แฟนเกม Dragon Quest เตรียมตื่นเต้นกันอีกครั้ง เพราะล่าสุด Square Enix และทีมพัฒนา Artdink Corporation ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่พร้อมภาพสกรีนช็อตชุดใหญ่ของ Dragon Quest I & II HD-2D Remake ที่จะพาผู้เล่นกลับสู่ดินแดน Alefgard อีกครั้งในรูปแบบกราฟิก HD-2D อันสวยงาม โดยรอบนี้มีการเพิ่มฉากใหม่ เนื้อเรื่องเสริม ตัวละครพิเศษ และดันเจี้ยนลับมากมาย เพื่อขยายโลกของเกมให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
รายละเอียดใหม่ของ Dragon Quest I & II HD-2D Remake
เนื้อเรื่องใหม่ของ Dragon Quest I & II HD-2D Remake ที่เชื่อมโยงตำนาน “Erdrick Trilogy”
หนึ่งในจุดเด่นของภาครีเมกครั้งนี้คือ “ฉากเนื้อเรื่องใหม่” ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวของไตรภาค Erdrick Trilogy ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยผู้เล่นจะได้พบกับ “Rubiss” วิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปรากฏใน Dragon Quest III ซึ่งเป็นผู้สร้างโลก Alefgard และเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยโลกที่กำลังถูกปกคลุมด้วยความมืด
ในภารกิจใหม่นี้ ผู้เล่นจะต้องออกเดินทางไปยัง “หมู่บ้านภูต” ที่ว่ากันว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ Rubiss เพื่อหาทางเรียกเธอกลับมายังโลกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้นำของภูตที่รู้วิธีเรียก Rubiss นั้นได้หายตัวไป ทำให้ผู้เล่นต้องออกตามหาเบาะแสท่ามกลางความลึกลับและเรื่องราวเหนือธรรมชาติ
ตัวละครสำคัญ
Rubiss (พากย์เสียงโดย Kelly Hotten / Natsuki Kimura) วิญญาณผู้สร้าง Alefgard และมอบพลังแห่งแสงให้แก่ผู้กล้า
Dream-Whisperer (พากย์เสียงโดย Yuriri Naka / Ayumi Tsunematsu) ผู้นำของเหล่าภูต ผู้พยายามเรียก Rubiss กลับมาจากอีกโลกหนึ่ง
การสอดแทรกเนื้อหาส่วนนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความลึกของเรื่องราว แต่ยังช่วยให้แฟนเกมเข้าใจจักรวาลของ Dragon Quest มากขึ้น ว่าทุกภาคต่างเชื่อมโยงกันด้วยสายใยแห่งตำนานเดียวกัน
การผจญภัยครั้งใหม่ในโลกของ Dragon Quest I
นอกจากการเพิ่มฉากใหม่แล้ว ทีมพัฒนายังได้ใส่ “เหตุการณ์พิเศษ” และ “การเผชิญหน้ากับตัวละครใหม่” เข้าไปใน Dragon Quest I เพื่อทำให้การผจญภัยของผู้กล้าสมบูรณ์และน่าติดตามมากขึ้น
ในระหว่างการเดินทาง ผู้เล่นจะได้พบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การเผชิญหน้ากับทหารแห่งเมือง Tantegel ที่มีเรื่องราวลึกลับซ่อนอยู่เบื้องหลัง การช่วยเหลือผู้ป่วยจากการไปพบกับ “จอมเวทย์ผู้ศึกษาเวทย์กุญแจ” รวมไปถึงการบุกเข้าไปยัง “ถ้ำคนแคระ” ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตผู้แข็งแกร่งและท้าทาย
เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความหลากหลายให้กับเนื้อเรื่อง แต่ยังช่วยขยายโลกของ Alefgard ให้ดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม โดยผู้เล่นจะได้สัมผัสถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้คน สัตว์ประหลาด และตำนานในดินแดนแห่งนี้อย่างเต็มอิ่ม
ดันเจี้ยนใหม่และศัตรูสุดแกร่งในโลกที่คุ้นเคย
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่ม “ดันเจี้ยนใหม่” หลายแห่ง ซึ่งจะมอบทั้งความท้าทายและของรางวัลล้ำค่าให้ผู้เล่นได้ค้นหา นอกจากนี้ยังมี “ศัตรูระดับหัวหน้า” และ “มอนสเตอร์รุ่นใหม่” ที่จะโผล่มาสร้างความปั่นป่วนในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อค้นหา “จุดประกายแสง (Sparkly Spot)” ที่จะมอบวัตถุดิบพิเศษซึ่งมีพลังของธรรมชาติแฝงอยู่ เมื่อรวบรวมได้ครบอาจจะสามารถสร้างไอเทมลับหรืออาวุธทรงพลังบางอย่างได้
ดันเจี้ยนแต่ละแห่งในภาครีเมกได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านสภาพแวดล้อมกับปริศนาที่ต้องไขให้ได้ เพื่อปลดล็อคเส้นทางสู่ความลับสุดท้ายของโลก Alefgard
Dragon Quest I & II HD-2D Remake เตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Xbox Series, Switch 2, Switch และ PC (ผ่าน Steam และ Microsoft Store) โดยการรีเมคครั้งนี้นอกจากจะมอบประสบการณ์การเล่นที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ยังถือเป็นการเฉลิมฉลองให้กับตำนานแห่งผู้กล้าที่ครองใจแฟนเกมทั่วโลกมากว่า 35 ปี
Square Enix ยืนยันว่าแม้ตัวเกมจะคงความคลาสสิคในรูปแบบเดิมไว้ แต่ทุกองค์ประกอบ ทั้งเนื้อเรื่อง ภาพ ดนตรี และการออกแบบโลก ล้วนได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อให้แฟนรุ่นใหม่และเก่าได้สัมผัสเสน่ห์ของ Dragon Quest ในมุมมองที่ทั้งสดใหม่และทรงคุณค่าไปพร้อมกัน.
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
