[พรีวิว] Wildfrost (Demo) ผจญภัยแดนหิมะ

หากคุณเป็นคนที่ชอบเกมแนว Turn-based ผสมผสานกับความเป็น Rogue Like แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ Wildfrost จากทีมผู้พัฒนา Deadpan Games ร่วมมือกันกับ Gaziter และจัดจำหน่ายโดย Chucklefish ซึ่งในเดือนธันวาคมนี้ได้เปิด Demo ให้ผู้เล่นเข้าไปร่วมทดสอบ และเนื่องจากเกมนี้มีธีมโลกยุคน้ำแข็ง ผจญภัยในแดนหิมะ พร้อมกับตัวละครที่น่ารักคาวาอี้ นอกจากนั้นตัวเกมยังมีความเข้าใจง่าย เล่นสนุก กระตุ้นให้อยากเล่นใหม่ได้เรื่อย ๆ บอกเลยว่าคุณไม่ควรพลาดเกมนี้ครับ

ภาพรวมของเกม Wildfrost

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นนะครับว่าเกมนี้จัดว่าเป็นแนว Turn-based ผสมผสานกับความเป็น Rogue Like โดยตัวเกมจะใช้การ์ดเป็นสื่อการเล่นแทนตัวละครหลัก มอนสเตอร์ บอสและสกิลต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้คุณมองว่านั่นคือเกมการ์ดก็ได้ เกมเพลย์จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายระหว่างทีมเรากับทีมศัตรู ต่อสู้กันโดยผลัดกันโจมตีเป็นเทิร์น ๆ ผสมกับการเล่นการ์ดบนมือของเราเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของตัวละครที่เราเลือกเล่น เมื่อเอาชนะบอสประจำด่านได้แล้วตัวเกมจะตัดเข้าสู่ฉากแผนที่ ซึ่งจะมีทางแยกให้คุณเลือกเดินว่าจะก้าวไปทางไหน แต่ละทางก็จะมีสิ่งต่าง ๆ รอคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกล่องไอเทม ตัวละครใหม่ ร้านค้า กาชาเครื่องประดับ และอื่น ๆ อีกมาก จัดทีมและเลือกสกิลให้เหมาะสมที่สุดแล้วลุยไปให้ถึงบอสตัวสุดท้ายครับ

กฎและกติกาของเกม

เมื่อกี้สู่ Battle เราจะถูกสั่งให้ลงตัวละครหลักของเราในช่องว่างบนสนามฝั่งเราที่มีอยู่ 6 ช่อง แต่ตัวละครที่ลงก่อนจะต้องยืนอยู่แถวหน้าเสมอ จนกว่าจะมีตัวละครตัวใหม่มายืนต่อด้านหลังหรือมีการสลับตำแหน่งเกิดขึ้น จากนั้นจะทำการจั่วการ์ดขึ้นมาจนเต็มมือและเล่นเกม ทุกครั้งที่เราใช้การ์ด 1 ใบ จะถือว่าเวลาจะผ่านไป 1 เทิร์นเสมอ (ยกเว้นการ์ดพิเศษบางใบที่ไม่นับเทิร์น) ดังนั้นจะใช้การ์ดไหนในเทิร์นนี้คำนวณให้ดี เพราะการ์ดประเภทตัวละครจะมีการนับถอยหลังเพื่อโจมตีอยู่เสมอ ถ้าตัวละครบนสนามผ่านเทิร์นไปจนครบกำหนด มันก็จะโจมตีศัตรูที่อยู่หน้าสุดในแถวนั้น ๆ ตามค่าพลังโจมตีของมัน และเกมจะจบก็ต่อเมื่อบอสของศัตรูถูกกำจัด หรือตัวละครหลักของเราตาย เพราะฉะนั้นเราจะต้องสนับสนุนตัวละครด้วยการ์ดบนมือ หรือทำการสับเปลี่ยนตำแหน่งอยู่เรื่อย ๆ ควบคู่ไปกับการคำนวณเทิร์นนั่นเองครับ

ประเภทของการ์ดแต่ละชนิด

ในเกมนี้จะแบ่งการ์ดออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้เพียง 3 ชนิดเท่านั้น ได้แก่ การ์ดตัวละคร การ์ดใช้งาน และการ์ดโทเทม ซึ่งจะขอแยกอธิบายแต่ละชนิดเพื่อความเข้าใจง่าย ดังนี้ครับ

การ์ดตัวละคร

การ์ดตัวละครนั้นอาจเป็นได้ทั้งตัวละครหลัก ตัวละครรอง สัตว์เลี้ยง ศัตรูหรือแม้แต่บอส จะใช้วิธีอ่านการ์ดและการคำนวณเหมือนกันหมด ซึ่งในการ์ดตัวละคร 1 ใบ จะประกอบไปด้วย

1. ค่า Health หรือ HP ถ้าหากกลายเป็น 0 ก็จะถือว่าตายและถูกกำจัดไป
2. ค่า Attack คือปริมาณดาเมจที่ตัวละครตัวนี้จะโจมตีศัตรูเมื่อถึงรอบของตัวเอง
3. ค่า Counter คือจำนวนรอบเทิร์นที่เหลืออยู่ก่อนตัวละครตัวนี้จะทำการโจมตี (เช่น ถ้ามี 4 ต้องผ่านไป 4 เทิร์นถึงโจมตี 1 ครั้ง)
4. คำอธิบายสกิลและความสามารถของตัวละครตัวนี้
5. สัญลักษณ์พิเศษเกี่ยวกับ Buff หรือ Debuff

การ์ดใช้งาน

การ์ดประเภทใช้งานจะเป็นการ์ดที่ใช้แล้วทิ้งจากบนมือ เวลาใช้ให้ลากการ์ดใบนั้นไปยังเป้าหมายที่ต้องการ อาจเป็นศัตรูหรือฝ่ายเราเองก็ได้ เมื่อเราใช้เสร็จการ์ดใบนั้นจะแสดงผลและทิ้งลงกองการ์ดที่ใช้แล้ว และถ้าการ์ดบนมือหมดเราสามารถสั่นระฆังเพื่อจั่วใหม่ได้เรื่อย ๆ แบบไม่เสียเทิร์น แต่ถ้าการ์ดบนมือยังไม่หมดแล้วขอจั่วใหม่ กรณีนี้จะเสียเทิร์นครับ ดังนั้นทางที่ดีควรใช้การ์ดบนมือให้หมดก่อนจั่วใหม่จะดีกว่า โดยการ์ดใช้งานจะไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่อ่านคำอธิบายสกิลแต่ละใบแล้วเลือกเล่นตามนั้น ส่วนบางใบที่มีค่าโจมตีขึ้นแสดงว่าทำดาเมจกับศัตรูได้ครับ

การ์ดโทเทม

การ์ดโทเทมจะมีลักษณะพิเศษคือทำหน้าที่คล้ายกับตัวละครคือสามารถลงสนามไปอยู่ใน 6 ช่องได้ สับเปลี่ยนตำแหน่งได้ และเสีย 1 เทิร์นเป็นค่าเรียก แต่จะมีความคล้ายกับการ์ดใช้งานคือถ้าพังแล้วก็เรียกใหม่ได้ถ้าการ์ดขึ้นมืออีกครั้ง ไม่เหมือนตัวละครที่ตายแล้วตายเลยไม่มีสิทธิ์ชุบ โดยจุดประสงค์ของโทเทมก็มีหลายรูปแบบ เช่น สนับสนุนการโจมตี ช่วยบล็อกดาเมจให้ตัวละครหลัก แจกสถานะผิดปกติให้ศัตรู ฮีลเพื่อนร่วมทีม และอื่น ๆ อีกมากมายตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ข้อเสียคือโทเทมจะต้องวางอยู่บนสนามเท่านั้นถึงแสดงผล นั่นหมายความว่าศัตรูก็มีโอกาสทำลายโทเทมได้เหมือนกัน ถ้าใครเล่นสายโทเทมก็ต้องระวังการโจมตีของศัตรูให้ดีครับ

จบ Battle แล้วเข้าสู่ World Map

ในเกมนี้หลังจากจบการต่อสู้ ตัวเกมจะตัดเข้าสู่ฉาก World Map ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแผนที่บอกทางให้เราเลือกว่าจะไปเส้นทางไหน บนหรือล่าง ซ้ายหรือขวา ซึ่งแต่ละทางเราจะเห็นว่ามีสัญลักษณ์ต่าง ๆ มากมายให้เราพบเจอ ซึ่งจะส่งผลต่อการเล่นของเราครับ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

กล่องไอเทม – สุ่มการ์ดใช้งานใบใหม่ เลือกเก็บการ์ดได้ 1 ใบ จากทั้งหมด 3 ใบ

คริสตัลน้ำแข็ง – สุ่มการ์ดตัวละครใหม่ เลือกเก็บการ์ดตัวละครได้ 1 ใบ จากทั้งหมด 3 ใบ

เหมือง – ได้รับเงินจำนวนหนึ่ง

ร้านขายของ – สามารถนำเงินที่ได้จากเหมืองหรือการต่อสู้ มาซื้อของได้ตามราคาที่กำหนด

กาชาเครื่องประดับ – สุ่มรับเครื่องประดับ 1 ชิ้น เอาไว้ใส่กับการ์ดตัวละคร

Monchi – เลือกทำลายการ์ดที่มีอยู่ได้ 2 ใบ (กรณีการ์ดไม่จำเป็นมีเยอะเกินไป สามารถทำลายทิ้งได้)

ระบบเครื่องประดับเสริมแกร่งให้การ์ด

เกมนี้จะมีเครื่องประดับที่ได้จากการกาชาเครื่องประดับใน World Map อยู่ ซึ่งวิธีได้รับเครื่องประดับนั้นจะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ เลือกเส้นทางของ World Map ให้ตรงกับกาชาเครื่องประดับแล้วสุ่มรับ หรือจะหาร้านค้าให้เจอแล้วเลือกจ่ายเงินเพื่อสุ่มกาชาเครื่องประดับ แต่กรณีของร้านค้านั้นการเปิดกาชาจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เปิด ซึ่งการใช้งานเครื่องประดับคือการเลือกการ์ดตัวละคร 1 ตัว แล้วใส่มันเข้าไปเหมือนสวมใส่ Equipment ในเกม RPG ทั่วไป ซึ่งตัวละครตัวนั้นจะได้รับค่าสเตตัสหรือสกิลใหม่ตามคุณสมบัติที่เครื่องประดับเขียนไว้ อาจเป็นการลดเทิร์นในการโจมตี หรือเพิ่มสถานะต่าง ๆ เข้าไปให้ตัวละครเก่งขึ้น ซึ่งถ้าคุณคิดคอมโบถูกต้อง ตัวละครของคุณก็จะเก่งขึ้นอย่างมากครับ

พัฒนาหมู่บ้านเพื่อรับคอนเทนต์ใหม่ ๆ

เมื่อเราเล่นจบเกมหนึ่ง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะกลับมา เราจะได้กลับมาที่หมู่บ้านที่มีลักษณะเป็นหมู่บ้านชาวหิมะในยุคน้ำแข็ง ซึ่งที่นี่ก็จะมีบ้านเรือนมากมายที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน ซึ่งหลัก ๆ แล้ว ในมุมมองของเกมเพลย์ มันจะเป็นการสะสม Achievement ภายในเกมครับ โดยบ้านแต่ละหลังจะมีการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น การ์ดตัวละครสัตว์เลี้ยงใหม่ ๆ การ์ดไอเทมใหม่ ๆ การ์ดโทเทมใหม่ ๆ ถ้าเพื่อน ๆ อยากได้การ์ดใหม่มาเล่น เพื่อน ๆ จะต้องทำเควสต์ให้เสร็จตามที่ตัวเกมกำหนดครับ ซึ่งเควสต์ต่าง ๆ ก็จะทำได้จากการเข้าไปเล่นนั่นแหละ เพียงแค่เพิ่มเงื่อนไขขึ้นมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น และเมื่อเพื่อน ๆ ปลดล็อคการ์ดใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ก็ทำให้คิดคอมโบใหม่ได้กว้างขึ้นอีกด้วย

และนี่ก็คือ “พรีวิว Wildfrost (Demo) ผจญภัยแดนหิมะ” ครับผม เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับใครที่เป็นสาย Turn-based หรือ Rogue Like ล่ะก็ บอกเลยว่าเกมนี้โดนใจคุณอย่างแน่นอนครับ ด้วยเกมเพลย์ที่เข้าใจง่ายไม่งง แต่ก็มีความลึกในการเล่นพอสมควร อีกทั้งภาพยังดูน่ารักสดใส อย่างไรก็ตาม ที่เราพรีวิวมานี้ยังเป็นเพียงแค่การเล่นจาก Demo เท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งบอกเลยว่าช่วง Q1 ของปี 2023 ที่เกมวางจำหน่ายนี้ ห้ามพลาดเลยนะครับ