์และพูดคุยกับฝ่ายสนับสนุนลูกค้าจนปลดแบนได้สำเร็จ โดยคาดว่าอาจเป็นเพราะตลับเกมนั้นเป็นตลับที่ถูกดัมป์ไฟล์เพื่อทำการเล่นเถื่อนนั่นเองครับ

ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ฟังว่าการดัมป์ไฟล์ที่ว่าก็คือการที่แฮกเกอร์ได้รับตลับเกมแท้เกมหนึ่งมา ยกตัวอย่างเช่นเกม A พร้อมการเข้ารหัสในตลับว่า 123 (รวมเป็น A123) เจ้าตัวก็จะนำตลับไปเข้าสู่ขั้นตอนการถอดไฟล์ออกมาเพื่อทำเป็น ROM ซึ่งการคัดลอกไฟล์นั้นจะทำให้การเข้ารหัสประจำตลับหลุดติดมาด้วย และหลังจากดึงไฟล์เสร็จ เขาก็อาจจะขายออกตลาดต่อไป แต่นั่นก็จะหมายความว่า หากคนโหลด ROM ที่มีรหัส 123 ไปและต่ออินเทอร์เน็ต เซิร์ฟเวอร์ Nintendo ก็มีโอกาสที่จะคิดว่าตลับนั้นเป็นถูกเล่นโดยเครื่องเถื่อน ทั้งๆ ที่เป็นตลับแท้ เพราะมีคนใช้เกม A123 ที่เป็นเกมที่เข้ารหัสเลขเดียวกันพร้อมกันหลายคน และแบนรวบยอด!

ทั้งนี้ dmanthey ไม่ได้ติดใจอะไรและคิดว่าการให้ความช่วยเหลือของ Nintendo ค่อนข้างรวดเร็วว่องไวเพราะมีเจ้าหน้าที่พูดคุยด้วยตลอดแบบไม่ต้องเข้าสู่การคุยกับแชทบอตให้เสียเวลา กระนั้นเรื่องการเล่นเกมแล้วเสี่ยงตลับเถื่อนคงทำให้ทุกคนหลอนไปพักใหญ่ ทว่าสำหรับบ้านเราน่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลเนื่องจากแหล่งจำหน่ายของตลับก็มีตัวแทนชัดเจนอยู่แล้ว และในประเทศไทยเองคงมีโอกาสน้อยทีเดียวครับที่จะมีแฮกเกอร์นำเครื่องมือดัมป์ไฟล์มาใช้ในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตรวจสอบที่เข้มงวด

เกี่ยวกับ Nintendo Switch

ไลน์สินค้านี้เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่มาพร้อมกับหน้าจอในตัว โดยปัจจุบันรุ่นที่สองได้วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ซึ่งจะมาพร้อมคุณสมบัติการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB เริ่มต้นราคาที่ 17,800 บาท ส่วนรุ่นแรกสามารถทำยอดทะลุ 150 ล้านชุดเป็นที่เรียบร้อย