[รีวิว] Nokia 2.1 จอใหญ่ แบตอึดแถมได้ Snapdragon 425

ในปัจจุบันที่สมาร์ทโฟนแข่งกันที่สเปคที่ยัดมาไม่รู้จักจบสิ้นแต่ทาง Google ก็ไม่ได้ทอดทิ้งรุ่นที่สเปครองลงมารวมไปถึงระดับเข้าถึงง่ายเหมาะแก่การใช้งานพื้นฐานจึงได้ออก Android Go ที่จะทำให้ Android รุ่นที่แรมไม่เกิน 1GB ใช้งานได้ลื่นๆ และในวันนี้ผมก็จะมาลองกับสมาร์ทโฟนจาก Nokia อย่าง Nokia 2.1 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน Android Go จากทาง Nokia จะเป็นยังไงกันบ้างเรามาดูกันเลย

Design

Nokia 2.1 ชูจุดเด่นอยู่ 3 เรื่องและในส่วนแรกเลยก็คือหน้าจอที่มาพร้อมกับขนาด 5.5 นิ้ว มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 720 x 1280 พิกเซล HD สำหรับอัตราส่วนจะอยู่ที่ 16:9 สำหรับกระจกที่นำมาใช้งานก็เป็นตัวที่คุ้นเคยอย่าง Corning Gorilla Glass ช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วนอันไม่พึงประสงค์ ในส่วนของพื้นที่ในการแสดงผลจะอยู่ที่ 70% ของทั้งหมด

วัสดุด้านหลังที่ใช้งานจะเป็นพลาสติกผิวด้านซึ่งข้อดีของมันคือควมยืดหยุ่นและไม่เกิดรอยนิ้วมือ โดยด้านหลังจะมีโลโก้ Nokia และกล้องอยู่ซึ่งตำแหน่งการวางก็ถือว่าให้ความรู้สึกเก่าๆอย่างพวกตระกูล Lumia เลย

ในส่วนของเฟรมรอบตัวเครื่องจะใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมที่จะมีการสะท้อนของสีต่างออกไปเมื่อมองจากมุมต่างๆ ส่วนในเรื่องของพอร์ตการใช้งานจะมีตามนี้

ด้านบน: รูสำหรับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ด้านซ้าย: –

ด้านล่าง: ช่องเสียบ Micro USB

ด้านขวา: ปุ่ม Power, ปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง

ในส่วนของด้านหน้าของตัวเครื่องแถบด้านบนจะประกอบไปด้วยกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นจุดรวมเซนเซอร์ต่างๆ ลำโพงที่ใช้งานในการสนทนาและให้เสียงออกได้ สุดท้ายเป็นโลโก้ Nokia

ในขณะที่ด้านล่างของหน้าจอจะประกอบไปด้วยลำโพงที่เวลาใช้งานจะให้เสียงออกมาเป็นแบบสเตอริโอ ส่วนปุ่มในการใช้งานจะเป็นปุ่มแบบ Soft Touch ประกอบไปด้วย Back, Home และ Recent App

สำหรับด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซลรองรับออโต้โฟกัส ด้านล่างของตัวกล้องจะเป็นไฟแฟลช LED เหนือขึ้นไปจะเป็นรูสำหรับตัดเสียงรบกวนภายนอกขณะสนทนา

ใครที่งงว่าอ้าวแล้วช่องใส่พวกซิมการ์ดมันอยู่ไหนก็ต้องบอกว่ามันอยู่ภายในด้านหลังตัวเครื่องนั้นเองโดยเปิดออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ช่องสำหรับใช้งานสองซิมพร้อมกันโดยใช้งานซิมแบบนาโนซิม พร้อมกับช่องสำหรับใช้งาน Micro SD Card เพิ่มได้สูงสุด 128 GB

Specification

– หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 720 x 1280 พิกเซล อัตราส่วน 16:9

– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 425 CPU Quad-core (1.4 GHz Cortex-A53) ชิปประมวลผลกราฟฟิคเป็น Adreno 308

– RAM 1 GB

– ความจุ 8 GB

– รองรับ microSD สูงสุด 128 GB

– กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส

– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล

– รองรับ Dual SIM โดยเป็นซิมแบบนาโนซิม

– พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB

– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh

– ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo (Go Edition)

– มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

– น้ำหนัก 174 กรัม

– ราคา 3,390 บาท

Software / Performance

การที่ Nokia 2.1 เลือกใช้งาน Android 8.1 Oreo ในเวอร์ชั่น Go ทำให้หน้าตาการใช้งานต่างๆดูไม่ได้ต่างจาก Pure Android เลยก็ว่าได้ สำหรับการใช้งาน UI ก็ถือว่าเข้าใจได้ง่ายใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานก็สามารถใช้ได้คล่องแล้ว ที่สำคัญเวอร์ชั่น Go จะมาพร้อมกับแอพต่างๆที่มีขนาดเล็กลงแต่ฟังก์ชั่นไม่แพ้ตัวหลักเลย

สำหรับเซนเซอร์ที่มีบน Nokia 2.1 ไม่ได้มีอะไรที่มากนักสำหรับใครที่หวังว่าต้องมี Gyroscope ก็ถือว่าคิดผิดแล้ว เพราะเนื่องจากว่าตัวมันเป็น Android Go ที่เน้นการใช้งานพื้นฐานทำให้เซนเซอร์ต่างๆก็ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร ในขณะที่ความสามารถสูงสุดในการรองรับจำนวนการทัชอยู่ที่ 5 จุด

ในส่วนของการทดสอบที่เป็นตัวเลขในการวัดด้วยโปรแกรม AnTuTu คะแนนที่ได้ออกมาถือว่าไม่ได้สูงอะไรมาก เรียกว่าอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับสเปคเครื่องที่ให้มาโดยคะแนนรวมอยู่ที่ 36715 คะแนน ในส่วนของคะแนนซีพียูก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นกันจากการที่เลือกใช้งานชิป Snapdragon 425

ในการทดลองใช้งานพวกแอพโซเขียลอย่าง Facebook ก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับกลางๆไม่ได้ลื่นสุดๆแต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่เล่นไม่ได้ โดยลองเปิดคลิปและเล่นไปด้วยก็สามารถใช้งานได้ไม่มีอาการเด้ง ในขณะที่การเล่นเว็บผ่าน Chrome ก็สามารถทำออกมาได้ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะมีการใช้เวลาโหลดหน้าเว็บเล็กน้อยในการเปิดเว็บที่มีพวกรูปหรือคลิปหนักๆ

ในการทดลองรับชมคลิปต่างๆจากแอพยอดนิยมอย่าง YouTube และ Twitch ก็สามารถทำออกมาได้ดีทีเดียวโดยสำหรับ YouTube หากเป็นการใช้งานผ่านแอพ YouTube Go จะยิ่งเพิ่มความลื่นไหลขึ้นไปอีก ในขณะที่ Twitch อาจจะมีหน่วงๆในช่วงการโหลดคลิปช่วงแรกแต่เมื่อเรียบร้อยแล้วก็สามารถรับชมได้โอเคเลย ซึ่งความละเอียดที่แนะนำคงต้องตั้งค่าที่ 720p หากต้องการดูอย่างไม่มีปัญหา

เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับการเล่นเกมโดยเกมทั้งหมดที่ผมจะนำมาทดสอบประกอบไปด้วย RoV, PUBG Mobile, Identity V, Talion, Survival Heroes, Lineage 2 Revolution และ Subway Surfers โดยในทุกๆเกมผมจะเน้นไปที่การตั้งค่าภาพให้สามารถใช้งานเพื่อเล่นได้จริง ไม่เน้นปรับสุดแต่เล่นไม่ได้ครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าที่ไม่เห็น PUBG Mobile และ Talion อยู่ในชาร์ตเนื่องมาจากว่าตัวเครื่องไม่รองรับนั่นเอง โดยที่ PUBG Mobile คงต้องรอเวอร์ชั่น Lite ออกมาส่วน Talion นี้น่าจะหมดสิทธิ์เนื่องจากไม่แสดงบน Play Store เลย

มาพูดถึงภาพรวมจากการได้ลองเล่นกันดีกว่าโดยสำหรับ Nokia 2.1 เหมาะมากในการนำไปใช้งานเล่นเกมแนวพวก MOBA อย่าง ROV เพราะไม่ค่อยมีอาการ FPS ตกให้เห็นเลย แต่สำหรับใครที่อยากจะซื้อเพื่อนำไปเล่น MMORPGs ก็ไม่ค่อยแนะนำเนื่องจากสเปคที่เน้นประหยัดทำให้การโหลดพื้นที่ต่างๆ ทำออกมาไม่ทันและพบอาการเด้งออกจากเกมได้

สำหรับ UI ของกล้องที่นำมาใช้งานบน Nokia 2.1 เป็นอะไรที่เรียบง่ายโดยมีฟังก์ชั่นที่ให้มาใช้งานเป็นพวก HDR พาโนรามา โหมดหน้าเนียนและการปรับแต่งเองจำพวกค่า White Balance และอื่นๆ

“ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง”

“ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าปิดโหมดเนียน – 50% – 100%”

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอหน้าตาการใช้งานถือว่าไม่ได้มีอะไรที่พิเศษอะไรนัก โดยจะมีโหมดการใช้งานอย่างพวก Time Lapse มาให้ได้ลองใช้งานกัน

“ตัวอย่างวิดีโอจากกล้องหลัง”

Conclusion

สำหรับข้อสรุปจากที่ได้ลองใช้งาน Nokia 2.1 คงต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนขั้นพื้นฐานที่เน้นเจาะกลุ่มราคาประหยัดแต่อยากได้ความลื่นไหลเพราะ Android Go จะตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยจุดเด่นของตัวนี้คือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้วทำให้ได้รับภาพเต็มตา พร้อมทั้งความจุแบตเตอรี่ที่มากถึง 4000 mAh หากจะให้หาช่วงราคานี้คงต้องบอกว่าตัวนี้น่าจะให้เยอะที่สุดในบรรดา Android Go กับราคา 3,390 บาท ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือใช้งานแก้ขัดเป็นเครื่องสำรองครับ

จุดเด่น

– Android Go ทำให้สเปคไม่ใช้เรื่องใหญ่อีกต่อไป

– หน้าจอ 5.5 นิ้วอัตราส่วน 16:9 ทำให้ได้รับภาพที่เต็มตา

– ชิปเซ็ต Snapdragon 425 ทำให้ได้รับความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh มากสุดในบรรดา Android Go รุ่นใกล้เคียง

– วัสดุถือว่าทนทานต่อทุกๆสถานการณ์

– ราคา 3,390 บาท ถือว่าไม่ได้สูงจนเกินไป

ข้อสังเกต

– เซนเซอร์ที่ให้มาถือว่าน้อยไปเสียหน่อย

– ความจุภายในที่ให้มาเพียงแค่ 8GB หากเป็น 16GB จะน่าสนใจยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่สนใจอยากจะได้อยากจะโดนกับ Nokia 2.1 ก็ต้องบอกว่าอาจจะหาซื้อยากสักเล็กน้อยโดยช่องทางหลักที่จะหาซื้อได้คงต้องเป็นร้านค้าออนไลน์อย่าง Lazada หรือ Shopee โดยจะมีสีให้เลือกทั้งสิ้น 3 แบบคือ สีน้ำเงิน/ทองแดง (เครื่องที่รีวิว), สีน้ำเงิน/สีเงิน, สีเทา/สีเงิน  ส่วนราคาและของแถมก็ต่างกันไปตามแต่ที่ร้านจะจัดนั่นเอง