Nintendo เผย Switch 2 จำเป็นต้องรันเกมเก่าผ่านรูปแบบ Emulator
โดยปกติ ระบบ Backwards Compatibility ของปู่นินมักเป็นการรันด้วย CPU แบบสลับโหมด

หนึ่งในฟีเจอร์ของ Nintendo Switch 2 ที่หลายคนถูกใจเป็นพิเศษก็คือ Backward Compatibility หรือการเล่นเกมย้อนหลังที่ทางค่ายเกมได้ยืนยันว่าจะใส่มาตั้งแต่ก่อนเปิดตัวเพื่อให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเดิมที่ให้การสนับสนุนมาเป็นเวลายาวนาน แถมยังอนุโลมให้ใช้จอยเกมเดิม มาเล่นกันต่อได้แบบไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่มากมาย ทั้งนี้ล่าสุดทางผู้ออกแบบเครื่องก็มีรายละเอียดใหม่ มาแบ่งปันในบทสัมภาษณ์พิเศษ ด้วยครับ
มีการระบุอย่างเป็นทางการว่า การรันเกมเก่าบน Switch รุ่นใหม่ครั้งนี้จะใช้รูปแบบ Emulator ที่ออกแบบมาให้กับเครื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากยุคของ Nintendo DS > 3DS และ Wii > WiiU ที่ก่อนหน้านั้น ทางค่ายได้ใส่ตัวประมวลผลเก่าเข้ามาไว้ในตัวเพื่อสลับโหมดไปมาระหว่างการรันเกมเก่า – ใหม่ และจุดสังเกตก็คือ Switch 2 ก็จะมีบางเกมของ Switch 1 ที่ไม่สามารถรันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และต้องปล่อยรายชื่อเกมที่มีปัญหาออกมาก่อนนั่นเองครับ
อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการใช้โปรแกรมจำลองการเล่นเกมก็คือ Nintendo Switch 2 จะสามารถอัปเกรดตัวเกม Switch 1 ในหลายๆ เกมได้ เช่น Pokémon Scarlet & Violet ที่มีปัญหาเรื่องเฟรมเรตและความละเอียดภาพ หรือ Super Mario Odyssey เองก็จะมีภาพที่คมชัด เห็นเกมเพลย์ที่ลื่นไหลมากขึ้น ซึ่งในกรณีที่เป็นการใช้ CPU แบบสลับโหมดเหมือนเมื่อก่อน จะทำให้เกมสามารถรันได้เพียงระดับเทียบเท่ากับรุ่นมาตรฐานเท่านั้นครับ

เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 5 มิถุนายน 2025 นี้ครับ