ทีมสร้าง Final Fantasy VII Rebirth เตรียมทำโปรเจ็กต์ใหญ่หลังจบไตรภาครีเมค

การรีเมคเกม Final Fantasy VII ใหม่นั้นแน่นอนว่าไม่ใช่งานง่ายๆ เพราะทางผู้พัฒนาต้องยกระดับกราฟิกโพลิกอนธรรมดาให้กลายเป็นเกมแนวสวมบทบาทผสมผสานเกมเพลย์แอ็กชันรวดเร็วสเกลเท่ากับคนจริง ซึ่งส่งผลให้เกมต้องถูกแบ่งออกเป็นไตรภาคกันเลยทีเดียว และในภาค Rebirth นี้เราจะพบว่าคอนเทนต์นั้นอัดแน่นชนิดที่เล่นครั้งเดียวก็ไม่อาจเก็บได้ครบ ไม่ว่าจะมินิเกม ดันเจี้ยน หรือเควสต์ต่างๆ ก็ตาม

เมื่อเกมลำดับสองได้วางจำหน่ายเสร็จสิ้น ทางค่ายเกมเองก็ไม่รีรอปล่อยให้เวลาผ่านไปเพราะพวกเขาก็เริ่มดำเนินงานในส่วนภาคสามต่อแบบเต็มสูบโดยยืนยันว่าจะไม่มีคอนเทนต์เนื้อเรื่องและ DLC ให้กับภาคนี้อีก ซึ่งตอนนี้เอง เกมก็จัดทำเนื้อเรื่องจนเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนโปรดักชันแล้ว ทั้งนี้แม้ว่าจะต้องให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์เกมนี้เป็นอันดับหนึ่ง แต่พวกเขาเองก็ต้องเตรียมความพร้อมกับงานชิ้นต่อไปแล้วด้วยเหมือนกันครับ

ผู้กำกับเกมอย่างคุณ Naoki Hamaguchi ได้ให้สัมภาษณ์กับ Games Radar ว่าด้วยสถานการณ์การทำงานในปัจจุบันตอนนี้ว่าได้เริ่มงาน Final Fantasy ภาครีเมคกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว และพบว่าเป็นทีมงานที่เข้าขากันได้ดีมากๆ พร้อมยังสร้างประสบการณ์ไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นจึงคิดว่าหลังจากที่โปรเจ็กต์ไตรภาคเกมภาค VII จบลง 100% แล้วพวกเขาก็คงจะพร้อมทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม และถ้าเป็นทีมงานเดิมก็ยิ่งดีเข้าไปอีก

ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาไม่ได้ระบุว่าเป็นงานสำหรับเกมไหน แต่ก็แง้มว่าอาจจะได้เลื่อนขั้นไปทำเกม Final Fantasy ภาคหลักลำดับเลขถัดไป หรืออาจจะเป็นเกมอื่นที่อยู่นอกแฟรนไชส์ก็ได้ ซึ่งถ้าเกิดเป็นทีมงานชุดนี้พวกเราก็น่าจะมั่นใจเรื่องคุณภาพได้เลยเพราะทั้ง FF VII Remake มาจนถึง Rebirth ล้วนเป็นเกมยอดเยี่ยมทั้งคู่ สำหรับเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรก็มาพูดคุยกับพวกเราได้นะครับ

อีกด้านหนึ่ง Final Fantasy VII Rebirth เปิดขายแล้ววันนี้ โดยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Cloud และผองเพื่อนที่ต้องตามล่า Sephiroth นักดาบสุดอำมหิตที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว โดยเกมจะพาผู้เล่นเดินทางในแผนที่ที่มีสเกลยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมกับความมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคยด้วยขุมพลังของ PlayStation 5 นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว ผู้เล่นเองก็จะได้ดำดิ่งไปยังประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่างๆ เรียนรู้ความเป็นมาและร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ถาโถมเข้ามา