สกู๊ปพิเศษ

7 สิ่งที่ Diablo IV ยังคงเสน่ห์ของเนื้อเรื่องได้ดีเหมือนเดิม

บรรยากาศดำมืด ความโหดร้าย ความสิ้นหวัง ยังคงมีอยู่ครบ

หลายคนอาจจะรู้กันแล้วว่าช่วงนี้ก็ใกล้ที่จะถึงเวลาวางจำหน่ายของ Diablo IV ที่เป็นภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ Diablo กันแล้ว และถ้าใครที่เคยเล่นภาคเก่า ๆ ของ Diablo มาตั้งแต่ภาคแรกก็คงจะรู้กันดีว่าโทนของเกมแนวนี้มันเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง บรรยากาศ มอนสเตอร์ ผู้คนภายในเมือง ก็จะตกอยู่ในความโหดร้ายแทบทั้งสิ้น และในภาค 4 นี้ก็ยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้เหมือนเดิม เรามาดูกันว่ามีส่วนไหนบ้างที่ Diablo IV ยังคงเสน่ห์ด้านเนื้อเรื่องเอาไว้ได้

1. บอส Lilith ยังคงคอนเซ็ปต์ของปีศาจจากนรก

image 2908

อย่างที่เราทราบกันดีว่าปีศาจต่าง ๆ ที่เป็น Last Boss ของเกม Diablo แต่ละภาคจะเป็นปีศาจที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตามตำนานต่าง ๆ หรือจากศาสนาคริสต์ โดยในภาคนี้บอสใหญ่จะเป็น Lilith ซึ่งเป็นลูกสาวของบอสในภาค 2 อย่าง Mephisto โดยตำนานของ Lilith ที่เราจะรู้จักกันมากที่สุดก็คือข้อมูลตามตำนานของศาสนาคริสต์ มีอยู่ว่า Lilith นั้นเป็นมนุษย์เพศหญิงคนแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นหวังจะให้เป็นภรรยาของ Adam ก่อนที่จะเป็น Eve อย่างที่เราเข้าใจกัน แต่เนื่องจาก Lilith นั้นเป็นคนอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย บ้าอำนาจ ไม่ยอมทำหน้าที่ภรรยาที่ดี และเธอก็ทิ้ง Adam ไปเป็นคนรักของปีศาจในนรก ทำให้พระเจ้าต้องส่งเทวดาชั้นสูงลงมาปราบ Lilith ด้วยตัวเอง ซึ่งก็เข้ากับธีม

2. โลกแนว Dark Fantasy ที่ปีศาจครอบงำแผ่นดิน

image 2907

เรื่องราวของภาคนี้จะเริ่มจากการกลับมาของ Lilith ซึ่งมีฉายาว่า The Mother ซึ่งฉายามารดาแห่งปีศาจนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะเธอพาลูก ๆ ของเธอออกมาด้วย ตามตำนานแล้วพอ Lilith ได้ทิ้ง Adam ไปเป็นคนรักของปีศาจก็ได้ทำการปั้มลูกออกมาวันละ 100 ตัว ทำให้ไม่แปลกที่เธอจะได้รับฉายานี้ และไม่แปลกที่เธอจะมีกองกำลังของตัวเองเป็นลูก ๆ ปีศาจจำนวนมาก และมันก็ได้ออกมาจากนรกเพื่อปกคลุมโลกมนุษย์ให้มืดมิดอีกครั้ง โดย World Setting โทน Dark Fantasy นี้ถือว่าเป็นสิ่งถนัดของซีรีส์ Diablo อยู่แล้ว และภาคนี้ก็ทำให้ดูสิ้นหวังและหดหู่ได้เช่นเคยครับ

3. มนุษย์บางกลุ่มที่ตกเป็นทาสของปีศาจอยู่ร่ำไป

image 2906

ไม่ว่าจะเป็น Diablo ภาคไหน ๆ ก็มักจะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งซึ่งเอาจริง ๆ ก็มีปริมาณไม่น้อยเลยที่ถูกปีศาจเข้าครอบงำจนตกเป็นทาส ซึ่งอาจจะเกิดจากความกลัว หรือถูกควบคุมทางจิตใจ แต่มนุษย์เหล่านี้ก็มักจะใช้ความรุนแรงหรือหลอกลวงมนุษย์คนอื่นมาเป็นเครื่องสังเวย หรือไม่ก็จับให้เข้าร่วมลัทธิประหลาดที่ตกเป็นทาสของปีศาจเหล่านั้น คนแบบนี้จะมีให้เห็นใน Diablo ทุกภาค แสดงถึงความกลัวและความเชื่อแบบผิด ๆ ของมนุษย์ที่กลัวต่อความสิ้นหวัง ความรุนแรงและความตายที่ปีศาจจะมอบให้ ทำให้มนุษย์เกิดการต่อสู้และฆ่าแกงกันเองอยู่เสมอ และ Diablo IV ยังเป็นเกมที่แสดงจุดนี้ได้อย่างดีครับ

4. เริ่มจากความซวย จบที่เป็นตำนาน

image 2905

Diablo แต่ละภาคนั้นจุดเริ่มต้นของตัวละครหลักอย่างเรา ไม่ว่าจะเป็นทหาร ผู้กล้า นักรบ นักผจญภัย หรือใครก็ตาม มักจะมีเรื่องซวยให้เข้าไปพัวพันกับปีศาจอยู่เสมอ จนสุดท้ายก็ปราบปีศาจลงได้จากการพัวพันนั้น ซึ่งใน Diablo IV เองก็เริ่มต้นเช่นนั้น เราเป็นแค่นักเดินทางคนหนึ่งที่เผลอเข้าไปในหมู่บ้านที่บูชาลัทธิลิลิธ ทำให้ถูกจับเป็นเครื่องสังเวยและบังคับให้ดื่มเลือดของปีศาจ การที่เราจะลบล้างคำสาปจากการดื่มเลือดนั้นต้องกำจัดลิลิธที่เป็นบอสใหญ่ของภาคนี้เท่านั้น นอกจากจะช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากคำสาปแล้ว ยังสามารถกู้โลกใบนี้ได้อีกด้วย กลายเป็นว่าจุดเริ่มต้นของผู้กล้ากู้โลกคือความซวยที่เข้ามาพัวพันกับปีศาจซะงั้น 

5. ความสิ้นหวังจากการสูญเสียยังคงเป็นเนื้อหาที่โดดเด่น

image 2904

เควสต์แต่ละอย่างภายในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็นเควสต์หลักหรือเควสต์รอง จะมีเนื้อเรื่องที่ออกไปในทางสิ้นหวังและการสูญเสียมากมาย เพื่อให้เราสัมผัสได้ว่าการมาเยือนของลิลิธนั้นค่อนข้างมีผลกระทบต่อมนุษย์โลกจริง ๆ บางเควสต์เราจะเห็นแม่ของ NPC บางคนต้องตกเป็นทาสของนางจนเสียสติ สุดท้ายต้องให้ลูกมาฆ่าแม่ตัวเอง หรือบางคนอาจจะสูญเสียคนรัก จากการที่คนรักกลายมาเป็นปีศาจ ความโหดร้ายจากการต้องเข่นฆ่าคนที่ตัวเองรักยังคงถูกเล่าขานผ่านเควสต์ต่าง ๆ ใน Diablo IV ซึ่งบางเควสต์ก็ดึงอารมณ์ให้ดิ่งได้เหมือนกัน เพราะทุกครั้งมักจะเป็นจังหวะที่สามารถช่วยเหลือได้ เป้าหมายอยู่แค่เอื้อมแล้ว แต่ปีศาจก็จะทำให้เราต้องสูญเสียมันไปนั่นเอง

6. ยังคงมีคนกลุ่มหนึ่งที่ต่อสู้กับปีศาจอยู่เสมอ

image 2903

แม้ว่าโลกของ Diablo จะเป็นโลกแห่งความสิ้นหวังที่ถูกปกคลุมไปด้วยเหล่าปีศาจร้าย แต่ทุกภาคของ Diablo ก็มักจะมีมนุษย์อยู่กลุ่มหนึ่งลุกขึ้นต่อสู้ด้วยความหวัง บางกลุ่มเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดา หรือกลุ่มคนเล็ก ๆ พวกเขาอาจจะไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่โตอะไร เพียงแค่รวมตัวกันสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น หรือบางกลุ่มอาจจะเป็นทหารของอาณาจักรใหญ่ ๆ ตั้งกองทัพเพื่อต่อสู้ทำสงครามกับปีศาจอย่างเต็มกำลัง ซึ่งใน Diablo IV ก็ยังมีคนแบบนั้นอยู่ให้ชื่นใจบ้าง มันเป็นเหมือนความหวังอันน้อยนิด ความหวังสุดท้ายของมวลมนุษย์อะไรอย่างนั้นเลยครับ

7. คนบางกลุ่มเลือกที่จะงมงายมากกว่าลุกขึ้นมาสู้เอง

image 2902

อีกสิ่งหนึ่งที่ Diablo สะท้อนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เวลาที่โลกมีวิกฤตอันโหดร้าย มนุษยชาติกำลังตกอยู่ในอันตราย จะมีมนุษย์อยู่กลุ่มหนึ่งที่ลูกขึ้นสู้อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด แต่ก็จะมีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ทำอะไรเลย แล้วเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น ภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า หรือหวังว่าเทวดาบนสวรรค์จะลงมาช่วย หรือบางกลุ่มอาจจะสิ้นศรัทธาต่อความดีงามแล้วหันไปบูชาปีศาจเพื่อหวังว่าปีศาจจะไว้ชีวิตแทน แล้วกลายเป็นว่าคนกลุ่มนั้นก็จะเป็นทาสที่ถูกใช้งานไปจนตายอยู่ดี Diablo เป็นเกมที่สะท้อนให้เห็นก้นบึ้งของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และคนกลุ่มนี้ก็มักจะมีชะตากรรมที่ต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เสมอ

และนี่ก็คือ “7 สิ่งที่ Diablo IV ยังคงเสน่ห์ของเนื้อเรื่องได้ดีเหมือนเดิม” เป็นยังไงกันบ้างครับ พออ่านดูแล้วรู้สึกว่า Diablo IV เริ่มน่าสนใจขึ้นมาหรือเปล่าเอ่ย ใกล้ได้เวลาที่เกมนี้จะวางจำหน่ายแล้วนะครับ ถ้าใครสนใจก็สามารถซื้อมาลองได้ นอกจากเนื้อเรื่องจะเป็นไปตามที่กล่าวมาแล้ว ตัวเกมเพลย์ก็ยังสนุกไม่แพ้กันอีกด้วย คุ้มเงินที่ต้องจ่ายไปแน่นอนครับ มาร่วมต่อสู้กับ Lilith ไปพร้อมกันเถอะ

ที่มา
youtu.be

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button