Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the health-check domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /newdata/vhosts/thisisgamethailand.com/httpdocs/wp-includes/functions.php on line 6121
6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based - Thisisgame Thailand
คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษ

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based

หลังลือว่าจะมีการเปลี่ยนแนวเกมเป็นรูปแบบใหม่

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะรอการเปิดตัวของ Resident Evil 9 ที่เขาบอกว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของเหล่าตัวละครหลักอย่างพวกคริส จิล ลีออน เอด้า แคลร์ และเลิกใช้ชื่อภาคที่ลงท้ายด้วยตัวเลข เนื่องจากว่าตัวละครในเกมนี้จะมีอายุตามชีวิตจริงนอกเกม ยิ่งเวลาผ่านไปตัวละครก็ยิ่งแก่ลง จึงทำให้ต้องมีตัวละครใหม่มาแบกซีรีส์อยู่ตลอด แต่ดูเหมือน Capcom จะไม่ประสบความสำเร็จในการขายตัวละครใหม่เท่าไหร่นัก เลยคิดว่าภาค 9 จะเป็นภาคสุดท้ายของตัวละครเก่าแถมยังมีการเปลี่ยนแนวเกมอีกด้วย ถึงแม้จะยังไม่บอกว่าเป็นแนวเกมอะไร แต่ถ้าเป็น Turn-based ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น ไปชมกันครับ

1. ความ Horror อาจจะลดลงไปมาก

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


Resident Evil เป็นเกมที่มีความ Horror เป็นองค์ประกอบหนึ่งของเกม ไม่ใช่ปัจจัยหลัก มันสามารถสูญเสียตรงนี้ไปได้บ้างแต่ก็ใช่ว่าจะไม่น่ากลัวเลย เพราะเกมนี้เป็นแนว Survival Horror คือการเอาชีวิตรอดจากความสยองขวัญ แต่ถ้าเกมมันไม่สยองพอ การเอาชีวิตรอดก็จะไม่น่าตื่นเต้นเหมือนอย่างเคย การเปลี่ยนมาเป็นแนว Turn-based อาจทำให้ความสยองขวัญลดน้อยลงไปพอสมควร เนื่องจากว่าผู้เล่นมักจะกลัวกับสิ่งที่ไม่ทันตั้งตัว จั้มป์สแกร์ ความหวาดระแวง การปรับตัวไม่ทัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาคู่กับเกมที่ต่อสู้ได้แบบเรียลไทม์ ต่างจาก Turn-based ที่เวลาจะหยุดให้คิด มีตัวเลขขึ้นให้คำนวณ ถ้าคุณคิดถูก ต่อให้สถานการณ์จะแย่งแค่ไหนก็ยังผ่านได้ ก็เลยคิดว่าความเป็น Turn-based อาจทำให้ความ Horror ภายในเกมนี้ลดลงนั่นเองครับ

2. ผู้เล่นอาจได้ปวดหัวกับการจัดการกระเป๋าหนักขึ้น

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


โดยปกตินั้น Resident Evil แทบจะทุกภาคก็มีปัญหาเรื่องการจัดกระเป๋าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องถึงขั้นเรียงบล็อกแบบ RE4 ก็ได้ แต่พื้นฐานของมันคือการที่ผู้เล่นต้องคิดว่าเราจะถือไอเทมอะไรติดตัวไปด้วยดี จะเป็นอาวุธ ยา กระสุน หรือ Key Item เพราะกระเป๋ามีขีดจำกัด ตอนที่เป็นแนว Survival Horror ก็ลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น Turn-based ซึ่งเป็นแนวเกมที่ต้องลงหนักไปด้านการใช้ความคิด ผมคิดว่ามันน่าจะต้องยากขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ เพราะเกมเปลี่ยนจุดโฟกัสมาเป็นการใช้สมองมากกว่าการใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอด

3. เนื้อเรื่องยาวขึ้นให้สมกับเป็นภาคอำลาตัวละครหลัก

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


จากที่กล่าวไปในข้างต้นว่า Resident Evil 9 จะเป็นภาคอำลาส่งท้ายตัวละครชุดเก่าที่เริ่มมีอายุมากขึ้นกันแล้ว ซึ่งถ้ามองจำนวนตัวละครยุคเก่าเซ็ตเดิมก็มีหลายสิบตัวอยู่เหมือนกัน และ RE แต่ละภาคก็จะแบ่งหน้าที่กันว่าภาคไหนเป็นของใคร แต่ถ้าจะอำลาทุกคนพร้อมกันหมด บอกเลยว่ามันจะต้องอยู่ในระดับมหากาพย์ใกล้เคียงกับภาค 6 หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งเนื้อเรื่องของเกม Action AAA ที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อความจุของเกมเหมือนเคสของ Final Fantasy VII Remake ได้ แต่ถ้าเป็นแนว Turn-based ก็อาจจะใส่เนื้อเรื่องในเกมได้เยอะขึ้นเพราะลดส่วนของเกมเพลย์ลงไป ถ้าเป็นแนว Turn-based อาจจะเก็บเนื้อเรื่องของตัวละครหลักทั้งหมดครบถ้วนก็ได้ครับ

4. Quick Time Event อาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกมสนุก

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


Quick Time Event เป็นระบบที่อยู่คู่กับ Resident Evil มาตั้งแต่ภาค 4 เป็นระบบที่มีหลายคนชอบ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เกลียดระบบนี้ เพราะเกมมันเป็นแนว Action การใส่ QTE มาเยอะเกินไปอาจทำให้บริบทการเล่นเกมเพลย์หลักนั้นเสียอรรถรสไปพอสมควร แต่สำหรับเกมแนว Turn-based นั้นกลับให้ผลตรงกันข้าม หากตัวเกมมีแต่การออกคำสั่งโจมตี ใช้สกิล ใช้ไอเทมเพียงอย่างเดียว อาจทำให้การเล่นเกม Turn-based นั้นน่าเบื่อได้ และระบบ QTE ก็อาจจะเข้ามามีส่วนช่วยในการทำให้เกมแนว Turn-based เป็นเกมที่มีความสนุก น่าตื่นเต้น และไม่น่าเบื่ออีกต่อไปนั่นเอง

5. ตัวละครน่าจะมีการแบ่งโรลหรือแบ่งคลาสอาชีพ

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


เกมแนว Turn-based จะไม่เหมือนกับเกม Action ที่ตัวละครทุกตัวจะเคลื่อนไหวตามที่ผู้เล่น เราสามารถเล่นตัวละครจิลกับคริสหรือเคลื่อนไหวเหมือนกันได้ ยิงแม่นเท่ากันได้ โยนระเบิดเหมือนกันได้ แต่ถ้าเกิดเป็นเกมแนว Turn-based แล้วทุกตัวละครทำเหมือนกันหมด อันนี้น่าเบื่อมากครับ เชื่อว่าถ้าเกิดเกมถูกเปลี่ยนมาเป็น Turn-based จริง ๆ ตัวละครแต่ละตัวน่าจะมาพร้อมกับโรลหรือคลาสที่แตกต่างกัน เช่น คริสอาจจะเป็นแทงค์ จิลอาจจะเป็นตัวทำดาเมจ รีเบคก้าอาจจะเป็นตัวฮีล เป็นต้น ซึ่งก็เป็นปกติของเกมแนว Turn-based ที่ตัวละครจะมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนครับ

6. อาจเสียฐานแฟน Action ตั้งแต่ภาค 4-6

6 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายเป็นแนว Turn-based


แน่นอนว่าการตัดสินใจเปลี่ยนแนวเกม ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียฐานแฟนเดิมที่ติดตามเกมนี้อยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าช่วงเปลี่ยนผ่านซีรีส์อย่างภาค 4 หรือภาค 7 นั้น ถึงแม้ในปัจจุบันจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีคนบ่นเยอะไม่ใช่น้อย และถ้าภาค 9 จะเปลี่ยนแนวเกมไปเป็น Turn-based ยังไงก็ต้องมีเสียงวิจารณ์พอสมควรแน่ ๆ โดยเฉพาะฐานแฟนสาย Action จากภาค 4-6 ที่เคยได้รับความสนุกจากเกมยิงบู๊แหลกมาก่อน ซึ่งจะแตกต่างจากฐานภาคอื่นที่โฟกัสไปที่ความ Horror ของเกมเป็นหลัก ก็เลยเดาไว้ว่าถ้าเกม RE เป็นแนว Turn-based จริง คนเล่น Action มาไม่น่าจะแฮปปี้ครับ

และนี่ก็คือ “6 สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหาก Resident Evil 9 กลายมาเป็นแนว Turn-based” เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลองคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะครับ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่แค่แนว Turn-based หรอก มันมีแนวอื่นอีกมากมายที่ RE น่าจะเอาไปทำเป็นแนวเกมใหม่ แต่เห็นคนแซวกันเยอะมากว่า RE จะเป็นแนว Turn-based หรือเปล่านะ ก็เลยหยิบมาวิเคราะห์ดูครับ 🙂

ที่มา
gamesradarredditgameplayscassieurogamertechtudosteam

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button