
เกิดประเด็นดราม่าครั้งใหม่ในวงการเกมสยองขวัญ เมื่อแฟน ๆ พบว่า Silent Fear: Last Stop เกมมือถือบน iOS ได้นำภาพจาก Silent Hill f มาใช้อย่างโจ่งแจ้ง ทั้งภาพโปรโมท โลโก้ ไปจนถึงภาพสกรีนช็อตที่ตัดตรงมาจากคลิปเกมเพลย์จริง ทำให้เกมถูกมองว่าเป็น “เกมเถื่อนลอกเลียนแบบ” แบบไม่ต้องสงสัย
เกมเถื่อนก๊อปภาพ Silent Hill f




จากรายงานพบว่า Silent Fear: Last Stop เป็นเกมมือถือพัฒนาโดยนักพัฒนานาม Khail Al Yamama ซึ่งมีลักษณะเป็นเกมลอกเลียนแบบอย่างชัดเจน โดยหน้าเพจใน App Store ใช้ภาพสกรีนช็อตจาก Silent Hill f ของ Konami ทั้งหมด พร้อมภาพงานศิลป์ที่คาดว่าเป็นงานสร้างด้วย AI เพื่อดัดแปลงให้ดูเหมือนเป็นผลงานออริจินัล ทั้งยังพบว่าภาพโลโก้ของเกมถูกสร้างขึ้นโดยอ้างอิงงานศิลป์ของ kera จากภาคต้นฉบับอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเปลี่ยนรายละเอียดบางส่วน แต่ลักษณะโดยรวมยังคงคล้ายจนแยกแทบไม่ออก
ยิ่งไปกว่านั้น สองในสามภาพที่ใช้โฆษณาเกมคือภาพตรงจากคลิปเล่นเกมของช่อง YouTube ที่ชื่อว่า MKIceAndFire โดยสามารถเห็นลายน้ำของช่องตกค้างอยู่ที่มุมขวาล่างของหน้าจอบน iPad จากนั้นจึงมีการนำไอคอนควบคุมแบบเกมมือถือมาวางทับ เพื่อให้ดูเหมือนเป็นเกมที่รันอยู่จริง ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพตัดต่อจากเกมของ Konami เท่านั้น ส่วนอีกภาพหนึ่งแม้จะเป็น “ภาพต้นฉบับ” ของเกม แต่ก็ถูกคาดว่าเป็นภาพที่สร้างด้วย AI เช่นกัน โดยเป็นภาพตัวละครที่ยืนอยู่ฝั่งลูกค้าของเคาน์เตอร์คิดเงินในร้านสะดวกซื้อ
สำหรับตัวเกม Silent Fear: Last Stop (ซึ่งในญี่ปุ่นใช้ชื่อ Last Stop: Silent Terror) มีเนื้อหาเกี่ยวกับพนักงานร้านสะดวกซื้อที่ทำงานกะดึกในปั๊มร้างกลางทาง เกมเริ่มต้นด้วยงานประจำวันทั่วไป ก่อนที่เรื่องเหนือธรรมชาติจะเริ่มเกิดขึ้นในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม แม้จะลอกภาพจาก Silent Hill f แต่เนื้อเรื่องกลับคล้ายกับเกมอินดี้ The Convenience Store ของ Chilla’s Art มากกว่า
แม้ Silent Fear: Last Stop จะวางขายในราคา 4.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 160 บาท) และเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม เพียงหนึ่งสัปดาห์หลัง Silent Hill f วางจำหน่าย แต่การนำภาพและงานศิลป์จากเกมต้นฉบับมาใช้โดยตรงอาจนำไปสู่ปัญหาด้านลิขสิทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไม่ชัดเจนว่า Konami รับรู้เรื่องนี้แล้วหรือไม่ แต่ด้วยหลักฐานการลอกเลียนแบบที่ชัดเจนเช่นนี้ ก็คงต้องจับตาดูว่าชะตากรรมของเกมมือถือดังกล่าวจะอยู่ได้นานเพียงใดใน App Store
ผู้อ่านล่ะครับคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้? อย่าลืมมาพูดคุยกันในเว็บไซต์ This is Game Thailand กันนะครับ







