
พนักงาน Electronic Arts (EA) กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่ หลังผู้บริหารออกนโยบายชัดเจนให้ใช้ AI ในทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเขียนโค้ด สร้างอาร์ตคอนเซ็ปต์ หรือแม้แต่ช่วยผู้จัดการให้คำแนะนำในการพูดเรื่องละเอียดอ่อน เช่น การขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่ง รายงานจาก Business Insider ที่สัมภาษณ์พนักงานปัจจุบันหลายคนแบบไม่เปิดเผยชื่อ ชี้ว่าบริษัทผลักดันนโยบายนี้มาตลอดปี โดยพนักงานกว่า 15,000 คนทั่วโลกต้องหันมาใช้เครื่องมือ AI เป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวัน
แทนที่จะทำให้งานง่ายขึ้น พนักงานหลายคนกลับพบว่า AI ที่บริษัทบังคับใช้ เช่น ชัตบอต ReefGPT สร้างโค้ดผิดพลาดและ hallucinations จำนวนมาก จนต้องกลับมาแก้ไขด้วยมือ ส่งผลให้งานเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง นักพัฒนาในทีมครีเอทีฟกังวลหนัก เพราะต้องสอน AI ด้วยผลงานของตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดความต้องการศิลปินตัวจริงในอนาคต “เรากำลังป้อนงานศิลปะของเราให้ระบบที่อาจมาแทนที่เรา” ศิลปินคนหนึ่งบอกกับสื่ออย่างเหนื่อยใจ

อดีตพนักงาน Respawn Entertainment เจ้าของ Apex Legends และ Star Wars Jedi เผยว่าการเลิกจ้างกว่า 100 คนในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ อาจเชื่อมโยงกับการใช้ AI สรุปความคิดเห็นจากผู้เล่นทดสอบเกม ซึ่งเป็นงานหลักของเขา Business Insider ยังได้เอกสารภายในที่ระบุว่าพนักงานบางส่วนถูกบังคับเข้าเรียนคอร์สฝึก AI และใช้ทุกวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมอง AI เป็น “เพื่อนร่วมคิด” ที่ให้คำปรึกษาแม้เรื่องละเอียดอ่อน เช่น วิธีปฏิเสธเลื่อนตำแหน่งโดยไม่ทำให้พนักงานรู้สึกแย่
แม้ EA จะยอมรับในรายงานต่อ SEC เดือนพฤษภาคมว่ากำลังผสาน AI เข้ากับทุกกระบวนการธุรกิจ แต่ก็เตือนถึงปัญหาจริยธรรมและชื่อเสียงที่อาจเกิด หากใช้ไม่เหมาะสม ข้อมูลจาก GDC 2025 ชี้ว่า 52% ของนักพัฒนาเกมทั่วโลกทำงานในบริษัทที่ใช้ AI สร้างคอนเทนต์แล้ว และแนวโน้มยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บน X พนักงานและสื่ออย่าง Insider Gaming รายงานว่ามีการล้อเลียนนโยบายนี้ใน Slack ด้วยมีมประชดประชัน
กระแสต่อต้านนี้สะท้อนช่องว่างระหว่างผู้บริหารที่มอง AI เป็นเครื่องมือเพิ่มผลผลิต กับพนักงานที่เห็นเป็นภาระและภัยคุกคามงาน โดยเฉพาะหลัง EA ถูกเทคโอเวอร์ในดีล 55 พันล้านดอลลาร์ ทำให้การกดดันใช้ AI ยิ่งเข้มข้น หากไม่ปรับสมดุล อาจนำไปสู่ปัญหาคุณภาพเกมและการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรในวงการ







