Never Grave: The Witch and The Curse สวมบทแม่มดตะลุยเกม 2D Roguelike Action
พร้อมลงคอนโซลและพีซี 5 มีนาคมปีหน้า

ค่าย Pocketpair Publishing และทีมพัฒนา Frontside 180 ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Never Grave: The Witch and The Curse เกมแนว 2D Roguelike Action ผสม Metroidvania ที่ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยในโลกเวทมนตร์พร้อมหมวกต้องสาปสุดลึกลับ เตรียมเปิดให้เล่นทั่วโลกในวันที่ 5 มีนาคม 2026 บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Xbox Series, PlayStation 4, Nintendo Switch และ PC (ผ่าน Steam)
เกี่ยวกับเกม Never Grave: The Witch and The Curse
ข้อมูลทั่วไป
Never Grave: The Witch and The Curse คือเกมแนว Metroidvania ผสม Roguelite ที่มุ่งเน้นความท้าทาย การเรียนรู้ และการเติบโตของผู้เล่นในแต่ละรอบการเล่น ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นแม่มดผู้ถูกสาป พร้อมหมวกเวทมนตร์ที่สามารถ “สิงศัตรู” เพื่อใช้พลังของพวกมันได้ เกมเน้นการผจญภัยในดันเจียนที่สร้างขึ้นแบบสุ่ม (Procedurally Generated) ทำให้ทุกครั้งที่เล่นจะได้สัมผัสเส้นทางใหม่ ศัตรูใหม่ และความท้าทายใหม่เสมอ
ตัวเกมยังผสมผสานความรู้สึก “ตึงเครียดในการสำรวจดันเจี้ยน” เข้ากับ “ความสงบของการพัฒนาและสร้างหมู่บ้าน” ผู้เล่นสามารถเก็บทรัพยากรจากการต่อสู้กลับมาสร้างสิ่งปลูกสร้าง ผลิตอาหาร และสร้างไอเทมเตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งต่อไปได้
ที่โดดเด่นคือการออกแบบตัวละครและแอนิเมชั่นสไตล์ญี่ปุ่นแบบ “วาดมือ” ที่ให้อารมณ์เหมือนหลุดเข้าไปในหนังสือภาพหรือภาพตัดกระดาษ พร้อมบรรยากาศแฟนตาซีที่ทั้งลึกลับและอบอุ่นไปพร้อมกัน
ฟีเจอร์หลัก
แอ็กชั่น 2D ผสม Metroidvania x Roguelite : ต่อสู้ด้วยเวทมนตร์ ศึกษาท่าศัตรู และใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ในสนามรบ ดันเจี้ยนแต่ละแห่งถูกสร้างใหม่ทุกครั้งที่เล่น ทั้งซากปรักหักพังและสวนพฤกษาที่เต็มไปด้วยกับดักและปริศนา
ระบบ Possession – หมวกต้องสาปที่สิงศัตรูได้ : ใช้พลังจากหมวกเวทมนตร์ในการยึดร่างศัตรู และนำความสามารถเฉพาะของพวกมันมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ การสำรวจเส้นทางลับ หรือการแก้ปริศนา
สร้างและฟื้นฟูหมู่บ้าน : วัตถุดิบที่เก็บได้จากการสำรวจสามารถนำมาสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ในหมู่บ้าน ฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกทำลาย และปลูกพืชหรือปรุงยาสำหรับใช้ในดันเจียนครั้งต่อไป
ระบบต่อสู้เชิงกลยุทธ์และท้าทายบอสสุดโหด : ศัตรูและบอสแต่ละตัวมาพร้อมรูปแบบการโจมตีเฉพาะตัว ต้องใช้ทั้งฝีมือและการวางแผน ไม่สามารถชนะได้ด้วยการท่องจำแพทเทิร์นเพียงอย่างเดียว
สำรวจโลกที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกครั้งที่เล่น : ดันเจี้ยนถูกสร้างแบบสุ่ม ทำให้แต่ละรอบเต็มไปด้วยความแปลกใหม่และคาดเดาไม่ได้
เล่นร่วมกับเพื่อนได้สูงสุด 4 คน : เกมรองรับโหมดออนไลน์ ให้ผู้เล่นชวนเพื่อนมาผจญภัยร่วมกันในดันเจี้ยน สร้างความสนุกวุ่นวายและความท้าทายที่ต่างจากการเล่นคนเดียว
งานภาพสไตล์อนิเมชั่นวาดมือ : ตัวละครและฉากถูกออกแบบด้วยเทคนิค “Limited Animation” แบบญี่ปุ่น และระบายสีหนาแน่นสไตล์ภาพในหนังสือนิทาน สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร






ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวเกมพีซีและคอนโซลทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<







