10 เกมที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเป็นโลกอีกใบของเรา
เบื่อความจริงอยากหนีเข้ามาในเกม โลกใบใหม่รอต้อนรับคุณอยู่

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ ในยุคที่ชีวิตจริงเต็มไปด้วยความเครียด ความเร่งรีบ และปัญหาที่ไม่รู้จบ วิดีโอเกมกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่พักใจที่ผู้เล่นสามารถหลบหนีเข้ามาได้ บางเกมไม่ได้เพียงแค่ให้เราเล่นบทบาทตัวละครที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า แต่เปิดโอกาสให้เราสวมบทเป็น “ตัวเอง” ในโลกอีกใบ ที่กว้างใหญ่ อิสระ และเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ให้ค้นหา เกมเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นเหมือนจักรวาลคู่ขนานที่เราสามารถเลือกใช้ชีวิตได้ตามใจ ไม่ว่าคุณอยากสร้างเมือง ทำฟาร์ม ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ หรือแม้แต่ผจญภัยไปในโลกเสมือนจริง ทุกเกมในลิสต์นี้พร้อมจะต้อนรับคุณสู่โลกอีกใบ ที่อาจจะทำให้คุณลืมไปชั่วขณะว่าชีวิตจริงกำลังวุ่นวายอยู่เพียงใดครับ
1. Minecraft

Minecraft คือเกม Sandbox ที่เปิดกว้างที่สุดเกมหนึ่ง ผู้เล่นสามารถสร้างโลกทั้งใบขึ้นมาด้วยบล็อกเล็ก ๆ ตั้งแต่บ้านเล็ก ๆ ไปจนถึงเมืองขนาดใหญ่ ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราเอง ความไร้ขีดจำกัดนี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าโลกที่ก่อร่างขึ้นมาคือโลกของเราโดยตรง ไม่ว่าจะเลือกโหมดผจญภัย เอาตัวรอด หรือโหมดสร้างสรรค์ เกมนี้เปรียบเสมือนผืนผ้าใบขาวที่รอให้เราเติมเต็มความฝัน ทำให้หลายคนอินเหมือนกำลังใช้ชีวิตในโลกอีกใบจริง ๆ ครับ
2. The Sims Series

ถ้าให้พูดถึงเกมที่ให้เรา “มีชีวิตอีกชีวิต” คงหนีไม่พ้น The Sims เกมระดับตำนานตั้งแต่ยุค 2000 แล้วพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน ที่จะให้ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครที่แทบจะถอดแบบจากตัวเองได้ ตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา ไปจนถึงนิสัยและเส้นทางชีวิต จะเลือกเป็นนักธุรกิจ ศิลปิน นักกีฬา หรือแม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทั้งหมด การได้ลองตัดสินใจในชีวิตที่สองแบบนี้ ทำให้ The Sims ไม่ใช่แค่เกมจำลอง แต่เป็นเหมือนประสบการณ์การใช้ชีวิตอีกแบบ ที่ผู้เล่นสามารถอินและมีส่วนร่วมได้เต็มที่ครับ
3. DAVE THE DIVER

แม้จะเป็นเกมอินดี้ขนาดเล็ก แต่ DAVE THE DIVER ก็สร้างโลกใต้น้ำที่ชวนให้ผู้เล่นหลงใหลจนเกิดกระแสไปทั่วโลก เราจะได้สวมบทเป็น Dave ชายอ้วนที่ออกไปดำน้ำจับปลาในเวลากลางวัน และกลับมาบริหารร้านซูชิในเวลากลางคืน แม้จะมีตัวละครหลักชัดเจน แต่ด้วยความเป็นกันเองและเสน่ห์ของวิถีชีวิตในเกม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งไปในโลกแห่งท้องทะเล และกลายเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อบอุ่น อินเหมือนเราได้ย้ายไปมีชีวิตใหม่ที่ทั้งเรียบง่ายและสนุกสนานครับ
4. Animal Crossing: New Horizons

เกมที่กลายเป็นกระแสฮิตในช่วงโควิด เพราะมันทำให้ผู้เล่นได้หนีออกจากโลกจริงไปใช้ชีวิตบนเกาะร้าง ผู้เล่นสามารถสร้างบ้าน แต่งเกาะ ทำกิจกรรมประจำวัน พบปะกับเพื่อนบ้านที่เป็นสัตว์น่ารัก ๆ ทุกอย่างดำเนินไปแบบสโลว์ไลฟ์ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเหมือนย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่งจริง ๆ จุดเด่นคือความเป็นกันเองของเพื่อนบ้านที่ค่อย ๆ กลายเป็นเพื่อนสนิทเราไปเอง ทำให้ Animal Crossing เป็นโลกอีกใบที่อบอุ่นจนหลายคนไม่อยากออกมาเลยครับ
5. Stardew Valley

จากชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยล้า สู่การย้ายไปทำฟาร์มในหุบเขา Stardew Valley มอบประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังได้เริ่มต้นชีวิตใหม่จริง ๆ เราสามารถปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทำเหมือง ตกปลา และสร้างความสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้าน เสน่ห์ของมันคือความอบอุ่นที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจนผู้เล่นอินเหมือนมีบ้านอีกหลังในโลกแห่งเกมนี้ ใครที่เคยจมอยู่ในเกมนี้จะรู้สึกได้เลยว่า Stardew Valley เป็นโลกคู่ขนานที่อยากกลับไปทุกวันจริง ๆ ครับ
6. Palia

Palia เป็นเกมออนไลน์แนวชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่ผสมผสานทั้งการทำฟาร์ม ตกปลา และการเข้าสังคมกับผู้เล่นคนอื่น ความโดดเด่นคือการสร้างชุมชนร่วมกัน ผู้เล่นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่สามารถแบ่งปันโลกกับเพื่อนใหม่ ทำกิจกรรมร่วมกัน และค่อย ๆ สร้างบ้านและฟาร์มให้สวยงามขึ้น ทำให้ความรู้สึกของ Palia แตกต่างจากเกมสโลว์ไลฟ์ทั่วไป เพราะมันคือ “โลกอีกใบที่เรามีเพื่อนบ้านจริง ๆ” ที่เป็นมนุษย์เล่น ไม่ใช่ NPC ที่ถูกตั้งระบบไว้ครับ
7. Coral Island

เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Harvest Moon และ Stardew Valley แต่เพิ่มความสดใหม่ด้วยโลกใต้น้ำและบรรยากาศเกาะเขตร้อน ผู้เล่นจะได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ทำฟาร์ม ตกปลา ไปจนถึงช่วยกันฟื้นฟูระบบนิเวศในทะเล ทำให้ Coral Island ไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตในหมู่บ้าน แต่ยังเป็นการดูแลโลกอีกใบที่สวยงามเหมือนสวรรค์แห่งใหม่ในธีมทะเลอีกด้วย บรรยากาศในชุมชนก็จะเต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะนิสัยใจคอ ช่วงวัย เพศสภาพ สีผิว ทุกคนที่แตกต่างกันกลับรวมตัวกันในชุมชนนี้ได้อย่างมีมิติครับ
8. inZOI

เกมที่หลายคนเรียกว่า “The Sims เวอร์ชัน Unreal Engine 5” เพราะความสมจริงของภาพและรายละเอียด ผู้เล่นสามารถสร้างอวตาร์ที่เหมือนตัวเองแบบแทบจะถอดแบบมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรม ความโดดเด่นคือกราฟิกที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนย้ายร่างเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ และการอัปเดตต่าง ๆ ที่เพิ่มความเป็นไปได้ให้กับชีวิตเสมือน ทำให้ inZOI กลายเป็นโลกคู่ขนานที่ชวนให้จมอยู่ได้นาน
9. VRChat

VRChat คือประตูสู่โลกเสมือนที่แทบไร้ขอบเขต ผู้เล่นสามารถเลือกอวตาร์ได้ตามใจ และเข้าสังคมกับผู้เล่นคนอื่นผ่าน VR หรือแม้แต่หน้าจอปกติ จุดแข็งคือเสรีภาพในการสร้างและแบ่งปัน “โลก” ที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ห้องเล็ก ๆ จนถึงเมืองขนาดใหญ่ ความรู้สึกเวลาสวมแว่น VR แล้วก้าวเข้าไปคุยกับคนอื่นในร่างอวตาร์ของเรา ทำให้ VRChat ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นโลกอีกใบที่เรามีตัวตนอยู่จริง ๆ เน้นพูดคุยทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์ ผู้เล่นที่อยู่ในนั้นก็พร้อมจะเป็นเพื่อนกับคุณเสมอ
10. Roblox

Roblox เป็นมากกว่าเกม เพราะมันคือแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างเกมของตัวเอง และแชร์ให้คนอื่นมาเล่นได้ โลกที่หลากหลายและไร้ขีดจำกัดทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกชีวิตได้ตามใจ จะเป็นนักผจญภัย เจ้าของคาเฟ่ หรือแม้แต่นักสร้างเกมเอง ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ Roblox กลายเป็นจักรวาลคู่ขนานที่ไม่มีวันสิ้นสุด และเป็น “โลกอีกใบ” ที่ใครก็สามารถมีได้ คุณสามารถมีบ้านของตัวเองในบางเกม ทำสวนปลูกต้นไม้ เก็บพืชผลของตัวเอง วันไหนเบื่อ ๆ ก็ชวนเพื่อนออกไปลุย ถ้าคุณมีขาประจำไว้เล่นด้วยกัน Roblox คือโลกหลายมิติที่อยากจะเป็นอะไรก็ได้จริง ๆ ครับ

เกมเหล่านี้คือหลักฐานชัดเจนว่า วิดีโอเกมไม่ได้เป็นเพียงสื่อความบันเทิง แต่สามารถสร้าง “โลกอีกใบ” ที่เราอยากหลบไปพักใจหรือใช้ชีวิตใหม่ได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเล็ก ๆ ในหุบเขา เมืองใหญ่ที่ครึกครื้น หรือเกาะร้างแสนอบอุ่น แต่ละโลกต่างมีเสน่ห์ที่ทำให้เราจมอยู่กับมันได้นานจนลืมเวลา สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความจริงเพียงชั่วครู่ เกมเหล่านี้รอคอยให้คุณก้าวเข้าไปสัมผัสเสมอครับ 🙂
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<