Final Fantasy VII Remake ตั้งเป้าเป็นเกมพอร์ต Switch 2 ต้นแบบยอดเยี่ยมให้เกมอื่น

แม้ Final Fantasy VII Remake Intergrade จะเป็นเกมที่วางจำหน่ายมาเป็นเวลาพักใหญ่แล้ว แต่คงมีหลายคนที่อาจจะเพิ่งได้มีโอกาสลองเล่นกันเป็นครั้งแรกในเครื่องเล่น Nintendo Switch 2 และ Xbox Series X|S ในช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้นคือ Square Enix จะงัดไม้ไหนออกมาให้เกมที่มีงานภาพสวยเช้งและประสบการณ์แอ็กชันสุดมันส์มาถ่ายทอดบนเครื่องเล่นรุ่นจิ๋วกันได้อย่างราบรื่น

ล่าสุด คุณ Naoki Hamaguchi ผู้กำกับเกมและหัวเรือใหญ่ของโปรเจ็กต์ไตรภาคฉบับรีเมคได้ออกมาพูดคุยกับ Screenrant ถึงการทำงานในเวอร์ชันนี้ด้วยครับ และจากเสียงตอบรับช่วงทดสอบเขาก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่ทีมโปรแกรมเมอร์ร่วมมือกันจนได้บิลด์ออกมาที่ยอดเยี่ยมให้ผู้เล่นได้ลองเล่นกัน ซึ่งความท้าทายอย่างหนึ่งของเวอร์ชัน Switch 2 ก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องสเปคในโหมดแสดงผลพกพาที่จะต้องลดสเปคกันมาบ้าง และพวกเขาก็ทำออกมาได้สำเร็จจริงๆ และมั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในเกมพอร์ตตัวอย่างให้กับเกมอื่นๆ ในอนาคต

หากใครได้ลองเล่นกันมาในอีเวนต์ใหญ่ๆ ก่อนหน้านี้ก็จะทราบว่า Nintendo Switch 2 สามารถรันเกมได้ด้วยภาพกราฟิกความละเอียดสูงที่ 30FPS ลื่นๆ ส่วนหนึ่งไม่ได้เป็นเพราะการลดทอนเรื่องของคุณภาพแสง เงา โมเดลหรืออนิเมชัน แต่เป็นเพราะการปรับจูนเอฟเฟกต์ด้านอื่นๆ อย่าง Post-processing มากกว่า ดังนั้นจึงลดการประมวลผลลงไปมาก แต่ขณะเดียวกัน พวกเรื่องอารมณ์ตัวละคร ก็ยังอยู่ครบถ้วนเลยครับ ว่าแล้วก็อยากให้ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหนก็ลองหยิบไอเดียนี้ไปเป็นแบบอย่างเพื่อพอร์ตเกมบ้าง เพราะเครื่องรุ่นนี้แม้ไซส์เล็กแต่ก็แรงใช่ย่อย

เกี่ยวกับเกม Final Fantasy VII: Remake Intergrade

การกลับมาอีกครั้งของซีรีส์ JRPG ในตำนานที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้กับเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่โดยเฉพาะผ่านเอนจิ้น Unreal Engine 4 ที่ทันสมัย ซึ่งผู้เล่นจะได้เดินทางผจญภัยร่วมกับ Cloud และเพื่อนๆ อีกมากมายในโลกสุดแฟนตาซีเพื่อโค่นล้มบริษัทวายร้าย Shinra Company จากการคุกคามผู้คนทั่วเมือง Midgar โดยเวอร์ชันใหม่จะวางจำหน่ายให้ Nintendo Switch 2 และ Xbox Series X|S ในวันที่ 22 มกราคมปีหน้า

ตัวเกมรูปแบบ Intergrade ที่ได้รับการเตรียมวางจำหน่ายบน Nintendo Switch 2 และ Xbox Series X|S มีจุดเด่นที่การเพิ่มคอนเทนต์อย่าง Episode INTERmission ที่พาเราไปรับบทเป็น Yuffie ตัวละครนินจาสาวสุดแสบในเนื้อเรื่องที่มีความยาวเทียบเท่ากับสองบทใหญ่ๆ และยังมีระบบใหม่อย่าง Streamlined Progression ที่ช่วยเหลือในการเล่นให้ราบรื่นขึ้นด้วยเช่นกันครับ ใครสนใจประสบการณ์แบบไหนรอเล่นได้เลย แถมมีพรีวิวข้างล่างจาก ThisIsGame Thailand และสัมภาษณ์พิเศษด้วยนะ