แฮกเกอร์เริ่มฝัง Malware ในเกมเวอร์ชั่นเถื่อนเพื่อใช้ขุดเหรียญ Crypto

ล่าสุดนี้ได้มีรายงานจากทาง Avast ว่าอาชญากรไซเบอร์กำลังมุ่งเป้าไปที่เหล่าเกมเมอร์ผ่านการฝัง Mining Malware ในเครื่องของเหยื่อเพื่อใช้ในการขุดเหรียญ Cryptocurrency โดย Malware ตัวนี้ใช้ชื่อว่า “Crackonosh” ซึ่งมันจะถูกฝังใน NBA 2K19, Grand Theft Auto V, Far Cry 5, The Sims 4 และ Jurassic World Evolution เวอร์ชั่นโหลดฟรี (หรือเวอร์ชั่นเถื่อน) ที่หาได้ตามเว็บไซต์ Torrent ต่างๆ

ส่วนวิธีการทำงานของ Crackonosh เมื่อมันถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้วตัว Malware จะดูดพลังการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ เพื่อนำมาใช้ในการขุดเหรียญ Cryptocurrency ให้กับเหล่าแฮกเกอร์ โดยตั้งแต่ช่วงมิถุนายนปี 2018 เป็นต้นมา Crackonosh สามารถทำเงินได้เป็นมูลค่าถึง 2 ล้าน USD (หรือ 64,040,000.00 บาท) จากการขุดเหรียญ Cryptocurrency สกุล monero อ้างอิงจาก Avast

Daniel Benes นักวิจัยจาก Avast ได้ให้ข้อมูลกับ CNBC ว่าตัว Malware จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์มีการทำงานที่ช้าลง หรืออาจถึงขั้นเสื่อมสภาพเนื่องจากการใช้งานที่หนักเกินไป รวมไปถึงค่าไฟที่อาจเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ “มันจะดูดทรัพยากรทุกอย่างจากคอมพิวเตอร์ไป เป็นผลให้ตัวคอมพิวเตอร์ตอบสนองได้ช้าลง” Benes กล่าว

จากรายงานในตอนนี้มีผู้เสียหายแล้วกว่า 220,000 รายทั่วโลกและมีเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 800 เครื่องที่ถูกฝัง Malware ในแต่ละวันอ้างอิงจาก Benes อย่างไรก็ตามทาง Avast ได้กล่าวว่าตัวเลขที่เห็นนี้มาจากคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรม Antivirus เท่านั้นและตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก โดยประเทศที่ได้ผลกระทบมากที่สุดได้แก่ บราซิล, อินเดีย และฟิลิปปินส์

ทางฝั่งนักวิจัยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Crackonosh จะมีกลไกในการป้องกันตนเองหลังจากที่มันถูกฝังในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้แก่การปิดอัปเดตของ Window และการลบโปรแกรมป้องกันต่างๆ ส่วนที่มาของ Malware ตัวดังกล่าว Avast ได้ออกความเห็นว่ามันอาจมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเช็กเนื่องจาก Crackonosh มีความหมายว่า “จิตวิญญาณแห่งขุนเขา” ที่มาจากนิทานพื้นบ้านของเช็ก

Avast ได้รับการรายงานเรื่อง Malware จากลูกค้ารายหนึ่งที่ได้แจ้งว่า Antivirus บนเครื่องของเขาได้ถูกลบออกไป ซึ่งทางบริษัทกำลังเดินหน้าสืบหาสาเหตุในกรณีแบบนี้อยู่ “โดยสรุปแล้ว Crackonosh เป็นการแสดงถึงความเสี่ยงในการโหลดซอฟต์แวร์ที่ถูกแคร็ก และเป็นการพิสูจน์ว่ามันสามารถสร้างรายได้ให้กับแฮกเกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ” Benes กล่าว “ตราบใดที่ผู้คนยังดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่ถูกแคร็กเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ” Benes เสริม “เรื่องสำคัญในครั้งนี้คือคุณไม่สามารถได้อะไรมาโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย และถ้าคุณกำลังขโมยซอฟต์แวร์อยู่ ก็มีโอกาสที่คุณกำลังถูกขโมยบางอย่างอยู่เช่นกัน”