[รีวิว] Assassin’s Creed Shadows: Claws of Awaji

Assassin’s Creed Shadows: Claws of Awaji จะพาเราไปติดตาม Naoe และ Yasuke จะต้องออกสำรวจเกาะ Awaji ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและบรรยากาศอันน่าขนลุก แต่การผจญภัยครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับการไล่ล่าอย่างไม่ลดละจากศัตรูหน้าใหม่อย่างกลุ่ม Sanzoku Ippa ที่อันตรายถึงชีวิต ผู้เล่นจะต้องใช้ไหวพริบเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการหลบหลีกกับดักและการซุ่มโจมตีในขณะที่กำลังตามหาสมบัติที่หายไป พร้อมปลดล็อค สกิล และ ความสามารถใหม่ ๆ มากมาย

ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปผจญภัยในเกาะ Awaji มาแล้วและก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

เนื้อเรื่อง DLC ที่เข้มข้นและคุ้มค่าเวลา

สำหรับเนื้อเรื่องใน DLC นี้ ผู้เขียนต้องบอกเลยว่าเต็มไปด้วยความเข้มข้นและน่าติดตามแบบสุด ๆ โดยจะเป็นการสานต่อเส้นทางของ Naoe หลังจากเธอค้นพบความจริงว่าแม่ของเธอยังคงมีชีวิตอยู่บนเกาะ Awaji นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความท้าทาย ทว่าเมื่อเธอไปถึงกลับพบว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้ต้อนรับเธอเลยแม้แต่น้อย ทำให้บรรยากาศการผจญภัยตลอด DLC นี้เต็มไปด้วยความกดดันและแตกต่างไปจากที่เคยสัมผัสในภาคหลักอย่างชัดเจน

นอกจากความสัมพันธ์ระหว่าง Naoe กับแม่ของเธอแล้ว ตัวเกมยังสานต่อความขัดแย้งระหว่าง ภราดรมือสังหารและเหล่าเทมพลาร์ ที่เป็นเส้นเรื่องหลักของซีรีส์ที่หลายคนถวิลหาซึ่งแม้ผู้เขียนจะไม่ขอลงรายละเอียดเพื่อเลี่ยงการสปอยล์ แต่ก็กล้าการันตีได้เลยว่าผู้เล่นที่เฝ้ารอเรื่องราวของสองขั้วอำนาจนี้จะต้องถูกใจและมีรอยยิ้มออกมาแน่นอน

อีกหนึ่งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้เขียนชอบอีกหนึ่งประเด็นก็คือ ภายในเนื้อเรื่องของเกมนี้จะมีการสอดแทรกความร่วมมือระหว่าง 2 ตัวละครมากยิ่งขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครทั้ง 2 นี้ร่วมมือกันออกผจญภัยจริง ๆ ไม่ใช่แค่มีใครคนใดคนหนึ่งออกไปผจญภัย ในขณะที่อีกคนนั่งเฝ้าฐานเฉย ๆ

ในด้านของเวลาเล่น DLC นี้ถูกระบุไว้ว่ามีเนื้อหาเพิ่มราว 10 ชั่วโมง แต่จากประสบการณ์ตรง หากใครตั้งใจเก็บทุกภารกิจและออกสำรวจทุกรายละเอียด เชื่อว่าอาจใช้เวลามากกว่า 30 ชั่วโมง ได้เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งกับสิ่งที่ได้รับ ทั้งความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง บรรยากาศใหม่ ๆ และประสบการณ์การเล่นที่อัดแน่นไม่แพ้ภาคหลักเลยทีเดียว

จากผู้ล่า กลายเป็นผู้ถูกล่า

สำหรับเกมเพลย์หลักใน DLC นี้ แม้โครงสร้างการเล่นจะยังคงคุ้นเคยเหมือนเดิม (ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะนี่คือ DLC ไม่ใช่เกมภาคใหม่ ฮา…) แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจคือการปรับเปลี่ยนแนวทางการนำเสนอที่แตกต่างและสดใหม่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหัวใจสำคัญที่ผู้พัฒนาได้โปรโมทเอาไว้ว่า “บนเกาะแห่งนี้ เราคือผู้ถูกล่า ไม่ใช่ผู้ล่า” และจากการที่ได้ลองเล่นจริง ผู้เขียนยืนยันได้เลยว่าพวกเขาทำออกมาได้อย่างที่สัญญาไว้จริง ๆ

ในเกมภาคหลัก เราอาจคุ้นชินกับการเดินสำรวจเมืองหรือลอบสังหารศัตรูได้อย่างสบายใจตราบใดที่ไม่สร้างปัญหามากนัก แต่บนเกาะ Awaji ทุกอย่างกลับตาลปัตร ผู้เล่นไม่อาจวางใจได้แม้เพียงก้าวเดียว เพราะศัตรูอาจซ่อนอยู่ทุกมุม ไม่ว่าจะถูกซุ่มโจมตีระหว่างทาง หรือเจอกับดักระหว่างการขี่ม้าที่ทำให้การสำรวจเต็มไปด้วยความระทึกใจ จุดนี้เองที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้นและระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันช่วยเติมเต็มบรรยากาศ “การเป็นผู้ถูกล่า” ได้อย่างยอดเยี่ยม

สิ่งนี้ยังส่งผลให้การเดินทางแบบอัตโนมัติที่เคยใช้งานได้สะดวกกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจพึ่งพาได้อีกต่อไป เพราะหันมาอีกที ตัวละครเราอาจถูกศัตรูสังหารไปแล้วก็เป็นได้ แม้อาจสร้างความไม่สะดวกให้ผู้เล่นสายชิลล์อยู่บ้าง แต่สำหรับผู้เล่นที่ชอบความท้าทายแบบฮาร์ดคอร์บอกเลยว่า “สะใจ” และทำให้เกมเพลย์ใน DLC นี้มีรสชาติที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

ศัตรูที่มีกิมมิกให้จดจำ

หนึ่งในจุดที่ผู้เขียนต้องบอกว่าประทับใจที่สุดคือการออกแบบตัวละครฝั่งศัตรูอย่าง Sanzoku Ippa กลุ่มวายร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบ “สมมติล้วน ๆ” ไม่ได้อิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดของทีมพัฒนา เพราะทำให้พวกเขาสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ใส่เอกลักษณ์ จริต และความโดดเด่นให้กับศัตรูแต่ละตัวได้แบบไม่มีกั๊ก ผลลัพธ์ก็คือเราจะได้เจอกับเหล่าตัวละครที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวจนทำให้การเผชิญหน้ากับพวกเขาน่าตื่นเต้นและน่าจดจำสุด ๆ

ไม่เพียงแค่อุปนิสัยหรือบุคลิกที่ชัดเจนเท่านั้น แต่การต่อสู้กับบอสแต่ละตัวก็ถูกออกแบบมาให้มี “กิมมิก” ที่แตกต่างกันไป ซึ่งช่วยสร้างความสดใหม่และความท้าทายให้กับผู้เล่นอย่างแท้จริง การปะทะจึงไม่ได้เป็นแค่การเข้าต่อสู้ธรรมดา ๆ อีกต่อไป บอสบางตัวต้องวิ่งไล่จับ บางตัวเน้นการสืบหาข้อมูล ซึ่งความแตกต่างนี้สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่น้อย ซึ่งผู้เขียนเองรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและความละเอียดอ่อนที่ทีมพัฒนาใส่เข้ามาในส่วนนี้ จนอดคิดไม่ได้เลยว่า หากตัวเกมหลักนำแนวทางนี้มาใช้ตั้งแต่ต้น ซีรีส์นี้อาจจะยกระดับความน่าสนใจขึ้นได้มากกว่านี้ก็เป็นได้

อาวุธใหม่ และสกิลสุดมันส์ที่เพิ่มสีสันการต่อสู้

อีกหนึ่งจุดที่ทำให้ DLC นี้น่าตื่นเต้นก็คือ การมาถึงของอาวุธใหม่ Bo Staff ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นอาวุธคู่ใจของนินจาสาว Naoe โดยตรง ซึ่งจุดเด่นของอาวุธนี้อยู่ที่ ระยะการโจมตีที่ไกล ท่วงท่าที่รวดเร็วต่อเนื่อง และระบบ Posture Attack แบบเฉพาะตัว ที่ถูกยกระดับให้ซับซ้อนและมันส์กว่าเดิม และไม่ใช่แค่อาวุธเท่านั้น เพราะ Bo ยังมาพร้อมผังสกิลของตัวเอง ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ปลดล็อคท่าใหม่ 3 สกิล รวมไปถึงความสามารถพิเศษในการทำ Chain Assassination ลอบสังหารศัตรูที่อยู่ใกล้กันได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความลื่นไหลและดุดันให้กับการเล่นอย่างชัดเจน

ในขณะเดียวกัน Yasuke ก็ได้รับสกิลเพิ่ม 1 ท่าในอาวุธที่เขาใช้งานได้ ซึ่งแม้ว่าจะน่าเสียดายไปนิดที่ไม่มีอาวุธใหม่ให้ได้ใช้งานกับซามูไรผิวดำคนนี้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเพิ่มเข้ามาเลย และโดยรวมสกิลที่เพิ่มเข้ามาก็ใช้ได้สนุกมือไม่น้อย ซึ่งผู้เขียนก็ยกนิ้วให้เช่นกัน

สรุปรีวิว

DLC ใหม่นี้ของ Assassin’s Creed Shadows เรียกได้ว่าคุ้มค่าทั้งเวลาและประสบการณ์ ด้วยเนื้อเรื่องสานต่อความเข้มข้น กดดัน และน่าติดตาม ในขณะที่บรรยากาศการเล่นก็ถูกพลิกให้ผู้เล่นกลายเป็น “ผู้ถูกล่า” ทำให้ทุกการสำรวจเต็มไปด้วยความระแวงและท้าทาย ศัตรูใหม่อย่าง Sanzoku Ippa ถูกออกแบบอย่างสร้างสรรค์ มีเอกลักษณ์และกิมมิกต่อสู้ที่น่าสนใจ ส่วนระบบการเล่นก็ได้รับการเติมเต็มด้วยอาวุธใหม่ Bo Staff และสกิลเสริมที่ทำให้การต่อสู้ของ Naoe ลื่นไหลและดุดันยิ่งขึ้น ขณะที่ Yasuke เองก็มีท่าใหม่เพิ่มสีสันให้การเล่นมากกว่าเดิม

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– มีเนื้อเรื่องที่สานต่อเรื่องราวของภราดรมือสังหารและเทมพลาร์

– เกมเพลย์ที่เปลี่ยนมุมมองจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า

– อาวุธใหม่ สกิลใหม่ ทำให้การเล่นเกมนี้สนุกขึ้น

ข้อสังเกต

– แม้ว่าบอสแต่ละตัวจะมีกิมมิก แต่ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างจนว้าวได้ขนาดนั้น

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Ubisoft ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้พรีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<