พาไปรู้จักกับระบบความสัมพันธ์ทั้ง 3 แบบใน Sword of Justice

ในโลกของ Sword of Justice ไม่ได้มีเพียงการต่อสู้และผจญภัยเท่านั้นที่รอผู้เล่นอยู่ แต่ “สายสัมพันธ์” ระหว่างผู้เล่นด้วยกันก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้โลกแห่งนี้มีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง ล่าสุด ตัวเกมได้เปิดเผยรายละเอียดของ ระบบความสัมพันธ์ ทั้ง 3 แบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสมิติใหม่ของการร่วมเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นความผูกพันระหว่างศิษย์และอาจารย์ มิตรภาพระหว่างพี่น้องนักผจญภัย หรือสายสัมพันธ์แห่งความรักที่อบอุ่นและงดงาม

1. ระบบศิษย์-อาจารย์ (Mentorship System)

ใน Sword of Justice ผู้เล่นที่มีเลเวลถึง 25 ขึ้นไปจะสามารถ “ขอฝากตัวเป็นศิษย์” เพื่อเรียนรู้จากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ได้ ส่วนผู้เล่นที่มีเลเวลตั้งแต่ 69 ขึ้นไปจะสามารถรับบทเป็น “อาจารย์” เพื่อชี้แนะผู้เล่นรุ่นใหม่และช่วยให้พวกเขาเติบโตในเส้นทางแห่งนักผจญภัย

หลังจากที่ศิษย์ทำภารกิจ Trial Quest สำเร็จ ทั้งสองจะสามารถไปยังจุด Peach and Plum Corner เพื่อจัดพิธี “Mentorship Ceremony” และกลายเป็นคู่ศิษย์-อาจารย์อย่างเป็นทางการ จากนั้นสามารถทำภารกิจประจำสัปดาห์ร่วมกันเพื่อรับ “Bond Points” และ “Freedom Points” ซึ่งสามารถนำไปแลกของรางวัลสุดพิเศษในร้านค้า Mentorship Specialty Shop ไม่ว่าจะเป็น [Omen: Wayfarer], เครื่องประดับ, คำเรียกขานพิเศษ, กรอบอวาตาร์ และของสะสมอื่น ๆ มากมาย

นอกจากจะเป็นระบบที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของผู้เล่นหน้าใหม่แล้ว ระบบศิษย์-อาจารย์ยังสร้างบรรยากาศของความอบอุ่นในชุมชนผู้เล่น ช่วยให้การเรียนรู้กลไกของเกมเป็นเรื่องสนุกและมีแรงจูงใจมากขึ้น

2. ระบบพี่น้องร่วมสาบาน (Kinship System)

สำหรับผู้ที่โหยหามิตรภาพแน่นแฟ้นในสนามรบ Kinship System จะมอบโอกาสให้ผู้เล่นได้ “ประกอบพิธี Kinship” เพื่อสร้างสายสัมพันธ์แห่งพี่น้องกับเพื่อนร่วมทีม

ผู้เล่นสามารถเลือก “เริ่มต้นพิธี Kinship” หรือ “เข้าร่วมคำเชิญจากผู้อื่น” ได้ตามต้องการ เมื่อจัดตั้งทีมขนาด 3–10 คนแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยัง Murong Zi ที่วัด Jingbian Temple ในพื้นที่ Yanmen Pass เพื่อทำพิธี Kinship อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะผูกพันสมาชิกทุกคนในทีมให้กลายเป็น “พี่น้องร่วมรบ”

หลังจากสร้าง Kinship แล้ว สมาชิกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทีมต่าง ๆ เพื่อสะสม “Kinship Points” ได้สูงสุดถึง 2,000 แต้มต่อสัปดาห์ โดยค่าความสัมพันธ์นี้สามารถตรวจสอบได้จากแถบแสดงความคืบหน้า เมื่อค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น Kinship ของทีมจะเลื่อนระดับ ทำให้ปลดล็อคคำเรียกขานใหม่ (Title), ป้ายสัญลักษณ์ (Encounter Badge) ที่มีรูปลักษณ์สวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิ์ในการแลกของรางวัลพิเศษในร้านค้า

หากบรรลุระดับ Kinship ตามที่กำหนดและใช้ Freedom Points ผู้เล่นจะสามารถแลกไอเทมสุดพิเศษจาก Kinship Shop ได้ เช่น กรอบอวาตาร์ (Avatar Frames), สติกเกอร์, ท่าทาง (Actions), กล่องข้อความ (Text Boxes) และของตกแต่งอื่น ๆ เพื่อแสดงถึงความผูกพันระหว่างพี่น้องนักผจญภัย

3. ระบบความรัก (Love System)

นอกจากมิตรภาพและความเป็นพี่น้องแล้ว Sword of Justice ยังมีระบบ “ความรัก” สำหรับผู้ที่ต้องการเติมสีสันแห่งความโรแมนติกให้กับการผจญภัย แม้ระบบนี้จะไม่ได้ส่งผลต่อกลไกการเล่นมากนัก แต่กลับโดดเด่นด้วยอนิเมชั่นคู่สุดน่ารักและกิจกรรมสุดพิเศษที่ถ่ายทอดบรรยากาศของความรักได้อย่างอบอุ่น

ในโหมด “Admire the Mortal World – Bianjing Fan Pavilion” ผู้เล่นสามารถปีนขึ้นไปถึงยอดพาวิลเลียนผ่านกิจกรรม “Xiao Nuan Q&A” และสำหรับตัวละครต่างเพศยังสามารถจัดพิธีแต่งงานเพื่อรับชุดและทรงผมเฉพาะตัวได้อีกด้วย ส่วนตัวละครเพศเดียวกันจะไม่สามารถจัดพิธีแต่งงานได้ แต่ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ และรับรางวัลทั้งหมดที่ไม่เกี่ยวกับพิธีแต่งงานได้เช่นกัน

พิธีแต่งงานในเกมจะมีอนิเมชั่นให้เลือกชม 2 แบบ โดยขบวนแห่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน ผู้พัฒนาจึงแนะนำให้ข้ามไปชมช่วง “พิธีแต่งงานหลัก” เพื่อรับชมฉากสำคัญแบบเต็มอิ่ม พิธีแต่งงานมีค่าใช้จ่าย 999 Ornate Jade ซึ่งรวมชุดแต่งงานสุดหรูไว้เรียบร้อย

แม้ระบบ Love จะไม่ได้มอบพลังต่อสู้หรือไอเทมพิเศษเหนือระดับ แต่ก็เป็นฟีเจอร์ที่เติมเต็มประสบการณ์เกมในมิติทางอารมณ์ ให้ผู้เล่นได้สร้างความทรงจำร่วมกับคนสำคัญในโลกแห่ง Sword of Justice

---

Sword of Justice คือผลงานเกม MMORPG ฟอร์มยักษ์จากค่าย NetEase ที่ดัดแปลงจากนิยายกำลังภายในชื่อดัง “สี่ยอดมือปราบ” ของนักเขียนชื่อดัง “เวินรุ่ยอัน” หนึ่งในสี่ปรมาจารย์วรรณกรรมกำลังภายในจีน เกมนี้นำเสนอโลกยุทธภพที่ผสมผสานความงดงามแบบตะวันออกเข้ากับเทคโนโลยีกราฟิกสมัยใหม่อย่างลงตัว จนเกิดเป็นโลกเปิดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รายละเอียดของฉาก สิ่งแวดล้อม และตัวละครถูกออกแบบอย่างประณีต เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกในนิยายจริง ๆ

ตัวเกมมอบอิสระสูงในการเล่น ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสายต่อสู้ สายสำรวจ หรือสายชิลที่ชอบทำกิจกรรมในเมือง ทุกคนสามารถสร้างเส้นทางของตนเองได้ โดยไม่มีข้อจำกัดของสายอาชีพ และไม่ต้องพึ่งพาการเติมเงิน ตัวเกมยังมีระบบ “หลายเส้นทางสู่จุดหมายเดียวกัน” ที่ให้ผู้เล่นพัฒนาได้อย่างเท่าเทียมตามสไตล์การเล่นของตนเอง