Clair Obscur: Expedition 33 ทำแฟนหันกลับไปหลงรัก Final Fantasy X

ความแรงของ Clair Obscur: Expedition 33 ไม่ได้หยุดอยู่แค่การคว้ารางวัลหรือเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์เท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบย้อนกลับไปถึงเกมระดับตำนานอย่าง Final Fantasy X อีกด้วย เมื่อแฟนเกมจำนวนมากเริ่มพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งโครงสร้างเนื้อเรื่อง บรรยากาศ และดนตรีของ Expedition 33 ชวนให้นึกถึงหนึ่งใน JRPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล จนทำให้หลายคนหันกลับไปหยิบ Final Fantasy X มาเล่นซ้ำ หรือเล่นเป็นครั้งแรกอย่างจริงจัง

Clair Obscur: Expedition 33 จุดประกายให้แฟนเกมนึกถึง Final Fantasy X

ในช่วงที่ Clair Obscur: Expedition 33 กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งจากการครองใจผู้เล่นจำนวนมากและการขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในลิสต์ Game of the Year ของ TheGamer แฟน ๆ ก็เริ่มหันมาพูดถึงรากฐานแรงบันดาลใจของเกมนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอิทธิพลจากเกม JRPG รุ่นบุกเบิก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือซีรีส์ Final Fantasy ที่นักพัฒนา Sandfall Interactive ได้รับอิทธิพลมาอย่างชัดเจนในชุมชน Reddit ของ Expedition 33 ผู้ใช้รายหนึ่งชื่อ UCA_Cash_Flow_Bro ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบระหว่าง Clair Obscur: Expedition 33 และ Final Fantasy X พร้อมยกให้ภาค 10 เป็นเกมที่ “ต้องเล่น” สำหรับแฟน E33 โดยระบุว่า แม้จะเป็นเกมเก่ากว่า แต่โดยรวมแล้วอาจจะ “ดีกว่านิดหน่อย” ด้วยซ้ำ และยังกล่าวว่า Final Fantasy X คือ “คำแนะนำที่ง่ายที่สุด” สำหรับคนที่ชอบ Expedition 33 ถึงขั้นเรียกเกมใหม่ล่าสุดนี้ว่าเป็น “Final Fantasy X แห่งยุคปัจจุบัน”

ความคิดเห็นของผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้ชื่อ Kaze950 เล่าว่า เมื่อเดินทางไปถึงฉาก Monolith ใน Expedition 33 เขานึกถึงความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ไปถึง Zanarkand ใน Final Fantasy X ทันที เนื่องจากทั้งสองเกมมีโครงสร้างการเล่าเรื่องและการเดินทางที่คล้ายกัน แม้แต่ดนตรีประกอบก็ให้บรรยากาศใกล้เคียงกัน ขณะที่ผู้ใช้ Anghellik มองว่า ทั้งสองเกมมีโทนหม่นเศร้าแบบ Melancholic ที่ไม่ค่อยมีเกมกล้าทำ และ TheIncredibleHork เสริมว่า ธีมเกี่ยวกับความสูญเสีย ความตาย และการก้าวเดินต่อไป สะท้อนกันอย่างชัดเจนในทั้งสองผลงาน

การที่ Clair Obscur: Expedition 33 ทำให้ผู้เล่นหันกลับไปหลงรัก Final Fantasy X อีกครั้ง อาจเป็นเครื่องยืนยันว่าเสน่ห์ของ JRPG คลาสสิคยังไม่เคยเลือนหายไปไหน และเมื่อเกมยุคใหม่สามารถหยิบจิตวิญญาณเหล่านั้นมาต่อยอดได้อย่างลงตัว ก็ยิ่งทำให้แฟนเกมรุ่นเก่าและใหม่ได้เชื่อมโยงกันผ่านประสบการณ์เดียวกัน คำถามต่อจากนี้อาจไม่ใช่ว่าเกมไหนดีกว่ากัน แต่เป็นว่า JRPG ยุคถัดไปจะได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานเหล่านี้ไปไกลแค่ไหนกันแน่

Clair Obscur: Expedition 33 เป็นเกมแนว RPG เทิร์นเบสแบบเรียลไทม์ที่ผู้เล่นเป็นกลุ่มนักเดินทางที่ได้รับมอบหมายในการตามหา The Paintress วายร้ายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักวาดเขียนที่จะบัญญัติตัวเลขอายุในทุก ๆ ปี เพื่อคร่าชีวิตบุคคลใด ๆ ในอายุดังกล่าวให้หายไป และในปีนี้คือเลข 33 จึงทำให้ทุกคนต้องร่วมมือกันตามหาผู้อยู่เบื้องหลังและกำจัดเธอทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิปโยคอีกเป็นครั้งที่สอง โดยระบบการเล่นจะเป็นการป้อนคำสั่งเพื่อต่อสู้กับศัตรู และสามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกหรือต่อสู้กลับทำคอมโบได้ในเวลาเดียวกัน