Mario Kart World ไม่นับเป็นภาค 9 และจะมีสนามแข่งมากกว่า 100 แห่ง

ผู้เล่นที่กำลังรอคอย Nintendo Switch 2 อยู่คงมีจำนวนไม่น้อยที่อยากลองเล่น Mario Kart World เกมภาคใหม่ของซีรีส์ที่ยกระดับความสนุกให้เป็นสเกลที่มหึมามากขึ้นไปอีกทั้งสนามแข่งแบบโอเพนเวิลด์ และจำนวนนักแข่งในแมตช์ถึง 24 ตัวละครพร้อมกัน ทั้งนี้หากสังเกตจากชื่อก็เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 20 ปีที่ไม่ได้ใช้ชื่อภาคเป็นคอนโซล และไม่ได้ใช้เลขกำกับแบบที่ผ่านมาด้วย

ภายในบทสัมภาษณ์ช่วง Ask the Developer ได้มีการเปิดเผยให้ฟังจากทีมผู้พัฒนาว่า Mario Kart World จะไม่ได้นับเป็นเกมภาค 9 แต่อย่างใดด้วยรูปแบบการออกแบบเกมที่ตั้งใจให้ฉีกจากเดิมที่เราจะพบว่าเกมใช้ดีไซน์สไตล์ไฮเทคล้ำยุค มามีความแคชวลมากขึ้น และที่สำคัญหากสังเกตไลน์อัปสนามแข่งของโหมด Grand Prix ก็ไม่ได้แบ่งเป็นฉากกันที่มีการโหลดอีกต่อไปแม้จะเป็นรูปแบบสี่สนามตามถ้วยเหมือนมาตรฐานก็ตาม ทว่าเราจะได้เพลิดเพลินกับโลกในเกมเส้นทางการขับขี่จากสนามหนึ่งไปอีกสนามหนึ่ง ชื่อ World จึงมีความเหมาะสมที่สุด

นอกจากนั้นแล้ว ว่าด้วยจำนวนสนามที่ถ้าหากนับแล้วจะมีเพียง 30 แห่ง ซึ่งเหมือนจะลดจากเดิมที่เคยอยู่ที่ 32 ในภาคก่อนๆ แต่ก็จะมีฉากที่นำมาแข่งซ้ำพร้อมเลย์เอาต์ใหม่คือ Peach Stadium และ Crown City เป็น 32 แห่ง และขณะเดียวกันทีมงานยังกล่าวว่าเส้นทางที่เป็นถนนทอดยาวจากสนามไปอีกสนามนั้นก็นับเป็นจุดแข่งเหมือนกัน โดยจำนวนรวมทั้งหมดก็มีมากกว่า 100 เส้นทางเลยครับ ซึ่งจุดนี้หากสังเกตให้ดีไม่ได้มีแค่เส้นถนนอย่างเดียว แต่ยังมีฉากที่ถูกรีเมคใหม่มาเสริม เช่น Ghost Valley 1, 2 และ 3 จาก Super Famicom ที่จะตั้งอยู่หน้าฉาก Boo Cinema ทั้งสามฉากนี้ไม่ถูกนับอยู่ในสนามสำหรับการแข่งแต่อย่างใด แต่ก็จะนับเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่มีร่วมกันหลักร้อย

ย้อนกลับมาที่เรื่องของตัวเลขภาคอีกครั้ง นี่อาจเป็นการกล่าวกลายๆ ว่า Mario Kart ในรูปแบบลำดับภาคมาตรฐานที่จะแบ่งสนามแข่งเป็นแห่งๆ เหมือนภาคเก่าๆ ก็ยังคงมีโอกาสที่จะกลับมาได้เหมือนกัน กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าการลองเชิงรูปแบบใหม่นี้ อาจจะเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของเกมก็ได้ บางทีเราอาจจะเห็น Mario Kart World 2 ก็ได้ใครจะไปรู้ สำหรับเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรมาพูดคุยกันกับ ThisIsGame Thailand ได้นะ

เกี่ยวกับเกม Mario Kart World

เกมรูปแบบรถแข่งปาร์ตี้ภาคใหม่ที่จะมาพร้อมกับการแข่งขันในสนามขนาดมหึมา รองรับผู้เล่นถึง 24 คนในฉากพร้อมกัน ซิ่งมันส์แบบไร้รอยต่อบนถนนและสนามแข่งที่เชื่อมต่อกันที่มอบประสบการณ์อย่างไม่เคยมีมาก่อน นอกจากเกมเพลย์มาตรฐานแล้วพร้อมโหมดการเล่นทั้งแบบ Knockout Tour ที่เป็นรูปแบบการแข่งขัน Battle Royale ตามหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว และ Free Roam ที่เป็นรูปแบบการเล่นแบบโอเพนเวิลด์ พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายนบน Nintendo Switch 2