อดีตผู้พัฒนา Metal Slug เผยสตูดิโอ SNK มีธรรมเนียม ‘ชกกำแพง’ ในออฟฟิศเพื่อระบายความเครียด
วัฒนธรรมการทำงานที่ไม่ธรรมดาของเพื่อนร่วมงานในยุค 90s ซึ่งเต็มไปด้วยความเครียด
ในยุค 90s ที่วงการเกมญี่ปุ่นเฟื่องฟูสุดขีด เบื้องหลังความสำเร็จของเกมคลาสสิคหลายเกมกลับเต็มไปด้วยแรงกดดันและชั่วโมงทำงานมหาศาล ล่าสุด Akio Oyabu อดีตศิลปินจากทีมพัฒนา Metal Slug ได้ออกมาเล่าถึง “วัฒนธรรมการทำงานสุดแปลก” ของเพื่อนร่วมงานในบริษัท SNK ที่ถึงขั้นต้อง “ชกกำแพงในออฟฟิศ” เพื่อระบายความเครียดจากงาน
เมื่อทีม Metal Slug เข้าร่วม SNK และพบวัฒนธรรม “ชกกำแพง”
Akio Oyabu (หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Akio” บนโซเชียลมีเดีย) ได้ย้อนเล่าผ่านโพสต์บน X ถึงช่วงเวลาที่เขาและทีมพัฒนาจาก Irem ต้องย้ายเข้ามาทำงานกับ SNK หลังจากบริษัทเดิมปิดตัวลง ซึ่ง SNK ได้ยื่นมือช่วยรับทีมเข้ามาร่วมงานที่สำนักงานใหญ่ในย่าน Esaka เมืองโอซาก้า
แม้ตัวอาคารภายนอกของ SNK จะดูใหญ่โตหรูหรา แต่เมื่อก้าวเข้าไปข้างในกลับพบว่า “บรรยากาศเหมือนตรอก Pigsty ในหนัง Kung Fu Hustle” ห้องทำงานดูมืด หม่น และมี รอยหมัดเจาะทะลุกำแพง อยู่หลายจุดทั่วออฟฟิศ
เมื่อทีมของเขาสงสัยและถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลที่พาเดินชมอาคารว่าเกิดอะไรขึ้น เขาได้รับคำตอบว่า “รอยพวกนั้นคือรอยหมัดของพนักงานเวลาระบายความเครียดครับ” ซึ่งจุดที่น่าประหลาดใจก็คือทางประธานของ SNK ในตอนนั้นไม่ได้โกรธเลย กลับหัวเราะพร้อมพูดว่า “ก็ดีแล้วนี่ แสดงว่าพวกเขายังเต็มไปด้วยพลัง”
แนวคิดนี้กลายเป็นเรื่องเล่าที่สะท้อนวัฒนธรรมการทำงานในยุคที่แรงกดดันสูงและการทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องปกติในวงการเกมญี่ปุ่นช่วงทศวรรษ 90s
เวลาผ่านไปไม่กี่ปี ธรรมเนียมแปลกนี้ก็เริ่มแพร่กระจายไปถึงทีม Metal Slug ด้วยเช่นกัน Akio เล่าว่าในออฟฟิศแผนกพัฒนาเกม “ที่สี่” ของพวกเขา จู่ ๆ ก็มีรูขนาดใหญ่โผล่ขึ้นบนกำแพง ผลงานของ Kazuma Kujo ดีไซเนอร์ของ Metal Slug ซึ่งในตอนนั้นได้เตะกำแพงเข้าอย่างจังด้วยความโมโห
“ดูจากขนาดของรูที่เขาเตะไว้ ผมว่าความโกรธของเขาน่าจะรุนแรงกว่าทุกคนในบริษัทเลยล่ะ” Akio กล่าวติดตลก และเพื่อปกปิดรอยนั้น Kujo ถึงกับนำปฏิทินขนาดใหญ่ไปแปะทับไว้ แล้วอ้างกับคนอื่นว่า “มันเป็นอุบัติเหตุจากการตกเก้าอี้แล้วหัวชนกำแพง”
ในตอนท้ายของโพสต์ Akio ทิ้งข้อความที่สะท้อนอารมณ์ขันปนความคิดถึงว่า “การเป็นนักพัฒนาเกม คุณต้องมี ‘ความหลงใหล’ มากพอ… มากจนบางครั้งถึงขั้นทำลายข้าวของได้เลย”
ก็ต้องบอกว่าเรื่องเล่าจาก Akio Oyabu อาจฟังดูขำ ๆ แต่ก็สะท้อนความจริงของวงการเกมในยุคทอง ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันจากเวลาและความคาดหวังสูงสุดในการสร้างผลงานระดับตำนานอย่าง Metal Slug หรือ Fatal Fury ขึ้นมา
แม้ว่าทุกวันนี้วัฒนธรรม “ชกกำแพง” คงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในออฟฟิศอีกต่อไป แต่เรื่องราวนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำของยุคที่ทีมพัฒนาเกมญี่ปุ่น “ทำงานด้วยใจและแรงกายแบบเต็มร้อย” แม้จะต้องเจ็บมือไปบ้างก็ตาม (ฮา…)
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
