ผู้พัฒนา Ghost of Yōtei ยืนยันไม่สนใจว่าจะเล่นยังไง
ขอแค่ผู้เล่นรู้สึก 'สนุก' ก็พอ

กระแสของ Ghost of Yōtei ยังคงแรงต่อเนื่อง หลังวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน PS5 ไปเมื่อไม่นานนี้ โดยหนึ่งในสิ่งที่แฟน ๆ ต่างพูดถึงคือ “อิสระของการเล่น” ที่แทบไม่มีข้อจำกัด ซึ่งล่าสุด Jason Connell ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของทีมพัฒนาได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า เกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นเล่นในแบบของตัวเองอย่างแท้จริง — จะเลือกทำภารกิจหลัก สำรวจพื้นที่ หรือใช้เวลาชื่นชมธรรมชาติในโลกเปิดขนาดใหญ่ของฮอกไกโดจำลองก็แล้วแต่ใจ
อิสระคือหัวใจของ Ghost of Yōtei
Connell ให้สัมภาษณ์กับสื่อ GamesRadar ว่า จุดมุ่งหมายตั้งแต่ต้นของการพัฒนา Ghost of Yōtei คือการสร้างประสบการณ์ที่ให้ผู้เล่นควบคุมจังหวะการผจญภัยของตัวเองอย่างเต็มที่ “ถ้าผู้เล่นไม่อยากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเกม เราก็แค่บอกว่า ‘ไม่เป็นไร นั่นคือทางเลือกของคุณ’” เขากล่าว “ตราบใดที่คุณกำลังสนุกกับเกมอยู่ เราก็พอใจแล้ว”
แม้ว่าเกมจะเป็นโปรเจกต์ใหญ่ระดับ first-party title ที่ต้องใช้เวลาและแรงงานพัฒนาอย่างยาวนาน แต่ Connell ยืนยันว่า ทีมงานไม่ได้กังวลเลยว่าผู้เล่นบางคนอาจพลาดคอนเทนต์บางส่วน เพราะแนวคิดหลักของพวกเขาคือ “อิสระของผู้เล่นต้องมาก่อน”
“ปรัชญาของเราคือการให้คุณมีอิสระมากกว่าที่เกมไหน ๆ เคยให้มา” Connell กล่าวเสริม พร้อมระบุว่า โลกของ Ghost of Yōtei ถูกออกแบบมาให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งกิจกรรมข้างทาง เหตุการณ์สุ่ม และสิ่งน่าสนใจที่ดึงดูดให้ผู้เล่นออกสำรวจโดยไม่รู้สึกว่ากำลังถูกบังคับให้ทำภารกิจใดภารกิจหนึ่ง
นักวิจารณ์หลายรายยกย่องว่าการออกแบบโลกเปิดของ Ghost of Yōtei ทำได้ “มีชีวิต” และ “เป็นธรรมชาติ” มากกว่าเกมโอเพ่นเวิลด์ทั่วไปในยุคนี้ ที่มักเต็มไปด้วยภารกิจซ้ำ ๆ หรือแผนที่ที่แน่นไปด้วยไอคอนจนผู้เล่นรู้สึกเหนื่อยหน่าย การนำเสนอของ Yōtei กลับใช้วิธีชวนให้ผู้เล่น “อยาก” ไปสำรวจเอง ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศที่งดงาม การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือเสียงเล่าเรื่องจากตัวละครรอบข้าง
จากมุมมองของผู้เล่นและนักพัฒนา Ghost of Yōtei จึงถือเป็นตัวอย่างของเกมโอเพ่นเวิลด์ที่ให้ “อิสระอย่างมีความหมาย” มากกว่าการปล่อยให้เดินเล่นเฉย ๆ โดยระบบของเกมจะตอบสนองตามพฤติกรรมของผู้เล่นอย่างต่อเนื่อง เช่น การเลือกทางเดิน การจัดการกับศัตรู หรือแม้แต่การตัดสินใจช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีเส้นทาง “ถูกหรือผิด” ที่ชัดเจน
ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นหลายคนต่างเห็นตรงกันว่า จุดแข็งของเกมไม่ได้อยู่แค่กราฟิกหรือเนื้อเรื่อง แต่คือความรู้สึกของ “การเป็นเจ้าของประสบการณ์” ที่แต่ละคนไม่เหมือนกันเลย บางคนอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการล่าศัตรูในป่า ขณะที่บางคนเลือกใช้เวลาเก็บภาพวิวทิวทัศน์รอบภูเขาโยเทที่งดงาม
Ghost of Yōtei ได้ถูกประกาศเปิดตัวครั้งแรกในปี 2024 และการมาถึงของภาคต่อนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับแฟน ๆ ด้วยตัวละครใหม่ เรื่องราวที่น่าติดตาม และภูมิภาคใหม่ของญี่ปุ่นให้ได้สำรวจกันอย่างจุใจ โดยเรื่องราวจะดำเนินเรื่อง 300 ปีหลังจากเกม Ghost of Tsushima ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม เกมนี้เป็นประสบการณ์แบบสแตนด์อโลนที่ดำเนินเรื่องในชนบทของญี่ปุ่นในช่วงปี 1600 เนื้อเรื่องจะติดตามทหารรับจ้างผู้โดดเดี่ยวชื่อว่าอัตสึ อัตสึต้องการจะแก้แค้นและเธอก็ได้เดินทางผ่านทิวทัศน์ที่งดงามและยากลำบากของญี่ปุ่นตอนเหนือ ตามล่าผู้ที่สังหารครอบครัวของเธอเมื่อหลายปีก่อน