TikTok โดนปรับหนัก 600 ล้านดอลลาร์ เพราะส่งข้อมูลผู้ใช้ EU ไปจีน
แม้มีการลงทุนในประเทศก็ตาม

ใครที่เล่น TikTok ในยุโรปต้องรู้ไว้ว่า ทางการไอร์แลนด์เพิ่งตัดสินให้ TikTok ต้องจ่ายเงินปรับสูงถึง 530 ล้านยูโร เป็นหนึ่งในคดี GDPR ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ TikTok ส่งข้อมูลผู้ใช้จากสหภาพยุโรป (EU) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศจีน ซึ่งขัดกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรปอย่างชัดเจน
GDPR หรือ General Data Protection Regulation เป็นกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดมากของสหภาพยุโรป มีวัตถุประสงค์หลักคือ:
- ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของพลเมือง
- ควบคุมไม่ให้บริษัทส่งข้อมูลออกไปนอก EU หากไม่มั่นใจว่าจะได้รับการคุ้มครองระดับเดียวกัน
และในกรณีของ TikTok ทาง Irish Data Protection Commission (DPC) ระบุว่า TikTok ไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อมูลผู้ใช้จะปลอดภัยตามมาตรฐาน EU เมื่อถูกส่งไปจีน

โดยเฉพาะกฎหมายของจีน เช่น กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย และกฎหมายสอดแนม ที่อาจทำให้ทางการจีนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ในยุโรปได้โดยตรง
TikTok ถูกปรับแยกออกเป็นสองส่วน:
- 485 ล้าน – จากการส่งข้อมูลผู้ใช้ไปจีน
- 45 ล้าน – จากนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่แจ้งรายละเอียดการโอนข้อมูลให้ชัดเจนพอ
แม้ TikTok จะอัปเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ในปี 2022 และศาลยอมรับว่าตอนนี้นโยบายถูกต้องตามกฎหมายแต่การกระทำในอดีตก็ยังคงต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ตลอดการพิจารณาคดี TikTok ยืนยันว่า ข้อมูลผู้ใช้ไม่ได้ถูกเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน แต่แค่ถูกเข้าถึงจากระยะไกลจากทีมงานในจีนเท่านั้น
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว TikTok กลับออกมาสารภาพว่า พบข้อมูลผู้ใช้บางส่วนจากยุโรปหลงเหลืออยู่ในเซิร์ฟเวอร์จีนจริง และตอนนี้ได้ลบข้อมูลดังกล่าวออกแล้ว
Graham Doyle รองประธานกรรมการ DPC บอกว่าอาจมีการลงโทษเพิ่มเติมหากตรวจสอบพบว่ามีการละเมิดเพิ่มเติม
ในเวลาเดียวกัน สถานการณ์ของ TikTok ในสหรัฐฯ ก็ยังไม่แน่นอน เพราะแอปถูกแบนจากการเป็น ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติจนกว่าจะขายธุรกิจในสหรัฐฯ ให้กับผู้ซื้อที่ไม่ใช่จีน
ล่าสุด Donald Trump เพิ่งขยายระยะเวลาพักการแบนออกไปอีก 75 วัน ระหว่างที่กำลังเจรจาทางการค้ากับจีน