Sony รายงานยอดจำหน่ายของ PlayStation 5 แตะ 50 ล้านเครื่องแล้ว
เดินทางมาเกือบถึงครึ่งทางของเครื่องเล่นรุ่นก่อนหน้าอย่าง PS4
ณ เวลานี้ต้องบอกเลยว่า PlayStation 5 ได้กลายมาเป็นเครื่องเล่นหลักสำหรับ Sony โดยสมบูรณ์แล้วหลังจากที่ยกเลิกการรายงานยอดขายสำหรับเครื่องเล่นรุ่นก่อนหน้ากันไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และสถานการณ์เกี่ยวกับการผลิตเองก็ดีขึ้นตามลำดับจนสามารถเสิร์ฟความต้องการของผู้เล่นที่รอคอยทั้งเกมเมอร์มือใหม่และสายดองที่ซุ่มจะสั่งจองกันมานานเป็นปี ซึ่งล่าสุดก็มีการยืนยันถึงความสำเร็จครั้งใหม่แล้วด้วย
ครึ่งร้อย! PlayStation 5 กับก้าวถัดไป ณ หลัก 50 ล้าน
Sony เปิดเผยผ่านรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมาว่ายอดจำหน่ายของคอนโซลรุ่นนี้นั้นสามารถขึ้นสู่หลัก 54.8 ล้านได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในเดือนตุลาคม – ธันวาคมที่ผ่านมาสามารถทำยอดได้ที่ 8.2 ล้านเครื่อง ถือว่าเพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 1.1 ล้านเครื่อง อย่างไรเสียก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นยอดจำหน่ายที่น่าผิดหวังด้วยการตั้งเป้าที่สูงกว่านี้เพราะเป็นช่วงเวลาฤดูหนาวและเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปี
อย่างไรก็ตามเมื่อมองในส่วนของซอฟต์แวร์และบริการ พบว่ามีการเติบโตขึ้นที่ค่อนข้างโอเค โดยการใช้บริการ PlayStation Network รูปแบบฟรีนั้นพบว่ามีผู้เข้าใช้งานที่ 123 ล้านคน แม้จะไม่ใช่การเติมเงินเพื่อใช้สิทธิ์สมาชิกอย่างที่ตั้งเป้าไว้เสียทีเดียว แต่แน่นอนว่าก็เป็นประโยชน์ด้านการตระหนักรู้ของแบรนด์และเป็นเครื่องยืนยันว่ามีผู้ใช้งานเริ่มเข้าเล่นเกมจริงๆ แล้ว ถัดมาเป็นซอฟต์แวร์เกมทำได้ที่ 89.7 ล้านชุด แบ่งเป็นเกมจากเครือ Sony เองที่ 16.2 ล้านชุด แม้โดยรวมจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่เกมเครือตัวเองถือว่าน้อยกว่าที่ตั้งไว้เช่นกัน
แน่นอนว่าด้วยปริมาณของยอดจำหน่ายเครื่องที่สูงขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ Sony อยากเห็นเป็นธรรมดา แต่ด้วยสถานการณ์ของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อขั้นตอนการผลิตเครื่อง ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าส่งผลกับความสนใจของผู้เล่นพอสมควรเพราะจำนวนที่สามารถเปิดสั่งจองนั้นน้อยกว่าความต้องการในตลาด และเหตุการณ์นี้ดันคงอยู่กันเป็นเวลาข้ามปีจนเกิดความเบื่อหน่ายและผู้เล่นก็ย่อมไปหาทางเลือกอื่นแทนเป็นธรรมดา ครั้นจะกลับมาได้ก็ ‘สายเกินไป’
สำหรับตัวเครื่องมีราคาเริ่มต้นที่ 15,690 บาทสำหรับ All-Digital Edition และรุ่นปกติที่ราคา 18,690 บาท ตัวเครื่องมาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Zen 2 8-core, 16 thread อีกทั้งยังมีการนำหน่วยความแบบ Solid-state Drive เข้ามาใช้ รวมไปถึงจอยเกมที่มาพร้อมระบบสั่น Haptic ที่สมจริงเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมแบบราบรื่นไร้รอยต่อขึ้นไปอีก โดยปัจจุบันเวอร์ชันปรับปรุงที่มาพร้อมขนาดที่เล็กกว่าเดิมได้เปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้
