สิ้นสุดการรอคอย! Nintendo ประกาศกาศวันเปิดตัว eShop และบริการ NSO ประเทศไทย
มาพร้อมกันทั้งสโตร์ และบริการออนไลน์สุดคุ้ม ไม่ต้องบินอีกต่อไป!

เรียกได้ว่ามาตามนัดจริงๆ สำหรับการประกาศให้บริการ Nintendo eShop และ Nintendo Switch Online (NSO) ซึ่งก่อนหน้านี้ทางค่ายเกมอารมณ์ดีสีแดงได้เคยแง้มๆ ว่าจะตามมาให้ใช้ภายในช่วงหลังวางจำหน่าย Nintendo Switch 2 เป็นเวลาไม่นาน และเช้าของวันนี้ ก็ได้ลงล็อคให้เรากาคิวในปฏิทินเป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีกำหนดอยู่ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปนั่นเองครับ
ในวันเดียวกัน จะมีการใช้งานดังต่อไปนี้คือ Nintendo eShop ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์สำหรับการซื้อและดาวน์โหลดเกมรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลด เช่นเดียวกับเนื้อหา DLC รวมไปถึงเดโมพิเศษที่จะมีเปิดให้ทดลองเล่นกัน ขณะเดียวกัน Nintendo Switch Online จะเป็นการเปิดโลกอินเทอร์เน็ตสำหรับเกมต่างๆ ที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็น Mario Kart World, Drag X Drive หรือเกมจากค่าย 3rd-party ที่สนับสนุนอย่าง Sonic Racing CrossWorlds และ Little Nightmares III เป็นต้น อีกทั้งยังมีการใช้ Cloud Save และเกมเรโทรตั้งแต่ Famicom มาจนถึง GameCube และ GameBoy

เติมสิทธิ์ Expansion Pack ได้คุ้มทั้งเกมเรโทร, DLC และอัปเกรดเกม Switch 2 ฟรี
หลังจากนี้ก็ต้องรอติดตามกันไปว่าบริการที่ผูกเข้ากับ Nintendo Switch Online ทางสมาร์ทโฟนจะตามมาด้วยหรือไม่ โดยจะมีถึงสองแอปพลิเคชันที่ ณ ปัจจุบันในเวลาที่กำลังเขียนข่าวนี้ยังคงอยู่ในต่างประเทศเท่านั้น ดังนี้คือ Nintendo Today แอปพลิเคชันข่าวสารประจำวัน และ Nintendo Music แอปพลิเคชันการฟังเพลงประกอบจากวิดีโอเกมที่เป็นสิทธิ์ส่วนหนึ่งของ NSO ที่สำคัญที่สุดคืออุปกรณ์คอนโทรลเลอร์เสมือนทั้ง Famicom และ GameCube ที่ปกติหาซื้อได้ยากและราคาสูง จะถูกปรับราคาลงให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นหรือไม่
การมาถึงของสองบริการนี้ รวมไปถึงแอปพลิเคชันทางสมาร์ทโฟนที่อาจจะตามมาในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น มีการคาดเดาว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตลาดทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้เอง Nintendo ได้นำร่องไปแล้วด้วยการประกาศเปิดสาขาประจำประเทศสิงคโปร์ และในอนาคตก็จะมีการพิจารณาตั้ง Nintendo สาขาประเทศไทย รวมไปถึงการแปลเกมภาษาไทยอย่าง ดองกี้คอง บานันซา ด้วย

เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยวางจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้ เริ่มต้นที่ 16,990 บาท