PS5SwitchXBOXคอนโซล / พีซีพีซีรีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[รีวิว] Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ผู้ปฏิวัติวงการเกมต่อสู้สามมิติทวงบัลลังก์

นี่คือร่างสุดยอดของเกมที่มีอายุมากกว่า 20 ปี จัดเต็มทุกความสนุก

หมายเหตุ: ตัวเกมที่ใช้ในการรีวิวเป็นรูปแบบ PlayStation 5 ประสบการณ์ที่ได้รับอาจมีความแตกต่างกัน

การกลับมาของ Virtua Fighter ในปี 2021 รูปแบบรีเมคไม่เพียงแค่จุดประกายให้เกมเมอร์หลายคนได้หันกลับมาเล่นเกมนี้อีกครั้งหลังจากทิ้งช่วงกันไปยาวๆ เท่านั้น แต่ความไฮป์ของเกมเมอร์สายต่อสู้เลือดแท้ที่เลื่อมใสเกมนี้ในฐานะผู้บุกเบิกวงการไฟต์ติ้งสามมิติ ก็ยังเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ช่วยให้เกมโชติช่วงเข้าไปอีกจนจุดประกายให้ไฟเขียวภาคใหม่ในที่สุด แต่คงมีคนที่ไม่คลายความสงสัยได้ทั้งหมดสักทีครับ ว่าทำไมถึงเลือกภาคนี้มาปัดฝุ่น เพราะจากยุค Final Showdown มันก็พร้อมที่จะส่งไม้ต่อใจจะขาด

Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ยิ่งทำให้ภาพของการโบกมือลาในฐานะ ‘ร่างสุดยอด’ ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก เพราะแม้บาลานซ์ใน Final Showdown จะทำได้เป็นมาตรฐานแล้ว R.E.V.O. และ R.E.V.O. World Stage ก็ได้หยิบเอาความ ‘เก่าลายคราม’ มาต่อเติมให้เป็นรากฐานที่มั่นคงยิ่งกว่าที่เคย จะเพื่อให้ขยับขยายแฟรนไชส์นี้ต่อในอนาคตก็ดี เพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์ และทำให้ภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุดในแง่ของความเป็นเกมพรีเมียมก็ดี ความตื่นเต้นนี้เป็นอะไรที่เห็นได้แจ่มแจ้งไม่ต้องขยี้ตานับตั้งแต่ 4 EVOLUTION เลย ซึ่งวันนี้ ThisIsGame Thailand ก็จะนำความประทับใจมาแบ่งปันกันครับ

เกมเพลย์เข้าใจไม่ยาก สมจริง และต้องเซียนให้ได้ด้วยตัวเอง

เช่นเดียวกับเกม Virtua Fighter 5 ในทุกๆ เวอร์ชันที่เคยวางจำหน่ายมาตั้งแต่ผมเป็นเด็กประถมจนถึงตอนนี้ที่เข้าสู่วัยทำงานเป็นที่เรียบร้อย R.E.V.O. World Stage มีรูปแบบการควบคุมอย่างเดิมเลยนั่นคือ เตะ ต่อย จับทุ่ม ป้องกัน เคยมีพื้นฐานจากภาคเก่ามา ต่อให้เจอบาลานซ์ใหม่ก็ไม่ต้องกลัวครับ เพราะแม้จะไม่ได้จับจอยมาตั้งแต่​ Final Showdown คุณก็สามารถสนุกกับเกมนี้ได้

เกมอาศัยความสมจริงในการต่อสู้และมีจุดเด่นที่สนามแข่งแบบไม่แฟนซีเลยแม้แต่น้อย มีเพียงกำแพงให้เราใช้ท่าพลิกแพลงเล็กน้อย (ที่ยังอาศัยหลักพื้นฐานความเป็นจริง) และมีระบบริงเอาต์ไว้วางกลยุทธ์ แต่มันทำให้การต่อสู้ที่เราเห็นบนหน้าจอเหมือนดูหนังบู๊ เช่นเตะแล้วอีกฝ่ายกระโดดหลบเหมือนคนสอนวิทยายุทธ์จริงๆ มาสาธิตให้ดู (ฮา) ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่เราจะไปถึงจุดนั้นได้ เพราะต้องอาศัยการเรียนรู้เทคนิคเฉพาะตัวของตัวละครทั้งหมดด้วย

[รีวิว] Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ผู้ปฏิวัติวงการเกมต่อสู้สามมิติทวงบัลลังก์

ในเรื่องความหลากหลายของโหมดการเล่น ถ้ามาจากภาค Ultimate Showdown จะเห็นว่าแทบไม่เปลี่ยนเลย มีโหมดอาร์เคดที่ลุยไปจนถึงบอสแล้วจบฉับ มีโหมดจับเวลา มีโหมด VS. แบบต่อจอยเล่น และมีระบบออนไลน์ที่ถือเป็นมาตรฐานนั่นคือมีตัวเลือกให้ปรับเรื่องความเข้ากันได้ของสัญญาณ เหมือนพร้อมให้คนที่รู้จักเกมนี้เล่นอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่อยากฝึกซ้อม อันนี้ก็มีโหมดให้ได้ลองกดๆ ปุ่มกัน แต่ถ้าถามว่าช่วยให้เก่งได้เองโดยไม่ต้องเปิดคู่มือไหม ยอมรับว่าไม่ขนาดนั้น แม้จะวางแผนให้ทำได้ดีกว่าตัวก่อนก็ตาม

นำเสนออย่างเรียบง่ายไปนิส…

เทียบกับเกมเวอร์ชันล่าสุดบนคอนโซลอย่าง Ultimate Showdown ที่เคยรีเมคเกมภาคนี้ไปแล้วหนึ่งครั้งเมื่อปี 2021 ยอมรับได้เลยว่า Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ในโฉมแรกอาจไม่เห็นความต่าง ทั้งเมนู UI ที่ยังเป็นของเดิมและแนวทางกราฟิกอ้างอิงจากภาค Ultimate Showdown มาทั้งหมด หากจะหักคะแนนก็คิดว่าคงหักตรงนี้ ทว่าผู้เล่นเดิมสามารถอัปเกรดมาเป็นเวอร์ชันนี้ได้อยู่แล้ว ก็เลยหยวนๆ ไปเพราะมันก็คือเกมเดิม และเวอร์ชันเก่าก็ถือว่าทำเมนูมาได้ดี

ต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่า Virtua Fighter 5 Ultimate Showdown เองก็มีการทำตลาดในชื่อภาคว่า esports ด้วยซ้ำ ในตอนนั้นเกมเองก็ตั้งใจที่จะพลิกฟื้นเพื่องานแข่งขันโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจนักหากภาคดังกล่าวจะทำเมนูให้ตรงต่อพอยต์จัดๆ (และที่จริงก็เป็นซิกเนเจอร์ของเกมที่ไม่ได้เน้นความแฟนซีในเมนู) โหมดหลักด้านออนไลน์จะอยู่ข้างบน พร้อมฟีดให้ชมการแข่งขันผู้เล่นคนอื่นได้สดๆ ทางขวาของจอ ขณะที่โหมดต่อสู้กับ CPU, Local VS. และฝึกซ้อมแบบออฟไลน์ไม่ได้อยู่ในความสำคัญหลักเท่าไรจนกลายเป็นข้อด้อยของภาคดังกล่าวที่ไม่มีอะไรให้ทำนักสำหรับสายเล่นคนเดียว พอให้ได้สนุกๆ ขำๆ เท่านั้น

เมื่อ​ R.E.V.O. World Stage ได้เปิดตัวมา ก็ถือเป็นการต่อยอดจากเวอร์ชันดังกล่าวเพื่อสร้าง ‘รากฐาน’ ของเกมนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยในส่วนของเอสเตติกของเกมโดยรวมก็ยังเป็นแบบเก่า มีที่เห็นชัดๆ ก็คือโหมด World Stage ที่เป็นเมนูขนาดใหญ่โผล่เข้ามาให้เราได้เห็นชัดๆ ไว้เลือกกันครับ

World Stage คือโหมดที่ผู้เล่นหลายคนคิดถึง

หากใครเคยเล่น Virtua Fighter 4 EVOLUTION ที่เป็นเกมเวอร์ชันที่สมบูรณ์ที่สุดบนคอนโซลที่จะพอหาเล่นได้ (ไม่รวม Final Tuned) ก็ต้องบอกเลยว่าคุณจะได้ฟินกันกับโหมดที่มาแทนที่ Quest Mode อีกครั้ง และคราวนี้ก็ทำออกมาได้อย่าง ‘เรียบง่ายยย…’ (อีกแล้ว!) และไม่ได้เป็นการเล่าเนื้อเรื่องแคมเปญแต่อย่างใด ทว่ามันคือการจำลองว่าเรากำลังเดินทางไปยังตู้อาร์เคดต่างๆ เพื่อไต่เต้าเป็นอันดับหนึ่งให้ได้ครบทุกร้านเกมนั่นเอง

ที่บอกว่าเรียบง่าย (ขอใช้คำนี้รอบสุดท้ายในรีวิวนี้แล้วกัน) ก็คือ ในภาค 4 EVOLUTION เรายังต้องเลื่อนเคอร์เซอร์ตามหาร้านเกมใหม่ๆ และมีการระบุเงื่อนไขแข่งขันต่างๆ ทว่า World Stage เปลี่ยนให้มันสามารถดูรายชื่อการแข่งขันได้ตามลิสต์เลย และมีบอกชัดเจนว่าจะต้องต่อสู้กับใคร ทำการไต่แรงก์ระดับไหนจึงจะเปิดร้านเกมร้านใหม่ให้เราไปตบเกรียนกันได้ เมื่อชนะเรื่อยๆ ก็จะได้รับชิ้นส่วนของสกินใหม่ด้วย คล้ายกับ Quest Mode นั่นแหละ แต่เมนูไม่ได้สับสนขนาดนั้น

ว่าด้วยความยากง่ายของ CPU ที่เราจะได้เจอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ถือว่าโหดจนอยากปาจอยหรือเหมือนกับลงแรงค์ในโหมดออนไลน์ครับ มันให้ความรู้สึกท้าทายพอให้เราได้ใช้เวลาในการปลดล็อกสกินและคู่ต่อสู้จนครบมากกว่า ซึ่งก็เป็นชั่วโมงอยู่เหมือนกัน และกลุ่มนักสู้ที่เก่งๆ แน่นอนว่าก็จะไปกองกันอยู่ในอาร์เคดร้านท้ายๆ มากกว่า ไม่ต้องกังวลอะไรกันมาก ไปถึงตอนนั้น ไอเทมการแต่งตัวก็น่าจะได้มากพอในระดับนึงที่สายฟรีจะปลดล็อกได้

[รีวิว] Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ผู้ปฏิวัติวงการเกมต่อสู้สามมิติทวงบัลลังก์

พูดถึงเครื่องแต่งกายแล้วก็อยากจะมาไว้ในหมวดนี้เลยเพราะเขาแพคมาด้วยกัน โดยปกติเกมภาค 5 Ultimate Showdown รองรับระบบแต่งตัวด้วย แต่ว่าจะมากับสกินทั้งชุดที่ต้องซื้อแยก และถ้าเกิดอยากได้เครื่องตกแต่งอื่นๆ ก็จะอยู่ใน DLC เหล่านั้นด้วย ทว่า World Stage จะมีชิ้นส่วนไอเทมหลากหลายร้อยชิ้นให้เราได้ปลดล็อกกันแบบฟรีๆ! และผมเองก็รู้สึกว่าชอบระบบแต่งตัวแบบนี้มากกว่า​ Tekken ในยุคหลังด้วยครับ

การแต่งตัวของ Virtua Fighter ให้ความสำคัญกับสกินที่ตัวละครต่างๆ สมควรจะใส่ ดังนั้นทุกไอเทมจึงได้รับการออกแบบเพื่อให้พวกเขาได้ใส่ตามที่กำหนดเท่านั้น หลายคนอาจรู้สึกว่าไม่อิสระเท่า Tekken ที่แก้กันได้ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม สำหรับภาคห้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็คือรองเท้าของตัวละครหนึ่งจะมีให้เลือกตามที่เป็นไซส์ของพวกเขาและเธอเลยนั่นเอง ไม่ได้เป็นเสื้อยืดมาตรฐาน เสื้อสูท ที่แชร์กันกับตัวละครทั้งหมด เวลาแต่งตัวเลยจะรู้สึกว่ามันมีความเข้ากันกับตัวละครนั้นๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่จะแต่งตัวแบบปั่นๆ ฮาๆ ไม่ได้ เพียงแค่อาจไม่ด้ระเบิดจินตนาการขั้นสุด

บาลานซ์ที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี สู่เวทีที่จะเป็นรากฐาน

Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ได้ปรับโฉมเกมครั้งใหญ่ด้วยบาลานซ์ที่เปลี่ยนใหม่ทว่ายังคงให้ความสำคัญกับการเล่นเป็นตัวละครใดแล้วต้องรู้สึกถึงการต่อสู้อย่างที่ตัวตนของพวกเขาเป็น ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในส่วนของท่าต่อสู้ใหม่และท่าที่ถูกรีมิกซ์เข้ามาจากเกมภาคเก่าๆ เท่านั้น แต่ว่ามีเรื่องของน้ำหนักตัวละครที่เราจะสังเกตได้ชัดว่า เมื่อนักสู้ที่มีมวลน้ำหนักต่างกันปะทะเข้าหากัน ก็จะเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาเบาเกินไปกันทุกตัวแบบในเกมเวอร์ชันเก่า

สิ่งที่อยากชมมากๆ สำหรับเกมนี้คือตัวละครทั้งหมดใน Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ไม่มีใครที่เป็นโคลนของกันและกันเลย พวกเขามีศิลปะการต่อสู้เฉพาะตัวทั้งหมด มีตั้งแต่ตัวละครที่เริ่มฝึกได้ง่าย ไปจนถึงตัวละครที่ดูเหมือนจะมีความตรงต่อจุดมากที่สุด แต่ใช้เกมเพลย์ที่ลึกที่สุด ไม่มีใครคิดว่าตัวละครที่เหมือนพระเอ๊กพระเอกอย่าง Akira จะกลายเป็นนักสู้ที่มีความท้าทายในการบังคับ อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าเกมมีเส้นแบ่งทักษะสูง ต้องใช้เวลาเรียนรู้กว่าจะชำนาญนะ อ้อ! เกือบลืมไป เกมเพิ่ม Dural ให้ใช้แล้วหลังถอดออกไปในภาค Ultimate Showdown แบบงงๆ ทั้งนี้ตัวละครไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แข่งขัน ความ OP เต็มพิกัด ไม่ได้นับให้อยู่ในบาลานซ์มาตรฐานครับ

[รีวิว] Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ผู้ปฏิวัติวงการเกมต่อสู้สามมิติทวงบัลลังก์

อย่างที่ได้พูดว่ามันจะเป็นรากฐาน ผมมีความรู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เป็นเพื่อให้ทุกคนได้รู้สึกคุ้นชินกับเกมมากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ภาคเน็กซ์เจ็นที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ และขณะเดียวกันมันก็ทำให้ Virtua Fighter 5 เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสดใหม่ และท้าทายในแง่มุมของการแข่งขันรูปแบบอีสปอร์ตที่ SEGA ได้นำกลับมาทำทัวร์นาเมนต์อีกครั้ง (แถมบ้านเราก็ยังมีโปรแกรมแข่งใน Thaiger Uppercut) และแม้เกมจะเข้าใจได้ง่ายมากๆ สำหรับคนเล่นสายแคชวลจนคนอาจมองว่านี่มันคือเกมเดาทาง แต่มันก็มีมิติมากพอ

ท้ายที่สุด ส่วนที่ทำให้เกมมีความทันสมัยยิ่งขึ้นก็คือภาคนี้ได้รับการอัปเกรดให้สามารถรองรับระบบออนไลน์แบบ Cross-platform แล้วด้วย ซึ่งผมไม่ได้ทดสอบกับผู้เล่นบนเครื่องเล่นอื่น แต่จากที่ลองเล่นกับเพื่อนบนเครือข่ายรวมทว่าก็เป็นผู้ใช้ PlayStation 5 ด้วยกันเอง รู้สึกว่าลื่นไหลดีกว่าภาค Final Showdown (ที่ขายในปี 2012) ระหว่าง Xbox ซึ่งต้องไม่ลืมว่าเกมเวอร์ชันนั้นไม่ได้ใช้เทคโนโลยี Rollback Netcode อย่างเดียวกันนะครับ

[รีวิว] Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage ผู้ปฏิวัติวงการเกมต่อสู้สามมิติทวงบัลลังก์

กราฟิกและเพลงประกอบ

นับตั้งแต่ภาค 5 Ultimate Showdown ที่เกมได้รับการออกแบบใหม่ด้วย Unreal Engine 4 เกมภาค R.E.V.O. World Stage ก็หยิบเอาพื้นฐานเดิมมาปัดฝุ่นให้คมชัดและลื่นไหลโมเดลและรายละเอียด ไม่ได้ดู Washed Out (มัว) แบบตอนเล่นบน PS4 เลยเล่นบนจอใหญ่ๆ ได้ดีกว่าเดิม ส่วนเพลงประกอบเองก็จะเป็นเพลงใหม่ยกเซ็ตตั้งแต่ภาคดังกล่าวแล้ว ขณะที่เพลงไอคอนิกจากภาคสามและสอง ก็เป็นส่วนหนึ่งของ DLC หรือชุดครบรอบ 30 ปี ที่สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้

ถ้าคุณรักเกมต่อสู้ Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage คืออีกหนึ่งผู้ท้าชิงที่ยอดเยี่ยม

การมาถึงของ R.E.V.O. World Stage ที่เป็นเหมือนร่างสุดยอดของเกมนี้แล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ใครสักคนจะหยิบเกมนี้มาเล่นกัน และด้วยราคาเริ่มต้นที่ถือว่าเป็นมิตรมากๆ แถมได้ทั้งคอนเทนต์ออฟไลน์ ออนไลน์ให้เล่นกันอย่างจุใจมากกว่าเดิม ทั้งนี้ในส่วนของการฝึกสอนมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องเรียนรู้เองแบบครูพักลักจำเพราะไม่ได้แนะนำวิธีเล่นแบบจับมือวางเหมือนเกมอื่นๆ ในตลาด กระนั้นไม่ได้เป็นปัญหาเลย เข้ามือง่ายมากเพียงแค่อาศัยเวลาในการฝึกให้ชำนาญ…. ด้วยตนเอง!

สำหรับใครที่สนใจ Virtua Fighter 5 R.E.V.O. World Stage สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้บน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC โดยผู้ใช้เวอร์ชัน R.E.V.O. บน PC สามารถอัปเดตเกมได้ฟรีเป็นเวอร์ชันใหม่ ส่วนเวอร์ชัน Ultimate Showdown บน PlayStation 5 จะมีค่าอัปเดตประมาณ 300 บาท ว่าแล้วอย่าลืมไปหาเล่นกัน และโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย

GantaroZX

นักข่าวเกมที่แต่งตัวโป๊ที่สุดในประเทศไทย
Back to top button