
การประกาศรีเมคครั้งใหญ่ของ Dragon Quest VII Reimagined จาก Square Enix สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก แต่ก็หนีไม่พ้นเสียงวิจารณ์บางส่วน โดยเฉพาะแฟนเกมในญี่ปุ่นที่แสดงความกังวลว่าเกมอาจถูกทำออกมาอย่างเร่งรีบ จนล่าสุด Masato Yagi ผู้กำกับของโปรเจกต์นี้ต้องออกมาโต้กลับด้วยตัวเอง ยืนยันว่า ทีมงานทุ่มเทอย่างเต็มที่และไม่ได้ทำเกมในลักษณะ “ไฟไหม้” อย่างที่หลายคนเข้าใจ
เสียงตอบโต้ของผู้กำกับ Dragon Quest VII Reimagined
Yagi ได้โพสต์ข้อความผ่าน X เมื่อวันที่ 14 กันยายน โดยกล่าวว่า “เราไม่ได้เร่งทำเกมในวินาทีสุดท้าย ทุกคนกำลังทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับโปรเจกต์นี้ ผมแค่อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ และไม่ได้หมายความว่าเราทำงานหนักแล้วห้ามวิจารณ์นะครับ อย่าเข้าใจผิดไป”
แม้เขาจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าตอบโต้ประเด็นใด แต่หลายฝ่ายเชื่อว่านี่คือการโต้กลับกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับการตัดเนื้อหาบางส่วนของเกมรีเมคออกไป เนื่องจากทีมพัฒนายืนยันว่าจะมีการปรับโครงเรื่องให้กระชับขึ้น โดยตัดบางตอนย่อยที่ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อหาหลักออก ซึ่งทำให้แฟนเกมบางส่วนไม่พอใจเพราะต้นฉบับมีเสน่ห์ตรงเนื้อหาปริมาณมากและการผจญภัยที่หลากหลาย
นอกจากนี้ ยังมีเสียงวิจารณ์เรื่อง การตัดระบบ Monster Vocation และ จำนวนแท่นบูชา (Pedestals) ที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อการปลดล็อคเกาะต่าง ๆ ในเกมต้นฉบับ ทำให้เกิดกระแส “Doomposting” หรือการคาดการณ์เชิงลบก่อนเกมออกจริง โดยบางคนถึงขั้นกังวลว่า Dragon Quest VII Reimagined อาจเป็นแค่โปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ทำขึ้นเพื่อรอช่องว่างก่อน Dragon Quest XII วางจำหน่าย
เพื่อสยบข่าวลือเหล่านี้ Yagi ย้ำชัดว่าทีมงานกำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง และ Square Enix เองยังยืนยันว่าจะมีการใส่ คอนเทนต์ใหม่ เข้าไป เช่น “New Scenarios” และ Moonlighting System ที่ไม่เคยมีในภาคดั้งเดิม เพื่อเสริมความสดใหม่ให้กับรีเมคครั้งนี้
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ตั้งแต่ยังไม่วางจำหน่าย แต่ผู้กำกับ Dragon Quest VII Reimagined ก็ยืนยันชัดว่าเกมนี้ไม่ใช่โปรเจกต์เร่งรีบ และทีมงานทุ่มใจเต็มร้อยเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แฟน ๆ อย่างไรก็ตาม การตัดบางเนื้อหาออกและการเปลี่ยนระบบอาจทำให้แฟนรุ่นเก่ายังอดห่วงไม่ได้ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าเกมตอนวางจำหน่ายจะได้รับกระแสตอบรับอย่างไร
Dragon Quest VII Reimagined เกม JRPG ที่ได้รับการรีเมคใหม่จากภาค Fragments of the Forgotten Past เรื่องราวของเกมนี้เกี่ยวข้องกับอาณาจักร Estard และผู้กล้าของเราได้เดินทางไปยังโลกอดีตเพื่อต่อสู้กับศัตรูที่ยึดบ้านเกิดในโลกปัจจุบันไปนั่นเอง ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยเข้ากับเมคานิกการเดินทางข้ามเวลา พร้อมเพิ่มคอนเทนต์เนื้อเรื่องใหม่ เควสต์ใหม่ มินิเกมใหม่ และระบบต่อสู้ที่มีความเป็นไดนามิกมากขึ้น โดยเกมนี้มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2026 สำหรับ PC, PS5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ Switch 2 โดยเวอร์ชั่น Steam จะออกตามมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2026