MediaTek ประกาศเปิดตัว Dimensity 9500 ชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นชิปตัวแรกของบริษัทที่ทะลุกำแพงความเร็ว 4GHz ด้วยสถาปัตยกรรม All Big Core ประกอบด้วยคอร์ ARM C1-Ultra 1 คอร์ ความเร็ว 4.21GHz, C1-Premium 3 คอร์ ที่ 3.5GHz และ C1-Pro 4 คอร์ ที่ 2.7GHz ชิปนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ช่วยให้ประสิทธิภาพเด่นชัดยิ่งขึ้น
ชิป Dimensity 9500 ดีขึ้นกว่า Dimensity 9400 รุ่นก่อน 32% ในงานเดี่ยวและ 17% ในงานหลายเธรด พร้อมประหยัดพลังงานสูงสุด 55% ที่จุดพีค และมีประสิทธิภาพ multitasking ดีขึ้น 30% สำหรับการเล่นเกมและแอปโซเชียล ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ลื่นไหลและยาวนานยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
ด้านกราฟิก ชิปติดตั้ง GPU G1-Ultra ที่อัปเกรดให้ประสิทธิภาพพีคสูงขึ้น 33% และประหยัดพลังงาน 42% โดยเฉพาะ ray tracing ที่ดีขึ้น 119% ด้วยหน่วย ray tracing สองเท่า รองรับการเล่นเกม ray tracing ที่ 120fps รวมถึง Unreal Engine 5.5/5.6 และ Vulkan 1.4 ช่วยให้เกมเมอร์สนุกกับกราฟิกระดับคอนโซลบนสมาร์ทโฟน
สำหรับ AI ชิปมาพร้อม NPU 990 รุ่นที่ 9 ที่เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า รองรับหน้าต่าง token 128K และสร้างภาพ 4K บนอุปกรณ์ รวมถึง Super Efficient NPU แบบ compute-in-memory ช่วยรันโมเดล AI ขนาดเล็กต่อเนื่องโดยใช้พลังงานน้อยลง นอกจากนี้ยังรองรับ SME2 เพื่อเร่งงาน AI บนเครื่องให้เร็วและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
Dimensity 9500 พัฒนา Imagiq 1190 ISP รองรับการถ่ายภาพ 200MP, วิดีโอ portrait 4K/60fps ด้วยการประมวลผล RAW domain และการถ่ายวิดีโอ 4K/120fps Dolby Vision พร้อมกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรกบน Android ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศของ Oppo Find X9 Pro และ Vivo X300 ที่จะใช้ชิปนี้ โดย Oppo รองรับการประมวลผล 200MP หลายเฟรม และ Vivo ให้ portrait video 4K/60fps เหนือกว่า iPhone 17
ชิป Dimensity 9500 จะเริ่มวางขายในสมาร์ทโฟนเรือธงช่วงไตรมาส 4 ปี 2025 โดย Vivo X300 series เปิดตัว 13 ตุลาคม และ Oppo Find X9 series ตามมา 16 ตุลาคม ขณะที่ Qualcomm จะเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 ในวันที่ 23 กันยายนนี้
