เพื่อนๆ ที่ทำการติดตามแฟรนไชส์ Drakengard กันมานานจนถึงการต่อยอดสู่ NieR ก็น่าจะทราบกันดีว่าตัวเกมมาพร้อมกับคอนเทนต์ที่อัดแน่นให้เล่นยาวๆ และจุดเด่นสำคัญก็คือฉากจบหลากหลายแบบที่สามารถปลดล็อกได้ ซึ่งในภาค Automata ที่เป็นภาคยอดนิยม ก็จะพบว่ามีให้ปลดล็อกจากการเล่นวนยาวๆ มากถึง 26 แบบ โดยล่าสุดก็มีการเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเกมให้ฟังกันด้วย
Yoko Taro ได้ให้สัมภาษณ์ในจดหมายข่าวใหม่ล่าสุดจากทาง Square Enix ถึงสาเหตุที่เกมมีฉากจบมากกว่า 20 แบบ ซึ่งนับว่าแทบจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกมแล้วด้วยเหมือนกัน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าที่จริงแล้วมันคือความต้องการของทางค่ายผู้จัดจำหน่ายอย่างพี่เหลี่ยมที่ได้รีเควสต์โดยเฉพาะว่า ‘ให้ใส่คอนเทนต์เข้ามาอีกเรื่อยๆ!’ และเมื่อรวมกับไอเดียของ Drakengard ตั้งแต่แรกที่เน้นฉากจบเยอะๆ เพิ่มไปเพิ่มมามันก็เป็น 26 แบบเลย!
สำหรับใครที่ไม่รู้จักเกม NieR: Automata ก็ขอแนะนำว่าเป็นผลงานเกมแอ็กชันสวมบทบาทโดย PlatinumGames และ Square Enix และมีเนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตอันไกลโพ้นเมื่อไม่มีมนุษย์เหลืออยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นแอนดรอยด์ชื่อว่า 2B และต่อสู้กับเหล่าหุ่นยนต์วายร้ายเพื่อขับไล่พวกมันออกไป ปัจจุบันเกมวางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC
ในส่วนของการปลดล็อกฉากจบต่างๆ ที่ไม่เหมือนกันก็จะมีเงื่อนไขระหว่างการเล่นที่แตกต่างกันไป เริ่มจากการเล่นเซฟแรกไปจนถึงการตัดสินใจในการกระทำหลายๆ อย่าง อาจจะเป็นการวิ่งหนีบอส การเล่นมินิเกม การปล่อยภารกิจให้จบแบบล้มเหลว และที่โด่งดังที่สุดก็คือการลบเซฟทิ้งนั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ได้เคลียร์จนครบหมดหรือเปล่า ก็ลองมาพูดคุยกับ ThisIsGame Thailand ได้นะ
