14 เกมยอดเยี่ยมประจำปี 2025 ที่คุณไม่ควรพลาด

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก็ถือว่ามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเช่นเดียวกับวงการเกมที่ปีนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษกับกองทัพเกมที่เสิร์ฟให้เราเล่นตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี โดยวันนี้เอง ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดครับที่จะขอพาเพื่อนๆ มาย้อนปฏิทินดูเกมสนุกๆ หลายเกมในปี 2025 ที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกคนได้สนุกกันส่งท้ายปี แต่จะมีเกมอะไรบ้างนั้นว่าแล้วอย่ารอช้าขอเชิญมาติดตามกันเลย

1. Doom: The Dark Ages

เกมภาคนี้เป็นเรื่องราวรูปแบบต้นกำเนิดที่พูดถึง Doom Slayer วีรบุรุษในตำนานผู้ได้ชื่อเป็นนักล่าปีศาจที่ต่อสู้อย่างไม่ลดละเพื่อปราบเหล่าปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก โดยเรื่องราวในเกมเล่าย้อนกลับไปเป็นเวลาหลายปีเมื่อครั้งที่โลกยังคงเป็นยุคอัศวิน พร้อมถ่ายทอดความสนุกของเกมเพลย์ที่แปลกใหม่เช่นการใช้โล่ในการต่อสู้ ผสมผสานกับอาวุธทันสมัยฉีกแนว และการขี่มังกรไล่ล่าท่ามกลางบรรยากาศของสงครามยุคกลางที่ไม่เคยนำมาใช้เป็นธีมในเกมแฟรนไชส์นี้มาก่อน

2. Kingdom Come: Deliverance II

เกมแนวแอ็กชันที่พาผู้เล่นเดินทางไปสู่โลกยุคโบราณในฐานะ Henry แห่ง Skalitz ผู้กล้าที่ต้องพบกับเหตุการณ์วัดใจที่เต็มไปด้วยการทรยศหักหลัง มิตรภาพ และความท้าทายของการผจญภัยในการบุกเบิกชีวิตใหม่จากพ่อค้าสู่กษัตริย์ท่ามกลางโลกยุคกลางที่โหดร้ายแต่สวยงาม ซึ่งโลกโอเพนเวิลด์ของเกมได้ออกแบบมาให้มีรายละเอียดมากมายทั้งป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี ทุ่งสนามรบรกร้าง เมืองที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน

3. Split Fiction

เกมรูปแบบแอ็กชันผจญภัย Co-op ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Mio และ Zoe สองนักเขียนนิยายที่หลงเข้าไปติดอยู่ในเรื่องราวของตนเอง โดยคนหนึ่งก็เป็นนักเขียนสไตล์ไซไฟ อีกคนก็เป็นสไตล์แฟนตาซี แต่ทั้งคู่มีพลังที่สามารถกระโดดข้ามมิติของนิยายตนเองเพื่อตะลุยฝ่าอุปสรรคต่างๆ ได้ และทั้งสองโลกก็ล้วนมีรูปแบบการนำเสนอเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน แต่จุดมุ่งหมายเดียวของทั้งคู่คือจะต้องรอดชีวิตและพ้นจากเหตุการณ์ชวนเหวอนี้ให้ได้

4. Dragon Quest I & II HD-2D Remake

ครบตำนานโรโตะแล้ว กับการพัฒนาเกมยุค Famicom ขึ้นมาใหม่ด้วยกราฟิก HD-2D สำหรับเนื้อเรื่องเกมภาคแรก ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้กล้าของอาณาจักร Alefgrad ที่ได้รับภารกิจในการช่วยเหลือบ้านเมืองจากการรุกรานของปีศาจและตามหาเจ้าหญิงที่ถูกจ้าวแห่งมังกร Dragonlord จับตัวไป ขณะเดียวกันภาคสองได้รับการบอกเล่าเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาคแรกเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี พูดถึงเจ้าชายแห่ง Midenhall ที่ต้องออกไล่ล่าพ่อมด Hargon ที่เข้ามาทำลายเมืองนั่นเองครับ

5. Donkey Kong Bananza

เกมแอ็กชันผจญภัยรูปแบบโอเพนเวิลด์ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Donkey Kong เจ้าจ๋อสุดเกรียนในการเดินทางหฤโหด ใช้ทักษะการต่อยตี ทุบทำลายโขดหินหรือหน้าผาตรงหน้าให้สิ้นซาก สำรวจในฉากขนาดใหญ่ที่กว้างสุดลูกหูลูกตารอการค้นพบ โดยจะมีทั้งดันเจี้ยนสามมิติ และฉากการเล่นแบบ 2.5D ที่ให้อารมณ์คลาสสิกในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังได้ทีมพัฒนาเดียวกับเกม Super Mario ภาคใหม่มาดูแลโดยเฉพาะครับ

6. Monster Hunter Wilds

เกมแอ็กชันรูปแบบการไล่ล่าสัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมค้นคว้าที่เดินทางมายังดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งร่วมกันพรรคพวกคือ Alma และ Palico เจ้าเหมียวคู่ใจ เช่นเดียวกับเด็กปริศนา โดยพื้นที่ในเกมจะมีระบบที่เรียกว่า Multi-dimensional Biomes นั่นหมายความว่า ไบโอมแต่ละแห่งอาจเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งทะเลทราย หรือทุ่งหญ้า ที่สำคัญรองรับครอสเพลย์ด้วยนะ

7. Silent Hill f

เกมสยองขวัญเอาตัวรอดเชิงจิตวิทยาภาคใหม่ล่าสุดที่มีเรื่องราวอยู่ในคริสต์ทศวรรษ 1960 เมื่อเด็กสาวมัธยมปลายคนหนึ่งชื่อว่า ฮินาโกะ ค้นพบว่าเมืองอันเป็นบ้านเกิดอย่าง เอบิซึกาโอกะ ได้ถูกหมอกปริศนาปกคลุมไปทั่ว พร้อมกับสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดราวฝันร้ายที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เธอจะต้องหาทางหนีออกมาและเผชิญหน้ากับพวกมอนสเตอร์เหล่านี้ เช่นเดียวกับไขปริศนาความเป็นไปของเมืองที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

8. Fantasy Life i: The Girl Who Steals Time

เกมรูปแบบ Life Sim ผสมผสาน RPG เราจะได้เดินทางมายังเกาะอันเป็นที่ตั้งอาณาจักร Revelia ซึ่งมีปริศนาลึกลับซุกซ่อนอยู่ และขณะเดียวกันก็มีมังกรตัวใหญ่กับหญิงสาวผู้ควบคุมเวลาปรากฏตัวขึ้นด้วย ผู้เล่นจะสามารถสร้างอวาตาร์เป็นของตัวเอง ทั้งทรงผม หน้าตา และเลือกใช้ชีวิตในอาชีพต่างๆ จาก 14 อาชีพ เช่นพาลาดินที่มีสกิลของนักรบ ช่างตัดไม้ที่สามารถเก็บไม้มาเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือกุ๊กที่มีทักษะการทำอาหารขั้นสุดยอด ออกผจญภัยแบบออนไลน์ไปด้วยกันสไตล์ Co-op ช่วยกันสร้างบ้านทำฟาร์มกันได้

9. Assassin’s Creed Shadows

ภาคใหม่ของเกมแฟรนไชส์ภาคีนักฆ่าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาคอื่นของซีรีส์นี้โดยตรง ซึ่งเรื่องราวจะให้เรารับบทเป็นตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงตามประวัติศาสตร์คือ Yasuke นักรบแอฟริกันที่เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้ติดตามของไดเมียวมือฉกาจ Nobunaga Oda ถือว่าเป็นภาคที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ ที่สำคัญจะเป็นภาคแรกที่มาพร้อมประสบการณ์ Animus ที่เป็นเหมือนเกตเวย์สู่ประสบการณ์ Assassin’s Creed ในอนาคต

10. Ghost of Yōtei

ภาคต่อของเกมแอ็กชันผจญภัยชื่อดังจากปี 2020 ที่จะพาเราไปรับบทเป็น Atsu โรนินหญิงผู้เดินทางในหุบเขาโยเทย์เพื่อภารกิจแห่งการล้างแค้นเหล่าซามูไรที่เคยคร่าชีวิตครอบครัวของเธอ โดยเรื่องราวจะอยู่ในปี 1603 และนำเสนอเกมเพลย์แบบมุมกล้องบุคคลที่สามเช่นเดิม พร้อมกับอาวุธใหม่ๆ มากมาย สำหรับปีหน้าจะมีอัปเดตคอนเทนต์ Legends ที่เป็นเนื้อหา Co-op ฟรีให้โหลดด้วย

11. ELDEN RING NIGHTREIGN

เกมรูปแบบแอ็กชัน Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ​ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา ซึ่งตัวละครต่างๆ จะมีรูปแบบการนำเสนอสไตล์เกมเพลย์ที่ต่างกันด้วย

12. Clair Obscur: Expedition 33

เกมแนว RPG เทิร์นเบสแบบเรียลไทม์ที่ผู้เล่นเป็นกลุ่มนักเดินทางที่ได้รับมอบหมายในการตามหา The Paintress วายร้ายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักวาดเขียนที่จะบัญญัติตัวเลขอายุในทุกๆ ปี เพื่อคร่าชีวิตบุคคลใดๆ ในอายุดังกล่าวให้หายไป และในปีนี้คือเลข 33 จึงทำให้ทุกคนต้องร่วมมือกันตามหาผู้อยู่เบื้องหลังและกำจัดเธอทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิปโยคอีกเป็นครั้งที่สอง โดยระบบการเล่นจะเป็นการป้อนคำสั่งเพื่อต่อสู้กับศัตรู และสามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกหรือต่อสู้กลับทำคอมโบได้ในเวลาเดียวกัน

13. ARC Raiders

เกมแนว Extraction Shooter PvPvE ให้เราร่วมมือกับเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ต่อสู้กับ ARC กองทัพหุ่นยนต์จากนอกโลก พร้อมตามหาไอเทมสำคัญและรอดตัวออกมาจนจบ โดยตัวเอกจะเป็นกลุ่มผู้ต่อต้านที่ต้องการต่อสู้กับภัยร้ายต่างดาวเพื่อปกป้องมนุษยชาติ แผนที่ในเกมมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นย่านอุตสาหกรรมรกร้าง ป่าใหญ่ ซึ่งทุกที่จะมีจุดเด่นและรองรับเทคนิคการต่อสู้ที่แตกต่างกันไป

14. The Legend of Zelda: Breath of the Wild & Tears of the Kingdom – Nintendo Switch 2 Edition

แม้จะไม่ใช่เกมใหม่แต่ขอบอกว่าการรีมาสเตอร์ครั้งใหญ่ด้วยเวอร์ชันอัปเกรดครั้งนี้ของเกมทั้งสองภาค ทำให้ Zelda กลับมาเป็นเกมที่น่าเล่นมากๆ อีกครั้ง ด้วยการรองรับภาพความละเอียดที่สูงขึ้นกว่าเดิม คมกริบบาดตาและเฟรมเรต 60FPS วิ่งนิ่งๆ กันได้เสียที โดยเฉพาะเคสหลังที่มีปัญหาเรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์บนรุ่นแรก ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีทั้งสองเวอร์ชันใหม่นี้ยังได้รับคะแนน Metacritic ที่สูงมากๆ เช่นกัน ใครมีเครื่องและตลับเก่า ขอบอกว่าถึงเวลาหยิบมาเล่นใหม่นะจีะ