เผยผลการทดสอบ iPhone SE เอาชนะสมาร์ตโฟนเรือธง Android ได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนบุคคล

แม้ว่าจะถูกค่อนขอดมาตั้งแต่ช่วงที่ทำการเปิดตัวออกมาสำหรับ iPhone SE จากหลาย ๆ คนโดยเฉพาะผู้ที่ใช้งานสมาร์ตโฟน Android แต่อย่างที่เราน่าจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า ตัวเลขไม่เคยโกหกใครเช่นเดียวกับผลการทดสอบที่มีการเปิดเผยออกมาให้เราได้เห็นกันว่า iPhone SE มีประสิทธภาพในการทำงานในด้านของชิปเซ็ตและชิปกราฟิกที่สามารถเอาชนะสมาร์ตโฟนเรือธงของ Android ได้ทั้งหมด แม้ว่าสาเหตุจะมาจากการที่หน้าจอมีความละเอียดน้อยกว่าทำให้สามารถขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงานออกมาได้ดีกว่าก็ตาม

อย่างที่เราทราบกันดีว่าชิปเซ็ตที่มีการใช้งานภายใน iPhone SE คือตัวของ Apple A13 Bionic ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในฝั่งของ iPhone สำหรับสเปคของตัวชิปเซ็ตจะมาพร้อมกับ Core การทำงาน Lightning Performance 2 Core ที่ความเร็ว 2.66 GHz ขนาด L2 Cache 8 MB และ Thunder Efficiency 4 Core ความเร็ว 1.73 GHz ขนาด L2 Cache 4 MB อย่างไรก็ตามแรมที่มีให้อยู่ภายในเครื่องจะมีน้อยกว่า iPhone 11 อยู่ที่ 3 GB โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีแรมถึง 12 GB แบบสมาร์ตโฟน Android 

การทดสอบในครั้งนี้มาจากเว็บไซต์ AnandTech ที่มีการนำสมาร์ตโฟนชื่อดังจากหลากหลายค่ายไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung, Huawei, ASUS, Sony, LG, Google และ OnePlus มาทำการทดสอบกัน และจากผลการทดสอบได้เผยให้เราได้เห็นว่าสมาร์ตโฟนที่ใครหลาย ๆ คนค่อนขอดว่าไม่ดี ไม่คุ้ม ไม่ซื้อ แย่ ไม่ทันยุคสมัยอย่าง iPhone SE รุ่นใหม่ สามารถที่จะเอาชนะสมาร์ตโฟนเรือธงที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุดแรงที่สุดได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบในส่วนของ JetStream 2, WebXPRT 3, Basemark GPU และ GFXBench ล้วนแล้วแต่ทำได้ดีกว่าทั้งหมด

แต่อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีว่าผลการทดสอบ คะแนนต่าง ๆ ที่มาจากการทดสอบไม่ได้เป็นตัวที่จะสะท้อนว่าสมาร์ตโฟนแต่ละเครื่องดีแค่ไหนในชีวิตจริง บางคนที่ใช้งานสมาร์ตโฟนมากกว่าหนึ่งรุ่นน่าจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า บางครั้งการจ่ายเงินที่มากกว่าเครื่องเดิมไม่ได้บอกว่าเราจะได้สิ่งที่ดีกว่า มันขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยที่มาประกอบเข้าด้วยกัน แต่การทดสอบในครั้งนี้ก็น่าจะพอบอกได้ว่า iPhone SE ที่มีราคา 14,900 บาท ไม่ได้ไร้ค่าเหมือนกับที่หลาย ๆ คนได้วิจารณ์กัน