[เปิดกรุเกมเก่า] Phantasy Star Online บุกเบิกแผ่นดินใหม่ในโลกต่างดาว

พูดถึงเครื่องเล่นเกม Dreamcast ของ SEGA แล้วสิ่งที่จะเข้ามาในหัวเป็นอันดับแรกคือพอร์ตสำหรับเสียบโมเด็มไว้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ถือว่าเป็นระบบที่มาก่อนกาลสุดๆ เพราะ SEGA ได้วางแผนให้เครื่องเล่นเกมรุ่นนี้เป็นผู้บุกเบิกระบบออนไลน์ในคอนโซลกันก่อนใคร และแน่นอนว่าพวกเขาทำได้จริง เวลาต่อมามีทั้งการปล่อย DLC, ช่องทางเข้าบราวเซอร์ และเกมออนไลน์ยอดฮิตหลายเกมทั้ง Bomberman และ Unreal Tournament

ประสบการณ์ออนไลน์ของ SEGA ไม่ได้มีเพียงแค่เกมเซสชันสั้นๆ ที่ทุกคนสามารถสนุกกันได้กับเพื่อนรอบโลกเท่านั้น แต่หมุดหมายสำคัญอย่างการจำลองโลกบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้เล่นได้เข้าไปผจญภัยด้วยกันก็คือ Phantasy Star Online ผลงานรูปแบบ MMORPG ที่นับว่าเป็นเกมคอนโซลเกมแรกของโลกที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดว้าวนี้และเดชะบุญความยิ่งใหญ่ของมันได้สร้างรากฐานให้ถึงปัจจุบัน วันนี้เอง ThisIsGame Thailand จะพาเพื่อนๆ ไปเปิดกรุเกมเก่ากับเกมนี้ให้ได้คิดถึงกันครับ

ถือกำเนิด MMORPG เกมแรกบนคอนโซล

ว่าตามตรงแล้วในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 เกม MMORPG ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ มีเกมจำนวนมากที่ได้เริ่มกรุยทางให้ตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะเป็น Evercast และ Ultima Online และเกมเหล่านี้ด้วยซ้ำไปที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Yuji Naka โปรดิวเซอร์มือทองของค่ายเกม SEGA และทาง Sonic Team ณ​ เวลานั้นปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าพวกเขาควรทำเกม MMORPG ของตัวเองในฐานะเกมคอนโซล (เพราะชื่อข้างต้นมันก็คือเกม PC) และต้องเป็นเกมของประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ Dreamcast ก็มีช่องทางเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพอดิบพอดี

พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการพัฒนาเกมนี้เพราะในปี 1999 ก็ได้มีการเปิดตัวแบบสาธารณะจนทำให้เกมเมอร์ญี่ปุ่นที่ ณ ตอนนั้นแทบไม่ได้เป็นสายออนไลน์ด้วยซ้ำ ลองนึกภาพดูว่าปกติคุณอาจจะเล่นเกมแค่ PS1 หรืออย่างมากสุดก็ปั่นจักรยานไปเล่นเกมกันที่บ้านเพื่อน แต่คราวนี้ตัวเราจะได้สร้างอวาตาร์ขึ้นมาบนโลกจำลองแนวไซไฟขนาดใหญ่ เดินไปไหนก็เจอคนคราคร่ำ แน่นอนว่าความคาดหวังก็พุ่งปรี๊ดอย่างรวดเร็ว จนในปี 2000 ได้รับการวางจำหน่ายพร้อมฟาดรางวัลและคำชมกันตั้งแต่ช่วงเปิดตัวเลยครับ

สู่การเดินทางอันยาวไกล

ในทุกๆ แผ่นของ Phantasy Star Online จะมาพร้อมกับแผ่นซีเรียลนัมเบอร์และ Access Key ที่เป็นรหัสเฉพาะตัวคล้ายๆ กับการล็อคอินเลยครับ และรหัสเหล่านี้มีความสำคัญที่จะต้องใช้เพื่อสร้างบัญชีของ Hunter’s Guild (จำชื่อไม่ได้ชัดเจนแฮะ) จากนั้นพอใส่รหัสได้เสร็จสรรพ จะด้วยจอยเกมหรือคีย์บอร์ดก็ตามแต่ เราจะเข้าผ่านฉากโหลดหน้าจอที่ดูล้ำมากๆ เป็นเหมือนแสงไฟสีขาวตรงหน้าแล้วก็การวาร์ปข้ามอวกาศ จนมาถึงการสร้างตัวละคร!

สิ่งที่รู้สึกว่าแปลกกว่าเกมออนไลน์อื่นๆ ก็คือ เราจะไม่ได้เลือกแค่เพศและคลาสเท่านั้น แต่ผู้เล่นจำเป็นต้องเลือก เผ่าพันธุ์ของตัวเอง แล้วก็ถึงจะเป็นอาชีพ ซึ่งการผสมผสานระหว่างเพศ เผ่า และอาชีพ จะส่งผลต่อสไตล์การเล่นของเราชัดเจนมาก เช่น มนุษย์ที่เป็นสายสมดุล, มนุษย์พันธุ์ใหม่ (Newmans) ที่เน้นการใช้ Tech และฟื้นค่า TP ได้ หรือจะเป็นแอนดรอยด์ที่มีเพิร์คกันการติดสถานะพิษและอัมพาต ส่วนคลาสก็จะเป็นเรื่องการใช้อาวุธตีใกล้ตีไกล อย่างไรเสียอาวุธเราไปเก็บตามดรอปหรือซื้อหาได้

บรรยากาศและการเข้าเมนูมันให้ความรู้สึกล้ำมากๆ คือมันไม่ได้ดูเป็น Aerofrutiger หรือฟ้าๆ ใสๆ นะครับ แต่เป็นเหมือนเวลาเราตั้งค่าธีมดาร์กในมือถือและแท็บเล็ต ผสมกับสีโทนเย็น และเพลงประกอบที่เป็นรูปแบบไซไฟจ๋า ณ ตอนนั้นมันมีความสดใหม่มาก ไม่ต้องอาศัยความเป็นมิลลิเนียมวับๆ เงาๆ เลย พอเข้ามาแล้วก็จะเป็น Hub World หรือยานไพโอเนียร์ที่เป็นศูนย์รวมของทั้งจุดรับเควสต์ พ่อค้า เช่นเดียวกับที่พบปะของผู้เล่นที่เราหยิบคีย์บอร์ดขึ้นมาพิมพ์ข้อความได้ เวลาคนเขาหาตี้ แลกซื้อของ ก็ทำตรงนี้ได้เลย

จากนั้นเราจะสามารถทำเควสต์ได้โดยการเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สาวที่ Hunter’s Guild ที่เป็นอาคารหลัก และก็เข้าสู่ลูปของการทำเควสต์เนื้อเรื่องครับ ซึ่งแต่ละเควสต์จะพาเราไปยังสถานที่ต่างๆ (หรือถ้าไม่รับเควสต์ เราก็เข้าไปตีมอนเล่นฟาร์มเพลินๆ ได้ตามพื้นที่ที่ได้ปลดล็อก) และ Phantasy Star Online ภาคแรกมีจุดเด่นที่การเล่าเรื่องเหมือนกับเกม RPG ดั้งเดิมเพราะมันมีเส้นเนื้อเรื่องชัดเจนแบบเกมต้นฉบับ ทว่าก็เพิ่มองค์ประกอบการเล่นหลายคนเข้ามา เราเลยไม่ได้มีอิสระ ‘มาก’ เท่ากับเกมยุคใหม่ๆ ที่จะเห็นฉากโอเพนเวิลด์และคนเดินไปมาเยอะๆ อันนี้ก็ด้วยเทคโนโลยีมันด้วยแหละเนอะ

จะว่าไปแล้วผ่านมาตั้งนานไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องเลย อย่างที่บอกว่า Phantasy Star เป็นแฟรนไชส์เกมใหญ่ของ SEGA ในตอนนั้นอยู่แล้ว แถมมีออกมาให้เล่นหลายภาคด้วยซ้ำ ในภาคออนไลน์นี้มีความแปลกใหม่อีกอย่างคือไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับเรื่องในเกมเก่าๆ เลยครับ ทำให้ทุกคนสามารถทำความรู้จักและติดตามเนื้อหาได้สะดวกมาก แถมยังย่อยง่ายด้วย เกมวางเรื่องคร่าวๆ ว่าโลกของเราได้ถูกทำลาย ทำให้มนุษย์ (และเผ่าอื่นๆ) ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานมาด้วยยานอวกาศไพโอเนียร์ ที่แปลว่าผู้บุกเบิก ไปตามหาสถานที่ใหม่ที่จะอาศัยได้ และยานนั้นดันเกิดปัญหาขึ้น ทำให้เราที่เป็นผู้ที่อยู่ในยานลำดับสองต้องไปสืบหาจนกระทั่งพัวพันกับเรื่องต่างๆ นั่นเอง

ต่อให้เป็นเกมออนไลน์บนคอนโซล แต่โครงสร้างของเกมถือว่าแข็งแรงมากแม้มีข้อจำกัดด้านสเปค Phantasy Star Online ได้รับการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ต่อเนื่องเลยครับ กระนั้นมันก็ต้องซื้อแผ่นใหม่เนอะ (ฮา) โดยเวอร์ชันถัดมาได้เพิ่มดันเจี้ยน ปรับบาลานซ์ มีการอัปเลเวลด้วย และเป็นเวอร์ชันพื้นฐานให้กับ PC เช่นเดียวกับคอนโซลอื่นๆ ในภายหลัง แต่สำหรับเวอร์ชันคอนโซลที่แพตช์ก้าวหน้าสุดเห็นทีจะเป็น GameCube ที่เป็นพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งมากๆ ของ SEGA ในช่วงต้นยุค 2000s เพราะมีเนื้อหาพิเศษให้เล่นกันในภาคแยกรูปแบบเทิร์นเบส – การ์ดด้วยครับ

เบื้องหลังที่ Phantasy Star Online ทิ้งไว้

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Dreamcast เป็นผู้แพ้ในสงครามคอนโซลตั้งแต่เจ็นเนอเรชันที่ห้ายังไม่ทันจะเริ่มต้นดีด้วย ไม่มีรายงานออกมาว่าเกม Phantasy Star Online บนเครื่องเล่นแห่งความฝันนี้สามารถทำรายได้ได้มากน้อยเพียงใด แต่จากจำนวนยอดจำหน่ายของเครื่องที่ประมาณ 9 – 10 ล้านเครื่อง ดูท่าว่าผลตอบรับอาจไม่ได้เป็นที่ประทับใจมากนักจนมีการพอร์ตสู่คอนโซลอื่นรวมไปถึง PC ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม รู้หรือไม่ว่า Phantasy Star Online บน Dreamcast มีอายุยืนกว่าที่หลายคนอาจจะจินตนาการได้ครับ เพราะความจริงแล้วเกมนี้มีการเปิดให้บริการต่อเนื่องเบื้องหลังกันถึงปี 2007 เลยทีเดียว ถึงจะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ ณ ตอนนั้นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตก้าวหน้ามากโขแล้ว เรามี iPhone แล้ว เรามี Wi-Fi แล้ว เรามีเครื่องเล่นความละเอียดสูงทั้ง Xbox 360 และ PlayStation 3 ที่เป็นเครื่องเล่นเกมที่สามารถเล่น GTA V ได้แล้ว พอนึกดูว่า Dreamcast ยังมีผู้เล่นที่เกาะติดเหนียวแน่นถึงตอนนั้นก็น่าขนลุก

บทต่อไปของเหล่าผู้บุกเบิก

สำหรับ Phantasy Star Online ภาคแรกในเวอร์ชันที่มีการให้บริการยาวนานสุดก็คือ Blue Burst ที่กลายเป็นมาตรฐานให้กับภาคสองที่ได้รับความนิยมมากจนถึงปัจจุบัน โดย Blue Burst ในปัจจุบันก็กลับบ้านเก่าไปแล้วแต่ยังคงมีแฟนเกมที่ทำการสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวกัน และมีฐานผู้เล่นในหลักพัน – ร้อย เช่นเดียวกับอีเวนต์ต่อเนื่อง อย่างคริสต์มาสที่จะถึงเนี่ยเป็นต้น ส่วนใครที่ยังคงมีแผ่นเกม Dreamcast เอาไว้อยู่ ก็ยังสามารถดัดแปลงให้จูนเซิร์ฟเวอร์มาเข้าเซิร์ฟออนไลน์ใหม่นี้ได้ด้วย!

สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นสายโมดิฟายที่ชอบงัดแงะแกะเก่า หากถ่านนาฬิกาของ​ Dreamcast และ GameCube ยังไม่หมด เราก็ยังสามารถเข้าไปสนุกกับเกมได้ในแคมเปญออฟไลน์ที่จัดเตรียมเควสต์และบาลานซ์สำหรับการเล่นคนเดียวได้ โดยเฉพาะกับ GameCube ที่รองรับแม้กระทั่งการแบ่งหน้าจอเล่น (ฮา) ว่าแล้วก็น่าสนใจทีเดียวหากเกมออนไลน์สมัยใหม่จะมีแผนการสนับสนุนหรือคิดคำนวณว่าในกรณีที่ต้องปิดตัวลง ในฐานะเกมที่ขายด้วยราคาพรีเมียมคุณจะรองรับความต้องการของคนที่เสียดายความสนุกของตัวเองอย่างไรน้า…