ผลการศึกษาชี้แผ่นเกม PS5 แบบกล่องส่งผลกระทบต่อโลกมากกว่าการดาวน์โหลดดิจิทัล 100 เท่า

สำหรับเกมเมอร์ที่ยังคงหลงใหลในกลิ่นของแผ่นเกมใหม่หรือภาพปกสุดสวยในกล่อง Blu-ray อาจต้องคิดใหม่เสียแล้ว เพราะผลการศึกษาล่าสุดจากบริษัทบัญชีคาร์บอนของฝรั่งเศส “Greenly” เผยว่า การซื้อเกมแบบกล่อง (Physical) ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการดาวน์โหลดดิจิทัลถึง 100 เท่า จากกระบวนการผลิต การขนส่ง และวัสดุที่ใช้ ซึ่งล้วนสร้างคาร์บอนและขยะอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลโดยไม่รู้ตัว

รายงานชี้ชัด: แผ่นเกม PS5 ปล่อยคาร์บอนสูงถึง 312 ตันต่อหนึ่งล้านแผ่น

จากรายงานที่เผยแพร่ผ่าน GamesIndustry.biz ทีมวิจัยของ Greenly ได้เปรียบเทียบ “รอยเท้าคาร์บอน” ระหว่างเกม PS5 แบบกล่องและเกมดิจิทัล พบว่า กระบวนการผลิตและขนส่งแผ่น Blu-ray แบบกล่องสามารถปล่อยคาร์บอนสูงสุดถึง 312 ตัน (tCO₂e) ต่อการผลิต 1 ล้านแผ่น ในขณะที่ การดาวน์โหลดเกมขนาด 70GB จำนวนเท่ากัน จะปล่อยคาร์บอนเพียงประมาณ 3 ตันเท่านั้น

Stefanie Safdie ผู้จัดทำรายงานอธิบายว่า “การดาวน์โหลดเกมแบบดิจิทัลก็มีการปล่อยคาร์บอนจากการใช้ไฟฟ้าในบ้านและศูนย์ข้อมูลเช่นกัน แต่ผลกระทบเหล่านั้นยังถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิต การขนส่ง และการทิ้งขยะจากแผ่นเกมจริง ๆ ซึ่งยังคงเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล”

รายงานยังระบุด้วยว่า การผลิตแผ่นเกมแบบกล่องจำเป็นต้องใช้ พลาสติกและโลหะหายาก (Rare Earth Materials) ซึ่งต้องอาศัยพลังงานจำนวนมากในการสกัด และยังก่อให้เกิดการสูญเสียน้ำในปริมาณสูงจากกระบวนการอุตสาหกรรม

แม้การซื้อเกมผ่านระบบดิจิทัลจะดูเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า แต่รายงานของ Greenly ก็เตือนว่า เกมแบบคลาวด์ (Cloud Gaming) เองก็มีค่าใช้พลังงานสูง เพราะต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ทำงานตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม บริษัทแนะนำว่าแพลตฟอร์มเจ้าของคอนโซล เช่น Sony สามารถช่วยลดผลกระทบได้โดย เพิ่มฟีเจอร์ประหยัดพลังงานในเครื่องเล่นเกม เช่นเดียวกับฟังก์ชันใหม่ใน PS5 ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้มากถึง 50%

นอกจากนี้ Greenly ยังเสนอให้ สนับสนุนระบบ “ตลาดมือสอง” สำหรับแผ่นเกมแบบกล่อง เพื่อส่งเสริมการนำสินค้ากลับมาใช้ซ้ำและลดการผลิตใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดการปล่อยคาร์บอนโดยตรง

ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงอีกมุมหนึ่งของวงการเกม ที่ไม่ใช่เพียงการแข่งขันด้านกราฟิกหรือประสิทธิภาพ แต่ยังรวมถึง ความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ ด้วย แม้แผ่นเกมจะมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งการสะสมและความรู้สึกจับต้องได้ แต่เมื่อเทียบกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มากกว่า 100 เท่า ก็คงถึงเวลาที่เกมเมอร์หลายคนต้องเริ่มทบทวนพฤติกรรมการซื้อของตนเองสุดท้ายแล้ว… คุณยังอยากซื้อแผ่นเกมแบบกล่องต่อไปไหม? หรือถึงเวลาที่เราทุกคนควรปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อช่วยลดภาระให้กับโลกใบนี้? ผู้อ่านล่ะครับคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้? อย่าลืมมาพูดคุยกันในเว็บไซต์ This is Game Thailand กันนะครับ