
ปัญหาการรีเซลเครื่องเล่นเกม PS5 ยังคงเป็นประเด็นหลักที่ทำเอาแฟนเกมหัวร้อนแม้จะผ่านมามาระยะหนึ่งแล้วสถานการณ์การหาซื้อ PlayStation 5 ภายในบ้านเรายังคงไม่ต่างจากเดิมด้วยปัญหาสินค้าหมดสต๊อคชนิดที่ว่าทันทีที่เปิดขาย ไม่ว่าจะเปิดให้จองกี่ครั้งกี่หนก็เป็นแบบนี้อยู่ร่ำไป โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็เกิดจากการที่มีพ่อค้าหัวหมอหาทางจองเครื่องเล่นเกมหลาย ๆ เครื่องและนำมาขายต่อในราคาขูดเลือดขูดเนื้อ แน่นอนว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมเสียเงินให้กับพวกพ่อค้าเหล่านี้ แต่ในทงกลับกันก็มีผู้เล่นหลายคนที่มีความต้องการเครื่องเล่นเกมนี้สูงจนทำให้พวกเขาต้องยอมควักเงินจ่ายเพิ่มอย่างเลี่ยงไม่ได้
ล่าสุดเกมเมอร์ PS ชาวไทยคนหนึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การอดทนรอซื้อเครื่องในราคาปกติ โดยไม่ผ่านรีเซลว่า “เงินส่วนต่างที่ต้องเสียไปโดยไม่จำเป็นนั้น สามารถนำไปใชทำอะไรได้บ้าง?”

เขาได้เล่าว่าเขาได้เริ่มสนใจ PS ตอนล็อต 12 ตอนนั้นราคารีเซลราคา 30,000 กว่าบาท ซึ่งราคาเครื่องจริง ๆ แค่ 16,990 บาท เขาจึงอดทนรอ และกำเงินดังกล่าวไปซื้อเครื่องรุ่น Bundle ที่ร้านร้านหนึ่ง โดยราคาที่เขาซื้อมาก็อยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท โดยเขาได้ระบุว่าเขามีเงินส่วนต่างเหลือจากการซื้อจาก พวกพ่อค้ารีเซล ราว 5,000 บาท หรือมากกว่า ซึ่งเขาได้นำเงินนี้ไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมจำนวนมากรวมเป็นเงิน 4,190 บาท โดยเขาได้แจกแจงไว้ดังนี้
ผ้าคลุม PS5 = 100 บาท
DualSense Charging Station = 1,090 บาท
พัดลมระบายอากาศ = 370 บาท
จุกยางกันฝุ่น = 50 บาท
กล่องครอบเครื่องอะคลิลิคพร้อมฐาน PS5 = 1,790 บาท
กล่องครอบจอยอะคลิลิคพร้อมฐาน PS5 = 790 บาท
นอกจากนี้ผู้เล่นคนนี้ยังได้ระบุอีกว่ามีของเล่นอื่น ๆ อีกเยอะ เช่น กรอบคอนโซล , ขาตั้งเครื่องพร้อมที่ชาร์จ , แผ่นเกม , ซื้อจอยเพิ่ม , จุกซิลิโคนแต่งจอย , บัตรเติม PSN+ , SSD M.2 หรืออุปกรณ์แท้ศูนย์อีกมากมาย โดยเขาได้ย้ำในตอนท้ายว่า “อย่าไปสนับสนุนสินค้ารีเซล ขอให้รอ… รับรองได้เครื่องราคาศูนย์เหมือนผมแน่นอนครับ แล้วเอาส่วนต่างไปแต่งเครื่อง PS5 ที่เรารักดีกว่าครับ”
จริง ๆ แล้วปัญหาใหญ่ก็คือทาง Sony ไม่สามารถผลิตเครื่องเล่นเกมนี้ออกมาได้ทัน ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้แต่คาดหวังว่าปัญหาของขาดตลาดจะจบลงไว ๆ จะได้หมดปัญหาเรื่องพ่อค้ารีเซลเสียทีครับ