หายห่วง! Cyberpunk 2077 จะไม่เป็นเกม Exclusive ของร้านค้าใดๆ
สามารถซื้อได้หมด ทั้งบน Epic Games Store, Steam และ GOG
ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทีมผู้พัฒนาอย่าง CD Projekt Red ได้มีการประกาศว่าจะทำการนำ Cyberpunk 2077 มาจัดจำหน่ายบนแพลทฟอร์มหลายๆ เจ้า ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตัวเกมจะไม่เป็น Exclusive ให้กับร้านค้าอย่าง Epic Games Store เพียงผู้เดียว และล่าสุดทีมผู้พัฒนาก็ได้ออกมาเผยเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจไม่ให้ตัวเกมเป็น Exclusive บนร้านค้าเกม ร้านค้าใดร้านค้าหนึ่ง ตามที่เว็บไซต์ venturebeat.com ได้รายงานเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
การกระทำที่สวนกระแสของ CD Projekt Red
จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยมาขณะนี้ เมื่อถึงวันจัดจำหน่าย Cyberpunk 2077 ในวันที่ 16 เมษายน ปี 2020 บนแพลทฟอร์ม PC และ Console ซึ่งในกรณีของ PC ทางทีมผู้พัฒนาจะมอบตัวเลือกให้กับผู้ซื้ออย่างอิสระ เพราะตัวเกมจะจำหน่ายทั้งบน Steam, Epic Games Store และ GOG ซึ่งการกระทำแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติในแวดวงเกม PC อยู่พอสมควร เนื่องจากตัวของ Epic Games ที่ครอบครองเกมสุดฮิตอย่าง Fortnite ได้ทำการยึดสิทธิในการขายเกมระดับ AAA อยู่หลายเกมด้วยจำนวนเงินมหาศาลทำให้สาวกชาว Steam ต้องอดไปตามๆ กัน ( เช่น Metro Exodus, Detroit Become Human ) และแม้กระทั่ง Ubisoft ที่มี Store เป็นของตัวเองก็ยังมีการมาดีลกับทาง Epic ทำให้เกมของทาง Ubisoft อย่าง Tom Clancy’s The Division 2 วางขายบน Uplay และ Epic Games Store แต่ไม่มีบน Steam
สาเหตุสำคัญในการตัดสินใจของ CDPR
หนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทาง CDPR เลือกที่จะเดินเส้นทางที่แตกต่างกับบริษัทอื่นๆ ก็เป็นผลมาจากเกม Thronebreaker หรือเกม Spin-off ของซีรี่ส์ The Witcher นั่นเอง โดยคุณ Marcin Traczyk ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารทั่วโลกของ GOG ได้ให้คำสัมภาษณ์กับทาง PCGamesN ถึงเหตุผลว่า “ ตัวเกม Thronebreaker ตอนแรกเราเปิดตัวในฐานะเกม Exclusive และก็ได้ตัดสินใจขยายฐานผู้เล่นให้กว้างขึ้นในภายหลัง “ และ Traczyk ยังอธิบายต่อว่า “ การเป็น Exclusive คงไม่ใช่คำตอบสำหรับพวกเรา เพราะพวกเราไม่อยากจำกัดจำนวนผู้เล่นที่จะเข้าถึงตัวเกม “ ซึ่งตัวของ Thronebreaker ในช่วงเปิดตัวเดือนตุลาคม ก็เคยเป็น Exclusive บน GOG ( Store ของ CDPR ) แต่ด้วยยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าทำให้สุดท้ายก็ต้องนำมาลงบน Steam เพื่อขยายฐานผู้เล่น
คุณ Adam Kiciński ซีอีโอของ CDPR ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ การที่นำเกมขึ้นร้านค้า GOG ก็มีเห็นผลที่ตรงไปตรงมา ( ก็เป็นของค่ายนั่นเอง ) แต่อย่างไรก็ตามคนที่เข้าถึง GOG ก็น้อยกว่าบน Steam แถมฐานแฟนๆ ของ The Witcher บน Steam ก็มีจำนวนมากอีกด้วย เลยเป็นผลทำให้นำเกมเข้ามาขายบน Steam “ และจนถึงตอนนี้หนึ่งในสามของจำนวนการสั่งซื้อล่วงหน้าแบบดิจิตอล ของ CDPR ก็มาจาก GOG ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่ายไม่ต้องเสียค่าเปอร์เซ็นต์ใดๆ จากแพลทฟอร์มอื่นๆ เลย
แม้ Cyberpunk ไม่ใช่ Exclusive แต่ GOG ก็ยังคงเดินหน้าต่อ
GOG เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ในฐานะแพลทฟอร์มที่จัดจำหน่ายเกมของตัวเองรวมไปถึงเกม DRM free บน PC อีกหลายเกม ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะขึ้นเทียบชั้นกับ Steam อย่างจริงจัง และ GOG ก็ไม่ได้วางแผนที่จะนำโมเดลธุรกิจของ Epic มาทำให้เกมของค่ายตัวเองเป็น Exclusive เช่นกัน
โดย Traczyk ได้ให้สัมภาษณ์กับ PCGamesN ต่อว่า “ พวกเราพร้อมแข่งขันเสมอ และทางเราก็เตรียมแผนการทำให้ Store ของเราเป็น Go-to- market ( เป็นที่ๆ คนจะมาซื้อเกมเป็นที่แรก ) แต่ในเวลาเดียวกันเราก็จะมอบทางเลือกให้กับผู้ซื้ออีกด้วย “ ซึ่ง ณ เวลานี้ทาง CDPR ยังไม่มีแผนการที่จะแข่งขันกับ Steam และ Epic ผ่านเกมของค่ายตนเอง แต่ทางค่ายได้ให้ความสำคัญในการขายเกมคลาสสิค และเกม DRM-free เป็นหัวใจสำคัญนั่นเอง