Final Fantasy VII Rebirth ภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake จาก Square Enix จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกที่กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยเกมดังกล่าวจะนำเสนอแผนที่โลกของเกมต้นฉบับแบบไร้รอยต่อ มีเนื้อหาให้เล่นมากกว่า 100 ชั่วโมง มินิเกมที่หลากหลาย และเนื้อหาเสริมมากมาย
อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาประสบการณ์การเล่นที่สมจริงเอาไว้ ทำให้ในช่วงเวลาสำคัญของเนื้อเรื่องบางครั้งผู้เล่นจะไม่สามารถใช้งาน Fast Travel ได้ รวมไปถึงจำกัดการสำรวจพื้นที่บางส่วนด้วย โดยข้อมูลนี้ได้มาจากการที่ Naoki Hamaguchi ผู้กำกับเกมได้พูดคุยกับ Automaton เกี่ยวกับการตัดสินใจนี้ โดยอธิบายว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรักษาความน่าตื่นเต้นของเนื้อเรื่องไว้
“เมื่อเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เราต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความเร่งด่วนและความไม่แน่นอนเช่นเดียวกับตัวละคร การปิดใช้งาน Fast Travel ชั่วคราวและการจำกัดการสำรวจจะช่วยให้เราสร้างประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น” Hamaguchi กล่าว “และเมื่อพ้นช่วงเวลาสำคัญของเนื้อเรื่องไปแล้ว ระบบ Fast Travel และการสำรวจโลกจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง”
Hamaguchi ยังกล่าวอีกว่าตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องเพิ่มเติมนอกเหนือจากเควสหลัก ซึ่งผู้เล่นสามารถสำรวจแผนที่โลกและรับเควสได้ โดยกลไกการสำรวจที่จำกัดนี้คล้ายกับที่ใช้ใน Final Fantasy VII Remake อย่างไรก็ตาม Hamaguchi กล่าวว่าเนื้อหาเสริมในภาค Rebirth จะมีปริมาณเป็นสองเท่าของเควสหลัก โดยจะมีพื้นที่ที่ไม่ปรากฏในเควสหลักด้วยเช่นกัน!
ในขณะเดียวกัน Final Fantasy VII Rebirth ประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 29 ก.พ. 2024 แถมเกมจะมีทั้งหมด 2 แผ่นบน PlayStation 5 ฉะนั้นหากใครพร้อมแล้วก็เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะการผจญภัยในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน!
ที่มา : gamingbolt
