ถอดรหัส Yoshimitsu ในเกม Soul Calibur และ Tekken กับศาสนาพุทธ
รู้หรือไม่ Shikisoku Zeku มีความหมายที่ลึกซึ้งในเชิงศาสนามาก!
ขาดไม่ได้จริงๆ สำหรับ Yoshimitsu นักรบนินจาไซบอร์กจากเกม Tekken และ Soul Calibur ที่ถ้าเกิดว่าเราสังเกตให้ดีในเกม Soul Calibur ภาคแรกเป็นต้นมา มาจนถึงเกมสังเวียนหมัดเหล็กภาคใหม่ๆ นั้นเขาจะมีคำพูดเวลาต่อสู้จนชนะว่า Shikisoku Zeku ชิคิโซคุ เซคุ หรือบางทีก็พูด Namunamunamu อย่างน่ากลัว แต่ใครเล่าจะรู้ว่าความหมายเบื้องหลังคำเหล่านี้มีความใกล้เคียงกับศาสนาพุทธด้วย
ว่าแล้วก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง เรามาเริ่มต้นกับการถอดรหัสคำแรกที่ง่ายๆ ก่อนเลยนั่นคือ Namunamunamu คำนี้ก็มาจาก นะโม นั่นเอง โดยเป็นการยืมคำจากสันสกฤตโดยตรง ซึ่งความหมายก็มีรากมาจาก นมัสการ หรือการพูดแสดงความเคารพตามศาสนาพุทธ โดยถ้าสังเกตให้ดี Yoshimitsu ในร่างของเกม Soul Calibur จะอ้างอิงจากการเป็นซามูไรมากกว่านินจาอยู่แล้ว และเมื่อซามูไรคือนักรบที่มีเกียรติ การทำความเคารพศัตรูหลังจากการปะทะเพลงดาบก็ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าผิดแผกแต่อย่างใด
มาถึงคำที่น่าสนใจกันแล้วครับ Shikisoku Zeku คำแปลมีความหมายอย่างตรงไปตรงมาว่าสังขารคือสิ่งไม่เที่ยง และคำนี้หากต้องใช้เป็นประโยคสมบูรณ์จะต้องมีคำว่า Shikisoku Zeku, Kuusoku ze Shiki รวมกันแล้วคือ “รูปคือสิ่งที่ว่างเปล่า และความว่างเปล่าก็คือรูป” ซึ่งถ้าในญี่ปุ่นเราอาจจะพบได้ตามหนังสือของวิถีเซ็น แต่หารู้ไม่ว่าถ้าเราพิจารณาดีๆ แล้ว มันใกล้ตัวกับคนไทยทีเดียว เพราะคำว่าสังขารคือสิ่งไม่เที่ยงที่ว่านั้นปรากฏอยู่ในพระสูตรปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ของนิกายมหายาน ที่เป็นนิกายที่คนไทยนับถือส่วนใหญ่นั่นเองครับ
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรนั้นมุ่งตรงไปที่การใช้ปัญญาและเชื่อในความว่างเปล่าหรืออนัตตาซึ่งมีเป้าหมายในการหลุดพ้นจากความทุกข์ใดๆ เปรียบให้เห็นภาพคือ หลุดพ้นจากการมีอยู่ นิพพานเพื่อไปสู่จุดที่ไม่จำเป็นต้องรับรู้ถึงสิ่งที่รายล้อมใดๆ อีก พอมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วทำไม Yoshimitsu ถึงต้องพูดคำนี้ ซึ่งผมก็ติดตามเรื่องราวของเกมอย่างใกล้ชิด เลยอยากนำประวัติของนักรบผู้นี้ในเวอร์ชัน Soul Calibur มาแบ่งปันกันนิดหนึ่ง
Yoshimitsu ในเกมดังกล่าวมีเรื่องราวคล้ายกับ Tekken เลยครับ นั่นคือเจ้าตัวต้องการดาบ Soul Edge เพื่อการล้างแค้น Oda Nobunaga (และตนก็เป็นสมาชิกของกองกำลังสวัสติกะที่ปล้นคนจนช่วยคนดีเหมือนอีกเกม) กระนั้นแล้วไปๆ มาๆ เมื่อการเดินทางเพื่อครอบครองดาบปีศาจนั้นไม่สำเร็จ ตนก็ยอมรามือแต่โดยดี และที่ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นหนึ่งในตัวละครไม่กี่ตัวที่จุดจบตามเนื้อเรื่องด้วย นั่นคือยอมถูกปลิดชีพ ซึ่งมันก็มีสาเหตุที่เกิดการกระทำนั้นขึ้นมาด้วย
ในช่วงเนื้อเรื่องหลังจากเกม Soul Calibur IV นั้น Yoshimitsu ได้ต่อสู้กับวายร้าย Cervantes จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในฐานะหัวหน้าของกองกำลัง และด้วยวัยที่มากขึ้น กำลังวังชาทุกอย่างไม่มีเหมือนแต่ก่อน สิ่งที่เขาทำได้คือหาผู้สืบทอดจนกลายเป็น Yoshimitsu รุ่นที่สองขึ้นมา แต่ขั้นตอนไม่ได้ง่าย เพราะ Yoshimitsu ที่สอง จำเป็นต้องฆ่าหัวหน้าคนเดิมเพื่อให้ได้ชื่อนั้นมา ส่วนตัวแล้วการที่ผมมองว่าเมื่อ ‘โยชิ’ รุ่นที่หนึ่งที่ถือเป็นซามูไรที่มีเกียรติยอมรับชะตากรรมและพร้อมที่จะมอบพันธะ ละความโลภจากการทำงานในกองโจร มันก็เข้ากับคำว่า สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง อย่างที่ตัวของเขาเชื่อมั่นจริงๆ
Yoshimitsu รุ่นที่สองนั้นถือว่าเป็นนักรบที่ไร้ปราณี แตกต่างจากคนอารมณ์ดีอย่างรุ่นแรกที่เราเห็นกัน
ณ ตอนนี้ ไม่ว่า Yoshimitsu รุ่นที่หนึ่งจะได้ไปสู่จุดของความว่างเปล่าหรือไม่ก็ตาม แต่การที่ตนสละทุกอย่าง ยอมรับแม้กระทั่งความตาย สิ่งนี้ก็หมายถึงความเชื่อในหลักที่ยึดมั่นมาตลอดตั้งแต่ที่ปรากฏในเกมภาคแรกเมื่อปี 1998 (ไม่รวมภาค Soul Blade ที่เป็นเกมแรกของซีรีส์) จริงๆ ครั้นที่จะอยู่ในสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ปกป้องตัวเองไม่ได้ มันก็เป็น ‘ทุกขัง’ ของเขา จึงยอมรับ ‘อนิจจัง’ เสียดีกว่า สำหรับเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรมาพูดคุยกับ ThisIsGame Thailand ได้นะครับ
ปัจจุบันเกม Soul Calibur ดำเนินเนื้อเรื่องมาถึงภาคที่หก วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 4, Xbox One และ PC โดยถือเป็นการรีบู๊ตจักรวาลเกมใหม่ และนำเอาเนื้อหาเบื้องหลังจากเกมภาค Dreamcast มาตีความใหม่ พร้อมการสนับสนุนคอนเทนต์ถึงสองซีซัน รวมจำนวนนักสู้ให้เล่น 29 ตัวละคร ที่จะมาประลองเพลงดาบกันในสังเวียนแบบสามมิติ ใครสนใจก็ไปหาตำกันได้ ส่วนโอกาสหน้าพวกเราจะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม
