สกู๊ปพิเศษเกมเกมมือถือ

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix “ร่วง” มากกว่า “รุ่ง”

เกม PC / Console ก็พอมีของ แต่พอเป็นเกมมือถือทีไรไปไม่รอดทุกที

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน หลายคนคงจะรู้จักกับค่ายเกมระดับโลกอย่าง Square Enix กันใช่ไหมครับ ซึ่งพี่เหลี่ยมของเรานั้นก็มีเกมยักษ์ใหญ่ดัง ๆ อยู่หลายซีรีส์เลย ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy, Nier, Kingdom Heart, Dragon Quest และอื่น ๆ ที่เกิดจากค่ายนี้และมีอายุยืนยาว ขายยังไงก็ออกเพราะมีแฟนเกมทั่วโลก แต่นั่นคือเกม PC หรือ Console เท่านั้นครับ แต่พอมาเป็นเกมมือถือกลับมีหลายเกมเลยที่พี่แกทำแล้วต้องปิดตัวลงหลายเกมเพราะไม่ได้รับกระแสตอบรับเท่าที่ควร มันเป็นเพราะอะไรกัน เราจะไปดูกันทีละข้อครับ

1. เกมปิดตัวเร็วจนผู้เล่นไม่กล้าเสี่ยง

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ก็คือ “ขาดความต่อเนื่องในการซัพพอร์ต” แม้จะเปิดตัวด้วยความหวังสูง แต่เมื่อกระแสเริ่มซาลง หลายเกมกลับไม่ได้รับการอัปเดตหรือปรับปรุงต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น จนทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่า “เกมนี้ไม่มั่นคง” และไม่กล้าลงทุนระยะยาว ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Final Fantasy VII: The First Soldier เกมแนว Battle Royale ในจักรวาล FF7 ที่เปิดให้บริการในปี 2021 ด้วยกระแสตอบรับที่ดีในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นเนื้อหาใหม่กลับถูกปล่อยช้า ระบบไม่สมดุล และไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องการจับคู่อย่างจริงจัง ส่งผลให้จำนวนผู้เล่นลดลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายต้องปิดตัวในเวลาไม่ถึงปีครับ

2. ระบบกาชาที่ไม่เป็นมิตร

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


เกมมือถือของ Square Enix หลายเกมมักมีระบบกาชาที่ “ไม่เป็นมิตร” กับผู้เล่นสายฟรีหรือแม้แต่สายเติมเบา ๆ เรทการออกตัวละคร SSR หรือตัวละครระดับสูงมักต่ำจนน่าหงุดหงิด บางเกมไม่มีระบบสะสมแต้มเพื่อการันตี ทำให้ผู้เล่นหมดเงินจำนวนมากโดยไม่การันตีอะไรเลย เช่น SINoALICE หรือ Brave Exvius: War of the Visions ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “กาชาดุ” จนผู้เล่นหลายคนเลิกเล่นกลางทาง เพราะรู้สึกว่าเกมไม่แฟร์และเอาเปรียบเกินไปครับ

3. เกมดี แต่ขาดการตลาด

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


Square Enix มีเกมมือถือที่คุณภาพดีหลายเกม ทั้งด้านกราฟิก เนื้อเรื่อง และระบบการเล่น แต่กลับ “ขาดการตลาด” ที่ชัดเจน ทำให้เกมดี ๆ ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เช่น Voice of Cards ที่มีคอนเซปต์น่าสนใจมาก หรือ Takt Op. Symphony ที่งานภาพและเสียงระดับอนิเมะ แต่กลับเปิดตัวแบบเงียบ ๆ แทบไม่มีแคมเปญโปรโมตในตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้คนเล่นไม่รู้ว่าเกมมีจุดเด่นอะไร หรือบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกมเปิดแล้ว ความน่าเสียดายคือ เกมที่น่าจะเติบโตได้ดี กลับต้องจบลงเพราะ “ไม่มีคนเล่นมากพอ” ไม่ใช่เพราะคุณภาพของตัวเกมเลย

4. จำเจและขาดความแปลกใหม่

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


แม้ Square Enix จะมีทรัพยากรและแฟรนไชส์ระดับตำนานอยู่ในมือ แต่หลายเกมมือถือกลับใช้สูตรเดิมซ้ำไปซ้ำมา ทั้งระบบกาชา การต่อสู้แบบออโต้ และ UI ที่แทบไม่ต่างกันเลยจากเกมก่อนหน้า เช่น Final Fantasy Brave Exvius กับ War of the Visions ทั้ง 2 เกมนี้แม้จะมีความแตกต่างกันในระบบต่อสู้ แต่โดยรวมยังใช้โครงสร้างและโมเดลการให้บริการที่ใกล้เคียงกัน จนหลายคนรู้สึกซ้ำซาก หรือแม้แต่เกมใหม่บางเกม ก็ยังยึดแนวทางเดิมที่ไม่มีนวัตกรรมอะไรใหม่ให้ตื่นเต้น ผู้เล่นหลายคนจึงรู้สึกว่า “เปลี่ยนแค่เกม แต่แก่นเหมือนเดิม” ทำให้เบื่อเร็วและไม่รู้สึกผูกพันกับเกม ยิ่งในยุคที่ตลาดเกมมือถือมีคู่แข่งมากมาย การไม่กล้าเสี่ยงสร้างอะไรใหม่ ๆ ก็เท่ากับเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัวครับ

5. พึ่งพาชื่อของซีรีส์ใหญ่เกินไป

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


Square Enix มักเลือกใช้ชื่อแฟรนไชส์ดังอย่าง Final Fantasy, Dragon Quest หรือ NieR มาเป็นจุดขายหลักของเกมมือถือหลายเกม แม้จะช่วยเรียกกระแสได้ในช่วงแรก แต่การพึ่งพาชื่อแบรนด์มากเกินไปโดยไม่มีไอเดียใหม่ ๆ รองรับ กลับกลายเป็นดาบสองคม เพราะเมื่อเข้าไปเล่นจริงแล้วเกมไม่สนุก หรือคุณภาพไม่สมกับชื่อที่แบกไว้ ผู้เล่นจะรู้สึกผิดหวังมากกว่าปกติ เช่น NieR Re[in]carnation ที่มีภาพสวย เพลงดี แต่มุมเกมเพลย์กลับซ้ำซาก และหลายคนมองว่า “ไม่ใช่ NieR อย่างที่คาดหวัง” การยืนด้วยชื่อซีรีส์อย่างเดียวจึงไม่พออีกต่อไป ถ้าภายในเกมไม่มีเสน่ห์เฉพาะตัวพอที่จะตรึงผู้เล่นให้อยู่ได้ยาว ๆ ครับ

6. การแปลภาษาและ UX/UI ไม่ได้มาตรฐาน

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix ขาดความน่าสนใจ หลายเกมมักเจอปัญหาการแปลที่อ่านแล้วงง หรือใช้คำผิด ทำให้ผู้เล่นเสียอรรถรสและสับสน เช่น Final Fantasy XV: A New Empire ที่เคยโดนวิจารณ์เรื่องคำแปลแปลก ๆ หรือประโยคไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ UX/UI ที่ซับซ้อน ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่ ก็ทำให้หลายคนเลิกเล่นตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เพราะระบบเมนูเยอะเกินไป การวางปุ่มไม่เหมาะสม และฟีเจอร์มากเกินจำเป็น ยิ่งเกมมือถือยุคนี้เน้นความรวดเร็วและเข้าใจง่าย การออกแบบ UX/UI ที่ไม่ดีถือเป็นข้อเสียใหญ่ที่กระทบทั้งภาพลักษณ์และยอดผู้เล่น

7. ขาดการฟังเสียงผู้เล่น

7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix "ร่วง" มากกว่า "รุ่ง"


หนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix ไปไม่รอดคือไม่ฟังเสียงผู้เล่นครับ หรือฟังแล้วก็ปรับช้าเกินไป จนเสียผู้เล่นไปก่อน เช่นในเกม Echoes of Mana ที่ตอนเปิดตัวมีเสียงชมเรื่องภาพและเพลง แต่กลับโดนวิจารณ์หนักเรื่องระบบซ้ำซากและรางวัลน้อยมาก แม้ผู้เล่นจะเสนอให้ปรับปรุง แต่ทีมงานใช้เวลานานกว่าจะตอบสนอง และบางประเด็นก็ไม่เคยแก้เลยจนเกมปิดตัว ผู้เล่นยุคนี้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมมากขึ้น การไม่รับฟังจึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ความไว้ใจลดลง และเลือกจะไปอยู่กับเกมที่ให้ความสำคัญกับเสียงของพวกเขามากกว่า

และนี่คือ 7 เหตุผลที่ทำให้เกมมือถือของ Square Enix “ร่วง” มากกว่า “รุ่ง” เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องนี้ เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยประการใด ก็สามารถคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นและพูดคุยกันได้นะครับ แต่เกมมือถือของ Square Enix นี่ก็เปิดหลายเกมและปิดตัวไปหลายเกมจริง ๆ นั่นแหละนะ ทั้งที่ใจเราเองก็อยากเล่นเกมมือถือของค่ายนี้มากกว่านี้แท้ ๆ

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button