กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาผู้ใช้สมาร์ตทีวี LG ทั่วโลกถึงกับกุมขมับ เมื่อการอัปเดตซอฟต์แวร์ webOS รอบล่าสุดในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2025 ได้แอบติดตั้งไอคอน Microsoft Copilot ลงบนหน้าจอหลัก (Home Screen) โดยอัตโนมัติ และที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้ใช้พบว่ามันลบไม่ได้ทำได้เพียงแค่ซ่อนไว้เท่านั้น จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะใน Reddit ที่มีคนเข้าไปกดถูกใจโพสต์ร้องเรียนนี้กว่า 36,000 ครั้งเลย
หลังจากกระแสความไม่พอใจพุ่งสูงขึ้น ตัวแทนจาก LG ก็รีบออกมาสยบดราม่าทันที โดยชี้แจงว่าไอคอนที่เห็นนั้นไม่ใช่แอปที่ฝังลงเครื่องแต่เป็นเพียง Shortcut หรือทางลัดสำหรับเปิดใช้งาน Copilot ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ของทีวีเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าบริษัทให้ความสำคัญกับทางเลือกของผู้บริโภค และกำลังเตรียมปล่อยอัปเดตใหม่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลบไอคอนนี้ออกได้ถาวรหากไม่ต้องการใช้งาน
โฆษกของ LG ยังได้เสริมเพื่อความสบายใจของผู้ใช้ว่า แม้จะมีไอคอน AI ปรากฏขึ้น แต่ระบบจะไม่มีการแอบดักฟังหรือเข้าถึงไมโครโฟนโดยพลการ ฟีเจอร์รับคำสั่งเสียงจะทำงานก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้ให้ความยินยอมอย่างชัดเจนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนว่าอัปเดตที่จะยอมให้เรากดลบทิ้งนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ ทำให้ผู้ใช้ที่รำคาญใจต้องทนเห็นไอคอนนี้ไปอีกสักพักใหญ่
เหตุการณ์นี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับกรณีระดับตำนานในปี 2014 เมื่อ Apple เคยแอบยัดอัลบั้มเพลงของวง U2 ลงในคลัง iTunes ของผู้ใช้ทุกคนจนโดนด่าระงม ซึ่งบทเรียนนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้บริษัทเทคโนโลยีจะมองว่าสิ่งที่มอบให้คือของฟรีที่มีประโยชน์ แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว การยัดเยียดสิ่งใดก็ตามเข้ามาในอุปกรณ์ส่วนตัวโดยไม่ขออนุญาต ถือเป็นการละเมิดสิทธิในการควบคุมพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขา
นอกจากเรื่องไอคอนแล้ว เกมเมอร์และสายซีรีส์ยังขุดพบฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Live Plus หรือระบบจดจำเนื้อหาบนหน้าจอ (ACR) ที่ถูกเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น (Default-on) หลังการอัปเดต ซึ่งระบบนี้จะคอยเก็บข้อมูลว่าคุณดูอะไร เพื่อเอาไปปรับแต่งโฆษณาและบริการ AI ให้ตรงใจคุณมากขึ้น ยิ่งพอมาบวกกับการมี Copilot ฝังอยู่ด้วย ยิ่งทำให้ผู้ใช้กังวลว่าทีวีในบ้านกำลังแอบเก็บข้อมูลพฤติกรรมของเราไปมากแค่ไหน
บทสรุปของเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของยักษ์ใหญ่ฮาร์ดแวร์ที่อยากจะดันบริการ AI เข้าสู่บ้านเรือนให้เร็วที่สุดจนลืมนึกถึงความยินยอมของผู้ใช้ ในยุคที่ AI กำลังถูกผลักดันอย่างหนักในปี 2025-2026 นี้ กรณีของ LG จึงเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ใช้สมาร์ตทีวีต้องหมั่นเข้าไปตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ทีวีที่บ้านกลายเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลโดยที่เราไม่รู้ตัว
