สกู๊ปพิเศษ

ส่องวิวัฒนาการเกมใหม่แกะกล่อง Forspoken (Project Athia)

ผลงานชิ้นล่าสุดจากทีมงาน Luminous Productions ผู้สร้าง Final Fantasy 15

ทีมผู้พัฒนาอย่าง Luminous Productions นับว่าเป็นอีกหนึ่งทีมผู้พัฒนาที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งทีมงานที่เริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2018 โดยสมาชิกทั้งหมดของ Luminous Productions ล้วนมาจากทีมงานเดิมที่เคยฝากผลงานอย่าง Final Fantasy 15 Royal Edition ตัวเกมฉบับสมบูรณ์ที่สุดของ FF 15 และตัวเกมฉบับ Window Edition ที่ลงให้กับแพลตฟอร์ม PC ซึ่งมาในครั้งนี้พวกเขาจะมีหน้าที่ในการพัฒนาเกมใหม่ที่ใช้ Luminous Engine หรือก็คือเกมอย่าง Forspoken เกมแนว Action adventure RPG ที่เราจะได้สวมบทบาทเป็นผู้ใช้เวทมนตร์นามว่า Frey Holland

ถ้าลองมองย้อนกลับไปช่วงที่พัฒนาตัวของ Final Fantasy 15 ก็อาจพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นอะไรที่ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ เพราะนอกจากมันจะเป็นเกมที่ติดอยู่ในวังวนการพัฒนามานานนับ 10 ปีตัวเกมก็ยังมีการรื้อแล้วทำใหม่เป็นผลให้เกมเสร็จล่าช้ากว่าที่ควร แต่ถึงอย่างนั้นการที่ทางต้นสังกัดอย่าง Square Enix ได้จัดตั้งทีมงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาเกมโดยใช้ Luminous Engine ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดียิ่งการมาถึงของเกมใหม่ของพวกเขาอย่าง Forspoken ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าทาง Square ยังไม่ทอดทิ้ง Engine หลักของพวกเขาไป

Engine ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

image 4142

Luminous Productions เดิมทีนั้นใช้ชื่อว่า Luminous Studio เป็นทีมงานที่ทางต้นสังกัดได้วางแผนที่จะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งในเวลานั้นก็อาจพูดได้ว่าเป็นช่วงที่ทาง Square Enix กำลังตกที่นั่งลำบากเนื่องจาก Final Fantasy 15 หรือชื่อที่ใช้ในขณะนั้นอย่าง Final Fantasy Versus 13 ประสบปัญหาทางด้านข้อจำกัดทางเทคนิคเนื่องจาก Engine เดิมของพวกเขาอย่าง Crystal Tools ไม่สามารถรองรับการทำเกมแบบ Open World ที่ทางทีมงานหวังไว้ได้เป็นผลให้ในเวลาต่อมาทาง Square Enix ก็ได้เริ่มแผนปั้น Engine ตัวใหม่ผ่านการเกณฑ์เหล่าอดีตพนักงานจากทาง Sega จนสำเร็จผลกลายออกมาเป็น Luminous Engine Engine ประจำค่ายที่ใช้ในการพัฒนาเกมของพวกเขาอย่าง FF 15 ในเวลาต่อมา

และก่อนที่ตัวเกม FF 15 จะออกก่อนหนึ่งปีนั้นทาง Square Enix ก็ได้มีการปล่อย Tech Demo มาก่อนหนึ่งตัวที่ใช้ชื่อว่า Witch Chapter 0 [cry] ที่เราจะได้เห็นตัวละครนามว่า Agni ที่กำลังเศร้าโศกอยู่ในซากวิหารสักแห่งหนึ่ง โดยจุดมุ่งหมายหลักในการโชว์ตัว Tech Demo ในครั้งนี้ก็คือการแสดงขุมพลัง Luminous Engine ที่สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่เส้นผมของตัวละครไปจนถึงใบหน้าของ Agni บนความชัดที่ระดับ 8K ซึ่งในเวลานี้พวกเขาจะสามารถใช้ขุมพลังของ Engine ได้เต็มที่กับการพัฒนา Forspoken ที่รันบน Hardware ยุคใหม่นั่นเอง

แต่นอกจากเรื่องของขุมพลังภายในตัวอย่าง Witch Chapter 0 [cry] ก็ดูเหมือนจะมีการซ่อนประเด็นบางอย่างไว้นั่นก็คือ “ชื่อ” ของตัวอย่างโดยหลังจากที่ทาง Sony อัปโหลดตัวอย่าง Trailer ของเกม Forspoken พวกเขาก็ได้ทิ้งคำอธิบายไว้ว่า “introducing WITCH, the new narrative-driven adventure set in a beautiful yet cruel world.” ซึ่งประเด็นมันก็อยู่ที่คำว่าแม่มด (หรือ WITCH) หรือก็คือตัวของ Forspoken หรือที่เคยรู้จักในชื่อของ Project Athia นั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าตัวเกมดังกล่าวจะเป็นการต่อยอดเรื่องราวมาจาก Tech Demo ของพวกเขาก็เป็นได้

A Fantasy Based On Reality

ถ้าลองมองดูดีๆ เกมเพลย์ของทั้ง FF 15 และ Forspoken เราก็อาจจะเห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างเกมทั้งสองก็คือเกมเพลย์สไตล์ Open World Action RPG ที่เน้นการต่อสู้กับเหล่าปีศาจในโลกของเกมที่คาบเกี่ยวระหว่างความ Fantasy และความสมจริงแถมภายในตัวอย่างของ Forspoken เราก็จะได้เห็น Frey ได้ใช้ความสามารถที่คล้ายๆ กับการใช้โล่ป้องกันในเกม Final Fantasy 15 Brotherhood แสดงให้ถึงพัฒนาการระหว่างเกมทั้งสองนี้และก็เห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากที่ทางทีมงานไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรกับ FF 15 พวกเขาจะกลับมาแก้ตัวอีกครั้งด้วย Forspoken

ในท้ายที่สุดแล้ว Forspoken ก็เปรียบเสมือนการนำ Project ก่อนหน้าทุกอย่างของทีม Luminous Productions มารวมไว้ในเกมๆ เดียวซึ่งมันก็รวมไปถึงแนวคิด “fantasy based on reality” ที่ตัวของ Forspoken จะมาสานต่อจาก FF 15 ที่เคยทิ้งทวนไว้รวมไปถึงเรื่องราวของ Agni ที่น่าจะถูกต่อยอดในเกมใหม่ของพวกเขาในครั้งนี้ และถึงแม้ว่าประวัติของทีมงาน Luminous Productions ค่อนข้างจะขรุขระบวกกับปัญหาเรื่องโรคระบาดที่น่าจะก่อความลำบากให้กับทีมงาน Forspoken ก็ยังถือว่าเป็นเกมที่น่าจับมองมากๆ ในตอนนี้

Forspoken มีกำหนดวางจำหน่ายให้กับเครื่องเล่น PlayStation 5 และ PC ภายในปี 2022 เรียกได้ว่าคงต้องรอกันไปอีกยาวๆ แต่ขอบอกเลยว่าด้วยขุมพลังเอนจิ้นแบบเดียวกับ Final Fantasy XV ก็น่าจะทำให้เกมสามารถส่งต่อภาพกราฟิกอันสวยงามคุ้มค่าการรอคอยกับแฟนๆ แน่นอน

ที่มา
gamerant
Back to top button