สกู๊ปพิเศษ

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

จาก Turn-based สู่ Action RPG บู๊หนักซะยิ่งกว่าภาคก่อน

หลายคนที่เป็นแฟนเกม Final Fantasy ก็คงจะกำลังติดตามข่าวสารของซีรีส์ภาคหลักภาคใหม่อย่าง Final Fantasy XVI กันอยู่ใช่ไหมครับ และภาคนี้ก็ยังยืนยันความ Action อยู่เหมือนเดิม และบู๊หนักกว่าภาค 15 ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ และในตอนนี้ก็ได้มีตัวอย่างเกมเพลย์จาก Gematsu ที่เผยวิดีโอคลิปเกมเพลย์จำนวน 5 คลิป ให้เราได้ชมกัน ซึ่งก็สามารถสรุปข้อมูลด้านเกมเพลย์จากการดูวิดีโอคลิปได้ ดังนี้

[กดที่รูปเพื่อดูคลิป]

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

1. เกมจะเป็นแนว Action RPG บู๊แหลกสุดมันส์

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

แม้จะรู้อยู่แล้วว่า Final Fantasy คงจะกลับคืนสู่ Turn-based ได้ยาก แต่แฟนตัวยงยุคเก่าหลายคนก็ยังใจสลายอยู่ดี เพราะภาค 16 นี้มาพร้อมกับความ Action ที่โหด เร็ว รัว ซะยิ่งกว่าภาค 15 ซะอีก เกมเพลย์จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถทำ Combo ฟันรัว ๆ ได้, Dash หลบได้, Block ได้, Parry ศัตรูได้, ใช้เวทย์และท่าพิเศษได้ แถมศัตรูยังกรูเข้ามาพร้อมกันหลายตัว แต่ละตัวก็จะมีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไปตามด่านและเนื้อเรื่อง ทำให้คุณต้องใช้ไหวพริบและความคล่องตัวในการเอาชนะพวกมัน ซึ่งแฟนเกมสาย Turn-based อาจจะไม่คุ้นสักเท่าไหร่ แต่สำหรับสาย Action ที่เคยเล่นเกมเร็ว ๆ อย่าง DMC มาก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แถมมันส์สะใจอีกด้วย

2. มีระบบเลเวลและสเตตัส

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

แม้ว่าภาคนี้จะเป็นเกม Action บู๊ล้างผลาญ แต่ก็ยังคงเป็น Action RPG ที่มีการคำนวณดาเมจ เวลาโจมตีก็จะมีตัวเลขขึ้น และหลังต่อสู้กับศัตรูเสร็จหนึ่งช่วงหรือชนะบอสได้ก็จะมีการคำนวณ EXP และการได้รับของดรอปจากบอส เมื่อเลเวลอัพก็จะมีการเพิ่มค่าสเตตัสในส่วนต่าง ๆ ให้ตัวละครของเราเก่งขึ้น แม้ในวิดีโอตัวอย่างจะยังไม่แสดงส่วนที่เป็นเมนูอุปกรณ์สวมใส่ให้เราได้เห็น แต่เชื่อว่าเกมไฟนอลที่มีเลเวลและการคำนวณดาเมจยังไงก็คงจะต้องมีส่วนนั้นด้วย ทำให้เกมนี้สามารถฟาร์มหรือเก็บเลเวลได้แม้จะเป็นเกม Action ก็ตามครับ

3. ผสมผสานการโจมตีแบบกายภาพและเวทย์ได้อย่างรวดเร็ว

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ในซีรีส์ของ Final Fantasy นั้นเรื่องของเวทมนตร์ก็จะมาเป็นของคู่กัน แต่ในภาคนี้การใช้เวทย์จะไม่ใช่การยืนร่ายเป็นพ่อมดแม่มดอีกแล้ว มันจะเป็นการยิงเวทย์ออกไปตามธาตุและมีท่าต่าง ๆ ใน Moveset ของตัวละคร ทำให้การใช้เวทย์นั้นผสมผสานกับการโจมตีธรรมดาได้อย่างรวดเร็ว ถึงขนาดว่าดูในคลิปยังแยกได้ยากว่า Hit ไหนเป็นกายภาพและ Hit ไหนเป็นเวทย์ นอกจากนี้ถ้าหากคุณเจอศัตรูที่กำลังเว้นระยะหรือบินได้ คุณก็ยังสามารถใช้เวทย์ยิงระยะไกลเพื่อสร้างดาเมจได้ แถมยังมีท่าที่กระโดดเข้าประชิดตัวได้อีกด้วย

4. เปลี่ยน Preset ท่าได้ตามสัตว์อสูรที่เซ็ตไว้

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ในวิดีโอตัวอย่างเราจะเห็นว่าในมุมล่างซ้ายของจอ จะมีไอคอนการโจมตีต่าง ๆ พร้อมกับแถบสีแดง สีเขียวและสีเหลือง ซึ่งสามารถสับเปลี่ยนได้ด้วยการกดปุ่ม R2 เป็นเหมือนการเปลี่ยน Preset ของท่าโจมตีและสกิลเสริมต่าง ๆ จากสัตว์อสูรที่ใช้ ยังไม่ชัดเจนว่าสามารถเลือกเซ็ตได้ตามใจชอบหรือว่าบังคับเล่นตามเนื้อเรื่อง อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถทำให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายได้ เช่น Phoenix Shift สามารถพุ่งเข้าประชิดศัตรูได้, การใช้ Deadly Embrace สามารถดึงบอสบางตัวได้, หรือ Titanic Block สามารถป้องกันการโจมตีศัตรูได้ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ครับ

5. ศัตรูสามารถโดน Stagger เพื่อรับดาเมจมากขึ้น

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ศัตรูประเภทบอสหรือ Elite มักจะมีเกจ Stagger อยู่ข้างล่าง HP และเราสามารถโจมตีต่อเนื่องเพื่อนลดเกจ Stagger ของมันลงได้ เมื่อโจมตีไปเรื่อย ๆ จนเกจ Stagger ของศัตรูหมดลง มันก็จะติดสถานะ Stagger ทำให้ศัตรูขยับไม่ได้เหมือนติดสตั้น และเราสามารถทำดาเมจใส่ศัตรูแรงขึ้นได้ ถือว่าเป็นโอกาสทองในการโถมโจมตีไม่ยั้งอย่างสุดกำลัง โดยช่วงที่ศัตรูติด Stagger นี้ เกจ Stagger ของศัตรูจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาจนเต็มเหมือนเดิม และศัตรูก็จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แล้วระบบจะคำนวณดาเมจรวมว่าในช่วง Stagger นี้ คุณสร้างดาเมจทั้งหมดไปเท่าไหร่เพื่อสรุปข้อมูล

6. เกมจะมี Cinematic Action ในบางจังหวะ

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

การต่อสู้กับศัตรูประเภทบอสนั้นไม่ใช่ว่าจะมีแต่เกมเพลย์ปกติเท่านั้น เมื่อเลือดบอสลดลงถึงจุด ๆ หนึ่ง ตัวเกมจะมีคัตซีนพิเศษที่เป็นเหมือนกับการใช้ท่าอะไรบางอย่างของบอส ซึ่งมันจะไม่ปล่อยให้เรายืนดูอย่างสบายใจแน่ เพราะมันจะมี Cinematic Action หรือที่เราเข้าใจก็คือ Quick Time Event โผล่เข้ามาในคัตซีนตลอด ถือว่าเป็นอีกรูปแบบการต่อสู้ในเกมภาคนี้ที่อาจจะมีให้กดกับบอสทุกตัว มีทั้งกดโจมตี กดป้องกัน กดหลบ หรือต้องกดรัว ๆ เพื่อต้านพลังกันไปมาตามสถานการณ์ที่เกมออกแบบมาให้เราเล่นครับ

7. สัตว์เลี้ยงจะร่วมต่อสู้และมีสกิลสนับสนุน

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ถ้าเทียบกับภาค 15 ที่จะมีตัวละครอื่นเป็นเพื่อนร่วมทีม ภาค 16 นี้เองก็มีเช่นกันครับ ซึ่งในวิดีโอตัวอย่างจะเป็นหมาป่าที่ชื่อว่า Torgal เข้ามาร่วมการต่อสู้กับคุณอยู่เสมอ สามารถโจมตีธรรมดา ใช้สกิลโจมตีหนัก ๆ หรือแแม้แต่คอยฮีลเราก็ทำได้ ถือว่าเป็นยูนิตที่มีประโยชน์ต่อการเล่นมาก ๆ ทั้งในกรณีที่เราโดนรุมแล้วให้ Torgal ช่วยแทงค์ หรือในกรณีที่ Stagger บอสแล้วต้องรีบทำดาเมจให้เร็วที่สุด ซึ่งไม่รู้ว่าในเกมของจริงที่เราจะได้เล่นกันในอนาคตจะมีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นมาให้ใช้งานหรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

8. สามารถระเบิดพลังโดยการใช้เกจ Limit Break

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ด้านมุมซ้ายบนของหน้าจอจะปรากฎเป็นแถบ HP ของตัวเราเป็นสีเขียว และเกจสีเหลืองซึ่งก็คือ Limit Break ครับ ตอนเริ่มการต่อสู้ใหม่ตัวเกจ Limit Break นี้จะเริ่มจาก 0 เช่นกัน คุณสามารถเพิ่มแถบ Limit Break ได้จากการโจมตี ป้องกันหรือหลบการโจมตีของศัตรู เกจจะเพิ่มขึ้นมาและยังเป็นสีฟ้า เมื่อเกจเต็มหนึ่งหลอดสีของเกจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เป็นสัญญาณว่าคุณสามารถระเบิดพลัง Limit Break ได้แล้ว ซึ่งถ้าคุณระเบิดพลังออกมา ตัวเกจ Limit Break จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่พลังโจมตีของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ใช้ในกรณี Stagger แล้วรีบเบิร์สดาเมจจะเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดครับ หรือจะใช้ตามความจำเป็นก็สามารถประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน

9. ใช้ Potion ในการต่อสู้ได้

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

ในส่วนล่างซ้ายของหน้าจอ นอกจากสัตว์เลี้ยงอย่าง Torgal แล้ว คุณยังสามารถสับเปลี่ยนเมนูเป็นหน้าต่างใช้ Potion ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปุ่มที่ใช้กดจะเป็นลูกศรบนจอย สามารถเซ็ตยาไว้ได้หลายชนิด อาจจะเป็นยาเพิ่ม HP, ยาเพิ่มสเตตัส หรือยาแก้สถานะผิดปกติก็ได้เช่นกัน โดยการใช้ยาจะมีการลดจำนวนลงทุกครั้งที่ใช้ ถ้าจำนวนนั้นหมดลงก็จะใช้อีกไม่ได้ และจะเสียเวลาในการแสดงอนิเมชั่นสักครู่หนึ่งในการแสดงผล เพราะงั้นอาจจะต้องกะจังหวะตอนใช้ให้ดี ถ้าโดนโจมตีมาตอนใช้ยาอาจจะลำบากไม่น้อย

10. เมื่ออัญเชิญสัตว์อสูรจะเปลี่ยนเกมเพลย์เป็นอีกโหมด

10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI

สัตว์อสูรเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับซีรีส์ Final Fantasy มาอย่างช้านาน มันคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ อลังการ และภาคนี้ก็ได้มีการแสดงตรงส่วนนี้ออกมาโดยเฉพาะ คือหลังจากที่เราเรียกสัตว์อสูรออกมา ตัวเกมจะเปลี่ยนโหมดเป็นอีกโหมดหนึ่งทันที เปลี่ยนการบังคับ และเปลี่ยนปุ่มโจมตี จากวิดีโอตัวอย่างเราจะได้เล่นเป็น Ifrit ที่ต่อสู้กับ Garuda โดยการบังคับทิศทางยังเป็นเหมือนเดิม แต่สามารถใช้ท่าโจมตีได้เพียง 3 ท่า และอีก 1 ปุ่มหลบ นอกจากนี้ยังมี Cinematic Action ตอนสัตว์อสูรสู้กันอีกด้วย ส่วนเรื่องภาพกราฟิกนั้นไม่ต้องพูดถึง อลังการงานสร้างจนคุณต้องขนลุกครับ

และนี่ก็คือ “10 ข้อสรุปด้านเกมเพลย์ของ Final Fantasy XVI” หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่สนใจจะเล่นเกมนี้นะครับ อย่างไรก็ตามวิดีโอตัวอย่างนี้ยังเป็นเพียงแค่ตัวอย่างและวิเคราะห์จากการดูเท่านั้น ไม่แน่ว่าในเกมจริงอาจจะมีอะไรใหม่ ๆ รอคุณอยู่ก็ได้ ใครสนใจก็ซื้อ PS5 มารอเล่นได้เลยนะคร้าบ

ที่มา
youtube.com

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button