Google เริ่มปล่อยฟีเจอร์ช้อปปิ้งใหม่ที่เคยประกาศในงาน Google I/O โดยครั้งนี้เน้นการใช้ Generative AI เพื่อทำให้การซื้อของออนไลน์สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปลายปีที่ผู้คนต้องหาของขวัญอย่างเร่งด่วน ฟีเจอร์เหล่านี้จะทยอยเปิดให้ใช้งานในสหรัฐฯ ก่อนภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ฉลาดและรวดเร็วกว่าเดิม
ฟีเจอร์หลักคือ AI Mode สำหรับช้อปปิ้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สอบถามคำถามซับซ้อน เช่น ซื้อของเล่นอะไรดีให้เด็กอายุ 8 ขวบที่ชอบหุ่นยนต์ AI จะตอบแบบละเอียดพร้อมคำแนะนำ ตารางเปรียบเทียบสินค้า หรือไกด์ช่วยตัดสินใจ โดยดึงข้อมูลจาก Shopping Graph ของ Google ที่ครอบคลุมร้านค้าและสินค้านับพันล้านรายการ อย่างไรก็ตาม Google เตือนว่าผลลัพธ์จาก AI อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง
ด้านโฆษณา Google ยืนยันว่าเนื้อหาใน AI Mode จะมีโฆษณาแทรกคล้ายผลการค้นหาปกติ เพื่อรักษาระบบเศรษฐกิจของแพลตฟอร์ม แต่ในแอป Gemini ซึ่งมีฟีเจอร์ช้อปปิ้งเช่นกัน จะยังไม่มีโฆษณาปนเปื้อนในผลลัพธ์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่บริสุทธิ์มากกว่า
อีกฟีเจอร์น่าจับตาคือ agentic checkout หรือระบบช่วยตรวจสอบและซื้อสินค้าอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถตั้งราคาที่ต้องการไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาตกลงตามเงื่อนไข Google จะแจ้งเตือนทันที และผู้ใช้กดอนุมัติเพื่อให้ระบบซื้อผ่าน Google Pay ได้เลย โดยปัจจุบันรองรับร้านค้าบางแห่ง เช่น Chewy Wayfair และร้านบน Shopify ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ
จุดเซอร์ไพรส์คือการกลับมาของ Google Duplex หลังหายไปจาก Google Assistant มาระยะหนึ่ง คราวนี้ Duplex ได้รับการอัปเกรดด้วยโมเดล Gemini และถูกนำมาใช้เพื่อโทรหาคำสั่งแทนผู้ใช้ โดยเฉพาะการตรวจสอบสต็อกสินค้า เมื่อค้นหาสินค้าใกล้บ้าน ระบบจะเสนอตัวเลือกให้ Google โทรไปยังร้านค้า โดย Duplex จะแนะนำตัวว่าเป็น AI อย่างสุภาพ แล้วสรุปผลกลับมาเป็นข้อความหรืออีเมล
ฟีเจอร์ Duplex เวอร์ชันใหม่จะเริ่มในหมวดของเล่น เครื่องสำอาง และอิเล็กทรอนิกส์ก่อน และใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐฯ ชั่วคราว แต่ทุกอย่างชี้ชัดว่า Google กำลังผลักดันช้อปปิ้งด้วย AI แบบเต็มสูบในเทศกาลปลายปีนี้ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคใช้เวลาน้อยลงแต่ได้ของที่ตรงใจมากขึ้น
