
เมื่อต้นปีนี้ Opera บริษัทเบราว์เซอร์จากนอร์เวย์เพิ่งเปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ไปหมาด ๆ และตอนนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งด้วย Opera Neon เบราว์เซอร์ที่ถูกนำเสนอว่าเป็น fully agentic browser หรือเบราว์เซอร์ที่ทำงานแทนคุณได้เกือบทั้งหมด โดยมี AI ผสานอยู่ภายในระบบและสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ผ่านการสนทนาและช่วยเหลือในการท่องเว็บแทนได้
Opera ระบุว่า Neon ไม่ใช่แค่เครื่องมือค้นหาข้อมูล แต่ยังสามารถ พูดคุยกับผู้ใช้ เข้าถึงเว็บไซต์แทน กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ และช้อปปิ้งให้โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่ทำให้ Neon แตกต่างจากระบบอื่น ๆ คือมันจะวิเคราะห์โครงสร้างของหน้าเว็บโดยตรง เพื่อให้มันเข้าใจเว็บไซต์ได้เร็วกว่าเดิม
ยิ่งคุณใช้งาน Neon ในการเขียน สั่งงาน หรือปรับแต่งเนื้อหา มากเท่าไร มันก็จะยิ่งเรียนรู้สไตล์การใช้งานของคุณได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้นและที่สำคัญคือ การทำงานเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นบนเครื่องของผู้ใช้เอง ซึ่งช่วยให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากการท่องเว็บและจัดการข้อมูลแล้ว Opera ยังกล่าวว่า Neon สามารถ สร้างเว็บไซต์ แอนิเมชัน และแม้แต่เกมต้นแบบ (game prototype) ได้จาก prompt ของผู้ใช้
หากคุณสั่งให้มันทำงานอะไรที่ซับซ้อน Opera ระบุว่า Neon สามารถดำเนินการต่อได้แม้คุณจะออฟไลน์อยู่ โดยอาศัยการประมวลผลที่เชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์ของ Opera ในยุโรป ซึ่งมีกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดกว่าในสหรัฐฯ
และแน่นอนว่า Opera มองว่า Neon ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ธรรมดา แต่เป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Neon เป็นจุดเริ่มต้นของการนิยามใหม่ว่าเบราว์เซอร์ควรทำงานอย่างไรในยุคของ AI Agents
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ Opera มีส่วนแบ่งตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 2.09% เท่านั้น ขณะที่ Google Chrome มีผู้ใช้งานถึง 66.45% และทั้ง Google และ OpenAI ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน
- Google Mariner ขยายความสามารถของ Chrome ให้ทำงานแทนผู้ใช้ได้
- OpenAI Operator เปลี่ยน AI ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ซึ่งแปลว่า Opera อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ และรักษาผู้ใช้เดิมไว้ ขณะที่พยายามสร้างตำแหน่งของตนเองในตลาดที่มีอย่าง Google และ OpenAI อยู่
แม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่หลายคนก็สงสัยว่า ผู้คนต้องการเบราว์เซอร์ที่ทำงานแทนพวกเขาทั้งหมดเลยไหม? เพราะหาก AI ทำงานพลาด เช่น จองเที่ยวบินผิด กรอกข้อมูลส่วนตัวผิด หรือเลือกซื้อของผิด มันอาจทำให้ผู้ใช้เสียเวลาแก้ไขมากกว่าจะประหยัดเวลา
อย่างไรก็ตาม Opera อาจกำลังเสนอทางเลือกที่ฉลาดกว่าเดิม สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดขั้นตอนซับซ้อนในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
และหาก Neon สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้แม่นยำพอ มันอาจกลายเป็นเบราว์เซอร์ที่เหมาะกับการทำงานอัตโนมัติได้จริง